7 อาหารอันตรายที่เด็กเล็กห้ามกิน และพ่อแม่ไม่ควรป้อนให้ลูกเด็กขาด

WM

อาหารสำหรับเด็ก ถ้าเลือกผิดและป้อนลูกแบบไม่รู้ ลูกอาจเสี่ยงถึงชีวิตได้

อาหารที่ลูกกินเข้าไปส่งผลต่อสุขภาพของลูกโดยตรง คุณพ่อคุณแม่ทุกคนย่อมต้องการให้ลูกมีสุขภาพที่ดี เพื่อนำไปสู่การมีพัฒนาการที่ดีสมวัย แต่ก็มีอาหารบางอย่างที่ลูกทานแล้วทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพของลูก เพราะร่างกายของลูกยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ อาหารบางอย่างจึงส่งผลต่อพัฒนาการของลูกโดยตรง อาจทำให้พัฒนาการของลูกช้า ไม่เป็นไปตามวัยได้

อาหาร มีบทบาทในการกระตุ้นพัฒนาการของสมองและยังมีอิทธิพลต่อพฤติกรรม สติปัญญา และความเฉลียวฉลาดของเด็กเป็นอย่างมาก ซึ่งพ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกมีสมองดี ซึ่งการจะทำให้มีสมองที่ดีนั้น เกิดจากการเอาใจใส่ในเรื่องต่าง ๆ ทั้งการจัดการอารมณ์ การเรียนรู้ หรือแม้กระทั้ง การเลือกอาหารดี ๆ ให้ลูกได้ทานเพื่อบำรุงสมอง แต่หากเลือกอาหารผิดเป็นโทษ ผลเสียที่ตามมาแทนที่จะไม่ช่วยอะไรแล้ว อาหารยังทำลายสมองลูกของคุณได้อีกเช่นเดียวกัน มาดูดีกว่าว่าเราควรจะเลี่ยงอาหารอะไรกันบ้าง ที่จะทำร้ายและทำลายสมองของลูกรัก

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/fancycrave1-1115284/

1.เด็กทารกน้ำผึ้ง
น้ำผึ้งมีประโยชน์มากมายค่ะ แต่กลับมีโทษกับเด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ จึงห้ามเด็กเล็กกินน้ำผึ้งเด็ดขาดค่ะ เนื่องจากในน้ำผึ้งมีเชื้อแบคทีเรีย คลอสทริเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) เกิดการสร้างโคโลนีในทางเดินอาหารของทารก ซึ่งในลำไส้ของทารกอายุต่ำกว่า 1 ขวบ ยังไม่มีจุลินทรีย์ที่สามารถป้องกันการแบ่งตัวของสปอร์ได้เหมือนเด็กโตและผู้ใหญ่ สปอร์จึงเกิดการแบ่งตัวอยู่ในลำไส้ แล้วปล่อยสารพิษเข้ากระแสเลือดไปทั่วร่างกาย สำหรับทารกที่เกิดโรคโบทูลิซึม จะมีอาการแรกเริ่ม คือ
– ท้องผูก
– อาการง่วงซึม เฉยเมย
– ไม่ดูดนม ไม่กินอาหาร กลืนลำบาก
– ร้องไม่มีเสียง
– แขนขาเป็นอัมพาต
– กรณีถึงขั้นรุนแรง เด็กอาจจะมีอาการหายใจลำบาก และหยุดหายใจในที่สุด

2.เด็กเล็กไม่ควรกินป๊อบคอร์น หรือ อาหารประเภทถั่วหรือที่มีลักษณะเป็นเมล็ดเปลือกแข็ง
เนื่องจากเด็กเล็กไม่สามารถเคี้ยวอาหารเองได้ ซึ่งเมล็ดข้าวโพดที่คั่วหรืออบแล้วไม่แตกออกจะกลายเป็นข้าวโพดเมล็ดแข็ง เคี้ยวให้แตกละเอียดได้ยาก และสามารถหลุดลงคอจนทำให้เกิดอาการสำลักได้ สถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกา (American Academy Pediatrics) จึงมีข้อแนะนำว่าไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี กินป๊อบคอร์นหรืออาหารที่มีความเสี่ยงจะสำลัก เช่น ถั่วเปลือกแข็ง เป็นต้น

3.เด็กเล็กไม่ควรกินผลไม้บางชนิด
พ่อแม่หลายคนอาจจะไม่ได้ระวังมาก แต่ควรใส่ใจนะคะ เพราะผลไม้ลูกกลม ๆ เล็ก ๆ เช่น องุ่น ลำไย เงาะ เป็นต้น เป็นผลไม้ที่ลื่นมาก เสี่ยงหลุดเข้าคอไปอุดหลอดลมและเสียชีวิตได้ หากจะให้กินควรหั่นเป็นชิ้น หรือ เส้นเล็ก ๆ หรือใช้วิธีการปั่นละเอียด และเวลาทานต้องคอยดูลูกเพื่อความปลอดภัยค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/stevepb-282134/

4.เด็กเล็กไม่ควรลูกอมและเจลลี่
นอกจากรสชาติที่หวานเกินไปแล้ว ขนมเหล่านี้ยังส่งผลเสียอื่น ๆ ได้อีก เพราะอาหารประเภทนี้จะมีลักษณะ เหนียว แข็ง ลื่น และมีรูปร่างกลม ซึ่งมักจะลื่นไปติดหลอดลม และทำให้ลูกน้อยเสียชีวิตได้เลยนะคะ

5.เด็กเล็กไม่ควรกินเกลือ หรืออาหารที่มีรสเค็ม เช่น ขนมขบเคี้ยวต่างๆ อาหารสำเร็จรูป เป็นต้น
เด็กเล็กไม่ได้ต้องการเกลือมาก เพราะเป็นวัยที่ไตกำลังพัฒนา และยังไม่พร้อมที่จะกรองอาหารที่มีรสเค็มจนเกินไป ซึ่งอาหารที่นำมาปรุงให้เด็กมักมีรสชาติอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องปรุงรสเพิ่มเติมเข้าไปค่ะ ในเด็กโตก็เช่นกัน ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงขนมถุง หรืออาหารสำเร็จรูป เพราะมักมีเกลือเป็นส่วนประกอบที่มากเกินความต้องการของเด็ก

6.เด็กเล็กไม่ควรกินหอย
กระบวนการปรุงหอยมีโอกาสที่จะไม่สุกดี ก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษอย่างรุนแรงได้ โดยเฉพาะกับเด็กเล็ก ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/myriams-fotos-1627417/

7.เด็กเล็กไม่ควรกินอาหารดิบ หรือ ปรุงไม่สุก
เช่น ไข่ที่ไม่สุก หรือ ไข่ยางมะตูม รวมทั้งเนื้อสัตว์และผักต่าง ๆ ด้วย เพราะอาจมีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อน ก่อให้เกิดท้องเสียหรืออาหารเป็นพิษได้ ดังนั้น ควรปรุงอาหารให้สุกก่อน นำมาให้ลูกทานค่ะ
นอกจากอาหารเหล่านี้แล้ว ยังมีอาหารอีกหลายชนิดที่เด็ก ๆ ควรหลีกเลี่ยง เช่น น้ำอัดลม ขนมที่ไม่มีคุณค่าทางสารอาหารแถมยังใส่ผงชูรส เพื่อเพิ่มรสชาติ เป็นต้น

คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญในเรื่องอาหารการกินของลูก ต้องคอยระมัดระวังไม่หยิบยื่นอาหารที่เป็นอันตรายต่อลูก เพราะถ้าหากลูกทานอาหารเหล่านี้ตามที่ DooDiDo ได้นำมาบอกกล่าว อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตของลูกได้ค่ะ ควรเลือกอาหารที่ครบ 5 หมู่และมีความหลากหลายเพื่อช่วยเสริมให้ร่างกายแข็งแรงเพื่อนำไปสู่การมีพัฒนาการที่ดีในทุก ๆ ด้านของลูกค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.rakluke.com