7 พฤติกรรมทำลายสุขภาพของคนวัยทำงาน !!
มาดู!! พฤติกรรมที่ทำลายสุขภาพอย่างไม่รู้ตัว
สังคมคนทำงานในยุคปัจจุบันล้วนแล้วแต่มีความวุ่นวายและรีบเร่งในการดำรงชีวิต คนทำงานมักจะตั้งหน้าตั้งตาที่จะหาเงินเพียงอย่างเดียว จนลืมใส่ใจในเรื่องของสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจ
สุขภาพถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อชีวิตการทำงาน หากว่ามีเงินมากมาย แต่สุขภาพไม่ดี ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีพฤติกรรมที่ทำลายสุขภาพอย่างไม่รู้ตัว ที่บางครั้งอาจจะเกิดผลร้ายมากกว่าผลดี วันนี้เรามี 7 พฤติกรรมที่คุณควรหลีกเลี่ยงเพื่อที่จะรักษาสุขภาพที่ดี
- อดอาหารเช้า หรือทานข้าวไม่ตรงเวลา
หนึ่งในพฤติกรรมคลาสสิคของคนวัยทำงานในยุคสมัยแห่งความเร่งรีบคือ การอดอาหารเช้า เพื่อที่จะได้เข้างานตรงเวลาหรือว่าทำงานหนักจนทานข้าวไม่เป็นเวลา ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคได้ เนื่องจากการที่เราไม่ได้รับประทานอาหารเช้า ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ จนเกิดสภาวะอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ นำมาซึ่งอาการโรคสมองเสื่อม ในขณะที่การรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา อาจจะทำให้เราเป็นโรคกระเพาะได้
นอกจากนี้หากคนเป็นคนที่กินดึกแล้วนอนเลย อาจจะเสี่ยงที่จะเป็นโรคกรดไหลย้อนได้ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้สามารถแก้ได้ด้วยการทานอาหารให้เป็นเวลา และไม่อดอาหารเช้า
- รับประทานอาหารไม่มีประโยชน์
การกินอาหารนั้นมีความสำคัญ แต่หากเรากินทุกอย่างจนไม่ระวัง อาจจะส่งผลร้ายมากกว่าผลดี โดยเฉพาะหลาย ๆ คนที่ชอบกินอาหาร Junk Food หรืออาหารสำเร็จรูปเนื่องจากชีวิตประจำวันที่ต้องเร่งรีบอยู่ตลอดเวลา
พฤติกรรมแบบนี้เสี่ยงอันตรายอย่างมาก เนื่องจากอาหารประเภทนี้มักจะมีไขมันและคอเลสเตอรอลในอัตราที่สูงมาก รวมไปถึงปริมาณน้ำตาลและโซเดียมที่สูงกว่าอาหารทั่วไป ทำให้มีความเสี่ยงที่เกิดโรคตามมามากมาย เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคอ้วน โรคตับ และโรคอื่น ๆ อีกมากมาย
ซึ่งวิธีแก้ไขพฤติกรรมเหล่านี้คือการที่พยายามหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้ หรือพยายามที่จะลดการทานให้น้อยลง รวมไปถึงการออกกำลังกาย จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคที่จะเกิดขึ้น
- นั่งจ้องคอมพิวเตอร์นานเกินไป
พนักงานที่ทำงานออฟฟิศนอกจากเวลากินข้าวกับประชุมแล้ว ส่วนใหญ่มักจะอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโน็ตบุ๊คเป็นหลัก ซึ่งการที่จ้องหน้าจอเวลานานจนเกิดไปโดยที่ไม่ขยับตัวเลย อาจจะทำให้เกิดผลเสียได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นโรคยอดนิยมอย่าง ออฟฟิศซินโดรม ที่หากไม่ทำการรักษาให้ดีอาจจะเสี่ยงให้เกิดความพิการได้โดยวิธีในการลดความเสี่ยงของออฟฟิศซินโดรมคือการลุกออกจากหน้าจอบ้าง โดยในหนึ่งชั่วโมงควรที่จะพักสายตาและยืดเส้นยืดสายสัก 5 นาที หรืออาจจะใช้วิธีในการเดินไปห้องน้ำ แบบนี้จะช่วยทำให้ร่างกาย
- กลั้นปัสสาวะขณะทำงาน ไม่ยอมลุกไปเข้าห้องน้ำ
การที่ทำงานนาน ๆ ไม่ยอมลุกออกไปไหนนอกจากจะเสี่ยงในเรื่องของออฟฟิศซินโดรมแล้ว ยังเสี่ยงในเรื่องของการสุขภาพของกระเพาะปัสสาวะ เนื่องจากการนั่งทำงานจนไม่ลุกไปไหนแม้แต่การเขาห้องน้ำซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบและกรวยไตอักเสบ และยังทำให้กล้ามเนื้อหูรูดที่กระเพาะปัสสาวะอ่อนแรง จนทำให้ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้ โดยวิธีการแก้เรื่องนี้คือ หากว่าเรารู้สึกปวดปัสสาวะ เราควรที่จะไปเข้าห้องน้ำทันที เพื่อสุขภาพที่ดีแล้วค่อยกลับเข้าไปทำงานใหม่
- นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ
เรื่องนี้อาจจะเกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ทุ่มเทกับงานจนเวลาพักผ่อนไม่เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานจนนอนดึก สิ่งเหล่านี้ทำให้ร่างกายของเราทำงานไม่เป็นระบบหรือเรียกสั้น ๆ ว่านาฬิกาชีวิตพัง เนื่องจากร่างกายใช้เวลานอนในการซ่อมแซมส่วนต่างๆ ที่ซึกหรอ รวมไปถึงฟื้นฟูร่างกายให้พร้อม
การที่เรานอนดึกและพักผ่อนไม่เพียงพอนั้น นำไปสู่ปัญหาในระยะยาวได้ เช่นนอนตื่นมาแล้วไม่สดชื่น สมาธิสั้น รวมไปถึงโรคร้ายต่างๆ ดังนั้นหากเป็นไปได้ควรนอนวันละ 8 ชั่วโมง เพื่อตื่นมาในเช้าวันใหม่อย่างสดใสและพร้อมกับการทำงาน
- ดื่มเหล้า สูบบุหรี่
ปาร์ตี้หรือการสังสรรค์ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการวัฒนธรรมองค์กรในบางแห่ง ที่ทำให้พนักงานรู้จักกันดียิ่งขึ้นอีกทั้งยังทำให้พนักงานคลายเครียดอีกทาง แต่การสังสรรค์ที่มากจนเกินไป อาจจะทำให้ร่างกายพังได้ ทั้งในเรื่องของการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำจะทำให้เสี่ยงต่อโรคตับแข็ง มะเร็งตับ หรือโรคหัวใจได้ นอกจากนี้บางคนยังนิยมสูบบุหรี่ระหว่างการทำงานด้วย ทำให้เสี่ยงต่อการโรคมะเร็งปอด โรคถุงลมโป่งพอง โรคหัวใจและหลอดเลือด รวมไปถึงโรคอื่น ๆ ที่จะตามมาในอนาคตดังนั้นหากอยากสุขภาพแข็งแรงก็ควรเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ หรือลดให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
- ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย
ชีวิตที่เร่งรีบและงานที่หนักจนเกิดไป ทำให้หลาย ๆ คนลืมว่า เราควรออกกำลังกายด้วย เพราะการออกกำลังกายเป็นจุดเริ่มต้นของสุขภาพที่ดี ช่วยสร้างสมดุลให้ร่างกายและปรับสมดุลให้กับชีวิต จะทำให้เรามีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกทาง เราควรจะออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว
จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมต่างๆ 7 อย่างที่ DooDiDo ได้กล่าวมาด้านต้นนั้น เป็นพฤติกรรมทั่วไปที่เรามักจะทำเป็นเรื่องปกติในชีวิตของการทำงาน ดังนั้นควรที่จะมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารให้มีคุณภาพ และที่สำคัญอย่าลืมออกกำลังกายให้เป็นประจำสม่ำเสมอ ทำได้แบบนี้รับรองว่าสุขภาพดีขึ้นอย่างแน่นอน
ขอบคุณแหล่งที่มา: https://th.jobsdb.com