6 โทษของคาเฟอีน กินมากเกินไปอาจถึงตายอย่างกะทันหัน 

WM

อย่ากินคาเฟอีนมากเกินไป เพราะอาจอันตรายถึงชีวิตได้

คาเฟอีนที่มีในกาแฟหรือผสมในเครื่องดื่มมีทั้งประโยชน์และโทษ แต่หากเราบริโภคคาเฟอีนมากเกินไป อันตรายถึงตายได้ง่าย ๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีโรคประจำตัวมาก่อนเลย! อะไรที่มากเกินไปย่อมไม่ดีในทุกกรณีค่ะ ยิ่งหากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสุขภาพ ความปลอดภัยของชีวิตแล้ว ยิ่งต้องดูแลกันให้มากขึ้น อย่างวันนี้เราก็จำเป็นต้องออกมาเตือนทุกคนจริง ๆ ว่า อย่ากินคาเฟอีนมากเกินไป เพราะอาจอันตรายถึงชีวิตได้เลย (อ่านข่าว สลด.. หนุ่มวัย 16 ดับเพราะคาเฟอีน หลังดื่มกาแฟ-น้ำอัดลม-เครื่องดื่มชูกำลัง ใน 2 ชม.)

เกริ่นไปขนาดนี้เหล่าคอฟฟี่เลิฟเวอร์อาจมีสะดุ้งกันบ้าง เพราะยังไม่รู้ชัดว่าปริมาณคาเฟอีนแค่ไหนถึงจะเรียกว่ามากเกินไปจนเสี่ยงต่ออันตราย ดังนั้นเราขอบอกให้ทราบไปพร้อมกันเลยว่า สำหรับผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังหรือโรคอันตรายใด ๆ ไม่ควรได้รับคาเฟอีนเกินวันละ 200-400 มิลลิกรัม โดยคำนวณง่าย ๆ จะได้กาแฟไม่เกิน 4 แก้ว หรือน้ำอัดลมไม่เกิน 10 กระป๋อง หรือเครื่องดื่มชูกำลังไม่เกิน 2 ขวด โดยประมาณ แต่หากได้รับคาเฟอีนเกินกว่านี้ องค์การอาหารและยา สหรัฐอเมริกา ก็ออกโรงเตือนเลยว่าอยู่ในเกณฑ์ที่อันตราย เอาล่ะ…หลายคนอาจยังไม่เห็นภาพว่าหากดื่มกาแฟหรือปล่อยให้ร่างกายรับคาเฟอีนมากเกินปริมาณที่แนะนำแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเราได้บ้าง ดังนั้นเราจะไม่รอช้าค่ะ ขอแฉโทษของคาเฟอีนต่อสุขภาพให้เห็นตามนี้เลย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/stocksnap-894430/
  1. กระตุ้นอาการปวดหัว

          แม้คาเฟอีนในจำนวนเล็กน้อยจะช่วยบรรเทาอาหารปวดหัวได้ในบางคน แต่หากร่างกายได้รับคาเฟอีนมากเกินไป ฤทธิ์ของคาเฟอีนอาจส่งผลตรงกันข้าม คือกระตุ้นอาการปวดหัวหนัก ๆ ได้ และอาจพัฒนาไปเป็นโรคไมเกรนในที่สุด

  1. ใจสั่น ใจเต้นเร็วผิดปกติ   

          นี่เป็นสัญญาณเริ่มต้นที่ร่างกายบอกให้เรารู้ว่าตอนนี้รับคาเฟอีนมามากเกินขีดจำกัดแล้ว โดยคนที่ดื่มกาแฟหลายแก้วใน 1 วัน หรือกินอาหารที่มีคาเฟอีนเข้มข้นมาก ๆ จะรู้สึกได้เลยว่าเกิดอาการใจสั่น ใจเต้นเร็วผิดปกติ นั่นก็เพราะคาเฟอีนเป็นสารกระตุ้นประสาท โดยจะออกฤทธิ์กระตุ้นสมองส่วนกลาง ก่อให้เกิดอาการผิดปกติดังกล่าวได้

  1. ความดันโลหิตสูงขึ้น

          งานวิจัยจาก Mayo Clinic เผยว่า ปริมาณคาเฟอีน 160 มิลลิกรัมก็เพียงพอให้ความดันโลหิตในร่างกายเราสูงขึ้นได้ ดังนั้นคนที่มีโรคความดันโลหิตสูงจึงควรต้องระมัดระวัง พร้อมทั้งจำกัดปริมาณคาเฟอีนที่ควรได้รับต่อวันให้ไม่เกิน 250 มิลลิกรัม (กาแฟประมาณ 2 แก้วกว่า ๆ) ไม่อย่างนั้นอาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังดื่มกาแฟเข้าไป เพราะนั่นเป็นช่วงที่คาเฟอีนซึมเข้ากระแสเลือดได้อย่างเต็มที่แล้ว

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@mikailduran
  1. เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจในวัยรุ่น

   ดร.Lucio Mos หัวหน้าทีมวิจัยพบว่า ในกลุ่มวัยรุ่นที่ดื่มกาแฟเกินขนาด หรือได้รับคาเฟอีนมากเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้ถึง 4 เท่า (กรณีที่ดื่มกาแฟเกิน 4 แก้วต่อวัน) ทั้งนี้ไม่เพียงแต่กาแฟเท่านั้นที่มีคาเฟอีนนะคะ แต่ยังรวมไปถึงน้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง ยาพาราเซตามอล ยาแก้ปวด ช็อกโกแลต หรือชาชนิดต่าง ๆ ด้วย ซึ่งหากบริโภคอาหารที่มีคาเฟอีนเหล่านี้มากเกินไป โอกาสที่ร่างกายจะได้รับคาเฟอีนเกินขนาดก็ย่อมมีมากขึ้น

  1. เพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมและซีสต์ในผู้หญิง

    ผลการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่รับคาเฟอีนเข้าร่างกายมากกว่า 500 มิลลิกรัมต่อวัน จะมีความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมและการเกิดซีสต์เพิ่มขึ้น 2-3 เท่าเลยทีเดียว

  1. ลำไส้แปรปรวน

          หากเราบริโภคคาเฟอีนมากกว่า 500-600 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเทียบกับกาแฟ 5-6 แก้ว อาจเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำได้ เนื่องจากคาเฟอีนมีฤทธิ์เป็นสารขับน้ำอย่างหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ปวดปัสสาวะบ่อย อีกทั้งคาเฟอีนยังมีฤทธิ์เป็นยาระบาย คนที่ได้รับคาเฟอีนมากเกินไปจึงอาจมีอาการท้องไส้ปั่นป่วน ท้องเสีย หรือมีอาการลำไส้แปรปรวนได้

โทษของคาเฟอีนที่มากเกินไปน่ากลัวน้อยซะเมื่อไรจริงไหมคะ ดังนั้น DooDiDo จึงอยากเตือนทุกคนอีกครั้งว่าพยายามหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในกรณีที่ไม่จำเป็นจริง ๆ จะดีกว่า หรืออย่างน้อยจำกัดปริมาณคาเฟอีนที่ร่างกายจะได้รับต่อวันก็ยังดี และอย่าลืมเด็ดขาดด้วยนะคะว่า ไม่ใช่แค่กาแฟเท่านั้นที่มีคาเฟอีน แต่อาหารและเครื่องดื่มชนิดอื่นก็มีคาเฟอีนด้วยเช่นกัน

ขอบคุณแหล่งที่มา: https://health.kapook.com