6 อาหารที่ทำให้ฟันผุและเกิดโรคต่างๆ ในช่องปากได้ง่าย

WM

ควรเลือกทานอาหารที่ไม่ทำให้ฟันผุ และทำความสะอาดฟันและช่องปากอย่างถูกวิธี

สุขภาพช่องปากและฟันใครว่าไม่สำคัญ การดูแลสุขภาพช่องปาก ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาดนะคะ เพราะฟันมีหน้าที่สำคัญในการบดเคี้ยวอาหาร เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน ส่งผลทำให้ร่างกายแข็งแรงหากฟันมีปัญหาหรือปวดฟัน ทำให้เราทานอาหารได้น้อย เมื่อทานอาหารน้อยลง จะทำให้ร่างกายแย่ตามไปด้วยเนื่องจากได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนนั่นเอง

หากถามว่าฟันทำหน้าที่อะไร? ทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่า หน้าที่ของฟันหลัก ๆ คือ เป็นอวัยวะที่ใช้ในเคี้ยว กัด และฉีกอาหารให้ละเอียด ช่วยให้กลืนอาหารได้สะดวก และทำให้ระบบย่อยอาหารในร่างกายทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องดูแลรักษาฟันและช่องปากด้วยความใส่ใจ เลือกรับประทานอาหารที่ไม่ทำให้ฟันผุ และทำความสะอาดฟันและช่องปากอย่างถูกวิธี เพราะถ้าหากเกิดโรคฟันและช่องปากต่าง ๆ เช่น ฟันผุ, ฟันแตกหัก, เหงือกอักเสบ หรือรากฟันอักเสบ จนทำให้สูญเสียฟัน นอกจากจะทำให้เราเจ็บปวดแล้ว ยังส่งผลให้เราเคี้ยวอาหารไม่สะดวก ทำให้รับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ได้น้อยลง ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็น และนำไปสู่การเกิดโรคอื่น ๆ ในร่างกายตามมาได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@liu11

1. น้ำอัดลมและน้ำหวาน
ในช่วงที่อากาศร้อน ๆ ทำงานมาเหนื่อย ๆ การได้ดื่มน้ำอัดลม หรือน้ำหวานเย็น ๆ สักแก้ว ก็ช่วยสร้างความสดชื่นให้กับร่างกายได้ไม่น้อย แต่ไม่ควรดื่มบ่อยจนเกินไป เพราะน้ำตาลที่อยู่ในน้ำหวานและน้ำอัดลมจะทำให้เกิดคราบพลัคได้ง่าย อีกทั้งกรดคาร์บอนิก (Carbonic acid) ที่อยู่น้ำอัดลม ยังมีฤทธิ์กัดกร่อนผิวเคลือบฟัน และเป็นต้นเหตุทำให้ฟันสึกกร่อนได้มากที่สุดด้วย

2. ผลไม้รสเปรี้ยวจัด
ผลไม้รสเปรี้ยวต่าง ๆ เช่น มะยม มะนาว มะม่วง มะขาม สับปะรด แอปเปิลเขียว มะเฟือง หรือตะลิงปลิง จะมีค่าความเป็นกรดค่อนข้างสูง เมื่อเรารับประทานเข้าไปแล้ว กรดที่อยู่ผลไม้จะทำให้เกิดความระคายเคืองที่เนื้อเยื่อในช่องปาก และกัดกร่อนชั้นผิวเคลือบฟันที่คอยปกป้องเนื้อฟันอยู่ หากรับประทานบ่อย ๆ เป็นประจำทุกวัน จะทำให้ผิวเคลือบฟันค่อย ๆ บางลง จนทำให้เกิดอาการเสียวฟัน และฟันผุได้ง่ายกว่าปกติ

3. ไอศกรีมและขนมหวาน
น้ำตาลจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียในช่องปาก และทำให้เกิดคราบพลัคบนผิวฟัน นอกจากนี้ยังทำให้ช่องปากมีค่าความเป็นกรดสูง ซึ่งจะทำให้ผิวเคลือบฟันถูกทำลายได้ง่าย การรับประทานไอศกรีมและขนมหวานที่มีส่วนผสมของน้ำตาลสูงบ่อย ๆ จึงเสี่ยงทำให้เกิดฟันผุได้ง่ายนั่นเอง

4. อาหารแข็ง โดยเฉพาะน้ำแข็ง
แม้ว่าฟันจะมีหน้าที่ในการเคี้ยวอาหาร แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถเคี้ยวอาหารได้ทุกชนิด คุณควรหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นของแข็งและเหนียว เช่น น้ำแข็ง ถั่ว หรือกระดูกหมู เพราะเสี่ยงทำให้เกิดฟันบิ่น แตก หรือหักได้ ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะต้องรักษาด้วยการอุดฟัน หรือทำครอบฟัน (Crown) เพราะไม่อย่างนั้นจะทำให้เกิดโรคฟันผุตามมาได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/jcomp

5. ชาและกาแฟ
สารเทนนิน (Tannin) ที่พบในชาและกาแฟ มีฤทธิ์กัดกร่อนผิวฟัน และทำให้ฟันสึกกร่อนง่าย การดื่มชาและกาแฟเป็นประจำทุกวันจึงเสี่ยงทำให้เกิดฟันผุได้ สำหรับใครที่ชอบดื่มชาและกาแฟเป็นประจำ แนะนำให้ดื่มในปริมาณที่เหมาะสม และหลังจากดื่มเสร็จแล้ว ให้กลั้วปากด้วยน้ำเปล่าก็จะช่วยเจือจางความเข้มข้นของสารเทนนินที่อยู่ในช่องปากได้

6. ผลไม้อบแห้ง
ผลไม้อบแห้งเป็นอีกหนึ่งอาหารทำให้ฟันผุที่คนหลายคนมองข้ามไป นอกจากจะมีน้ำตาลสูงแล้ว ยังเป็นอาหารที่มีความเหนียวและแข็งด้วย จึงไม่ควรรับประทานบ่อยจนเกินไป และหลังจากรับประทานเสร็จแล้วควรทำความสะอาดฟันและช่องปากให้เหมาะสม

สุขภาพฟันที่ดีจะส่งผลทำให้เรามีสุขภาพดีตามไปด้วย เพราะถ้าหากฟันเราผุหรือเกิดโรคต่าง ๆ ในช่องปาก จะทำให้เราทานอาหารได้น้อยลง ส่งผลทำให้ร่างกายจาดสารอาหาร เสี่ยงกับโรคภัยไข้เจ็บตามมาได้ ดังนั้นต้องดูแลรักษาสุขภาพของฟันให้ดี เลี่ยงอาหารตามที่ DooDiDo นำมาบอกกล่าวในวันนี้ เพื่อให้สุขภาพฟันและข่องปากดี ไม่ให้ฟันถูกทำลายนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.thantakit.com