6 วิธีเพิ่มเสน่ห์ให้สาวๆ แบบง่ายๆ ตามหลักเหตุผลทางวิทยาศาสตร์
เคล็ด(ไม่)ลับ!! หากอยากเป็นสาวที่ดูมีเสน่ห์ และเป็นที่สนใจของคนรอบข้างควรทำยังไง
จริงอยู่ที่ถ้าหากเราดูแลร่างกาย ใบหน้าและทรงผมให้ดีอยู่ตลอดแล้วล่ะก็นั่นจะเป็นหน้าต่างที่จะดึงดูดให้คนเข้ามาสนใจเรามากขึ้น(ก็แบบว่า สิ่งนี้เป็นด่านแรกที่ทุกคนจะได้รู้จักเรานี่คะ) แต่สำหรับสาวโสดแล้วล่ะก็แค่ดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจ แค่นั้นก็ไม่เพียงพอหรอกค่ะ ถ้าอยากจะหาเส้นทางหรือเพิ่มโอกาสดีๆ ในชีวิตและเจอคนที่ดีแล้วล่ะก็ ต้องคอยบริหารเสน่ห์ด้วยนะคะ และถึงแม้ว่าสาวๆ อาจจะมีเสน่ห์ในตัวเองอยู่แล้วตาม ถ้าไม่มีวิธีที่จะเปิดเผยออกมาให้คนอื่นๆ เห็นก็เสียดายแย่เลย
เป็นเรื่องที่ไม่แปลกหรอกค่ะ ที่ใครๆ ก็อยากจะอยากมีเสน่ห์ การเป็นที่ชื่นชมและเป็นที่สนใจของคนรอบข้าง โดยเฉพาะคนที่เราชอบก็เป็นเรื่องปกติ แต่บางครั้งการเพิ่มเสน่ห์ให้ตัวเองก็มักจะถูกตีความผิดๆ หรือเลือกใช้วิธีการผิดๆ จนถูกมองว่า งมงาย(เรื่องไสยศาสตร์) แต่เพื่อให้คุณมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น วันนี้เราไปหาวิธีเพิ่มเสน่ห์ให้ตัวเองด้วยเหตุผลแบบวิทยาศาสตร์เพียวๆ ไม่เกี่ยวกับเรื่องไสยศาสตร์ใดๆ มาฝากทุกคนค่ะ
- อยู่กับเพื่อนสะดุดตากว่าอยู่ลำพัง
การอยู่ท่ามกลางเพื่อนฝูงจะทำให้คุณดูดีขึ้น….เป็นไปได้อย่างไร? เรื่องนี้วิทยาศาสตร์มีคำตอบให้ค่ะ คือยังงี้…นักจิตวิทยาเขาไปวิจัยจนค้นพบว่า สมองของมนุษย์นั้นมีแนวโน้มที่จะสนใจผู้คนที่อยู่เป็นกลุ่มก้อนมากกว่าคนที่ยืนอยู่ตามลำพัง ปรากฏการณ์นี้ เรียกว่า เชียร์ลีดเดอร์ เอ็ฟเฟค (cheerleader effect) ซึ่งผลดีจะตกกับคนที่หน้าตาไม่ได้สวยโดดเด้ง ออร่าเปล่งประกายมาแต่ไกล จนใครก็ต้องมองเหลียวหลัง การออกไปไหนมาไหนกับเพื่อนฝูง จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจ ยิ่งได้ก๊วนเพื่อนที่มีสไตล์ หรือมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองแล้ว จะยิ่งช่วยดึงดูดความสนใจได้มากขึ้นค่ะ
- ผับใกล้ปิดคือนาทีทอง
อาจจะดู 18+ ไปนิด แต่มันมีการทดลองออกมาแล้ว เมื่อผลวิจัยของมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย ในปี 1979 แสดงให้เห็นว่า สาวๆ จะดูมีเสน่ห์มากขึ้นเมื่อใกล้ถึงเวลาผับปิด และจากผลวิจัยในปี 2010 ก็ออกมาตอกย้ำอีกครั้งว่า นักเที่ยวที่อยู่ในผับจะดูมีเสน่ห์เย้ายวนมากขึ้น เมื่อใกล้เวลาผับปิด แต่เฉพาะกับคนโสดเท่านั้น ซึ่งเราเดาว่า เวลาคือตัวเร่งสำคัญที่ทำให้คนเราสนใจฝ่ายตรงข้าม ยิ่งเหลือเวลาน้อยเท่าไหร่ เรายิ่งสนใจและอยากมองฝ่ายตรงข้ามมากขึ้นเท่านั้น
- ยิ้ม
ใบหน้าเปื้อนยิ้ม สามารถสร้างแรงดึงดูดให้คนที่มองเห็นตอบสนองกับรอยยิ้มนั้นได้ ไม่ต่างอะไรกับเวลาที่เราได้รับรางวัล สมองส่วนที่เรียกว่า the medial orbitofrontal cortex จะถูกกระตุ้นให้รู้สึกดี อยากรู้อยากเห็นมากขึ้น นอกจากนี้ผลวิจัยจาก British ยังพบว่าฟันขาวๆ ที่เผยให้เห็นในขณะยิ้มมีส่วนช่วยให้คนเราดูดีมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นเพราะนั่นแสดงถึงความมีสุขภาพดีก็เป็นได้ (อย่าลืมยิ้มบ่อยๆ นะคะ สาวๆ)
- ชุดแดงแรงฤทธิ์
สีแดงสื่อความหมายถึงหัวใจ ดอกกุหลาบ ความรัก ซึ่งมีการวิจัยเกี่ยวกับสีแดงออกมาแล้วว่า ทั้งชายและหญิงจะให้ความสนใจกับเพศตรงข้ามเมื่ออีกฝ่ายสวมใส่เสื้อผ้าสีแดง โดยให้อาสาสมัครดูรูปภาพคนที่สวมใส่เสื้อผ้าสีแดง ซึ่งพบว่าอาสาสมัครจะมีความสนอกสนใจรูปภาพมากขึ้นเมื่อคนในภาพสวมเสื้อผ้าสีแดง
- ปรับโทนเสียง (ไม่ใช่บีบเสียง)
โทนเสียงที่ใช้พูดจามีส่วนสำคัญในการเพิ่มหรือลดความน่าดึงดูดได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งของ มหาวิทยาลัยคอลเลจ ลอนดอน พบกว่า ผู้หญิงที่มีโทนเสียงสูงกว่าจะดูมีเสน่ห์ชวนมองมากกว่าผู้หญิงที่ใช้โทนเสียงต่ำ เพราะว่าคนฟังจะเข้าใจว่าเจ้าของเสียงสูงๆ เล็กๆ นี้จะมีรูปร่างบอบบาง น่าถนุถนอมตามไปด้วย
- ขายอารมณ์ขัน
ทั้งเพศชายและเพศหญิงต่างมีแนวโน้มที่อยากจะมีปฏิสัมพันธ์ด้วยกับคนมีอารมณ์ขัน จากผลการศึกษาของ Eric Bressler จาก กองทุนมหาวิทยาลัยเวสต์ฟีลด์ สเตจ คอลเลจ พบว่า เพศชายและเพศหญิงให้คุณค่ากับความีอารมณ์ขันต่างกัน ในเพศหญิงจะมีแนวโน้มชื่นชอบผู้ชายที่ทำให้พวกเธอหัวเราะได้ ในขณะที่เพศชายจะชอบหญิงสาวที่หัวเราะเมื่อหนุ่มทำสิ่งตลกๆ ให้ดู จากผลวิจัยนี้พอจะชี้ได้ว่า คนที่มีอารมณ์ขันมักจะถูกมองว่าเป็นที่ชื่นชอบในสังคม เป็นคนฉลาด ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้หญิงมองหาในตัวคู่รักนั่นเอง
วิธีการที่ DooDiDo นำมาฝากวันนี้เป็นวิธีเล็กๆ น้อยๆ ที่ใช้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาที่สามารถเชื่อถือได้ว่ามันได้ผลจริงค่ะ และถึงแม้ว่าสาวๆ ไม่ได้เป็นคนมีอารมณ์ขัน ไม่ได้ชอบใส่เสื้อผ้าสีแดงและไม่ได้เที่ยวในผับในบาร์แบบที่เราเสนอมานั้นแล้วล่ะก็อย่าได้คิดเชียวนะว่าจะต้องฝืนทำสิ่งเหล่านี้เสมอไป เพราะถ้าหากสาวๆฝืนทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเองแล้วล่ะก็อาจจะได้ผลลัพธ์ตรงกันข้ามและบั่นทอนความมั่นใจของตัวเองได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นการเป็นตัวเอง เป็นในแบบที่เรามั่นใจที่สุด นั่นก็ถือว่าเป็นเสน่ห์อย่างนึง เป็นสิ่งที่จะสามารถช่วยดึงดูดสิ่งที่ดี ที่เข้ากับเราได้ดี เข้ามาได้อีกเช่นกันค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา: https://today.line.me