3 น้ำสมุนไพร ดีต่อสุขภาพ ทำเองก็ได้ง่ายสุดๆ

น้ำสมุนไพร

พามารู้จักกับ น้ำสมุนไพร ที่ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง

น้ำสมุนไพร คนไทยรู้จักการนำสมุนไพรมาใช้ให้เกิดประโยชน์มาอย่างยาวนาน ด้วยประสบการณ์ที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่นจนเกิดการบันทึกเป็นตำหรับยาแพทย์แผนไทยที่เราต่างคุ้นเคยกันดี นอกจากสมุนไพรจะถูกนำมาใช้เป็นยารักษาโรคแล้ว คนสมัยโบราณยังมีการพลิกแพลงนำสมุนไพรมาคั้นเป็นเครื่องดื่ม น้ำสมุนไพร โดยมีคำบอกเล่าว่าช่วยให้สุขภาพแข็งแรง สามารถบรรเทาอาการไปจนถึงรักษาโรคได้ 

วิธีเก็บ น้ำสมุนไพร ให้นานๆ

น้ำสมุนไพรพาสเจอร์ไรส์ มีอายุของผลิตภัณฑ์นานถึง 30 วันหากเก็บรักษาอย่างถูกต้อง
1. ระหว่างขนส่งควรใส่ผลิตภัณฑ์ไว้ในภาชนะที่เก็บรักษาความเย็นได้ดี เช่น กล่องโฟม กระติกน้ำแข็ง และควรใส่น้ำแข็ง
2. เมื่อถึงบ้านควรแช่ในตู้เย็นทันที ที่อุณหภูมิตู้เย็นควรต่ำกว่า 6 องศาเซลเซียส และไม่เปิดปิดตู้เย็นบ่อยๆ
3. เมื่อนำมาบริโภคแล้วควรรับประทานให้หมด ถ้าไม่หมดรีบเก็บในตู้เย็นทันที
หากดำเนินการเก็บรักษาน้ำสมุนไพรพาสเจอร์ไรส์ ตามคำแนะนำในข้างต้นแล้ว ท่านจะสามารถเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ให้มีอายุตามวันหมดอายุที่ระบุไว้บนฝาขวด และดื่มผลิตภัณฑ์ได้อย่างปลอดภัย

ปล. เพื่อป้องกันการเสื่อมเสียของผลิตภัณฑ์ก่อนวันหมดอายุจากการเก็บรักษาไม่ถูกต้อง
วันหมดอายุบนฝาขวดเฉพาะในกรณีที่ยังไม่เปิดขวด ถ้าเปิดแล้วและนำกลับไปแข่ตู้เย็นควรจะดื่มให้หมดเร็วที่สุด (เพราะกระบวนการผลิตเครื่องดื่มพาสเจอร์ไรส์ใช้ความร้อนในการฆ่าเชื้อไม่สูงมากเพื่อให้คงคุณค่าทางสารอาหาร และทำให้เย็นอย่างรวดเร็วเพื่อหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อ)
การแช่ผลิตภัณฑ์พาสเจอร์ไรส์ให้เย็นตลอดเวลาเพื่อหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อ เพราะถ้าอุณหภูมิสูงขึ้นเชื้อก็จะเริ่มเจริญเติบโตทำให้ผลิตภัณฑ์พาสเจอร์ไรส์เสียก่อนวันหมดอายุ

จากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมามีข่าวที่แชร์กันในวงกว้างว่าฟ้าทะลายโจรสามารถรักษาโควิดได้ รวมถึงน้ำสมุนไพร่อย่างน้ำกระชายนั้นสามารถป้องกันโควิดได้เช่นกัน ทำให้คนไทยหลายคนเริ่มหันมาเห็นความสำคัญของสมุนไพรมากขึ้น ซึ่งความเชื่อดังกล่าวนั้นถูกเพียงครึ่งเดียว เพราะว่าการกินฟ้าทะลายโจรนั้นไม่ได้ป้องกันโควิดได้อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ฟ้าทะลายโจรสามารถช่วยยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไว้รัสได้ในระดับหนึ่ง หรือมีอีกข่าวปลอมหนึ่งที่แชร์กันมาบ่อยนั่นคือเครื่องดื่มสมุนไพรสามเกลอ (กระเจี๊ยบ เนื้อพุทรา ใบเตย) ช่วยรักษาโรคหลอดเลือดในหัวใจได้ อันนี้ก็ไม่มีผลวิจัยออกมาอย่างเป็นทางการว่ารักษาได้จริง ดังนั้นการใช้สมุนไพรจึงต้องใช้ควบคู่ไปกับการรักษาตามแพทย์แผนปัจจุบัน หรือผู้ใช้สมุนไพรต้องศึกษารายละเอียดและสรรพคุณให้ดีก่อนนำมาใช้

กรณีที่ยกตัวอย่างให้ทราบด้านบนสามารถสรุปได้ว่า โรคภัยบางอย่างไม่สามารถรักษาด้วยการดื่มสมุนไพรได้ 100 เปอร์เซ็น แต่เครื่องดื่มสุมนไพรบางประเภทใช้รักษาควบคู่ไปกับการรักษาแผนปัจจุบันได้ ก่อนที่คุณจะเชื่อข่าวต่าง ๆ ให้ลองตรวจสอบความถูกต้อง และรอยืนยันผลอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือและก่อนใช้สมุนไพรควรต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน วันนี้เราจะพาทุกคนเข้าโหมดเฮลธ์ตี้กันบ้าง โดยเราจะพามารู้จักกับ น้ำสมุนไพร ดีๆ มีประโยชน์ ซึ่งแต่ละชนิดนั้นล้วนแต่หาดื่มง่าย ทำดื่มเองก็ได้ แถมส่วนมากยังปลูกไว้ที่สวนหลังบ้านได้ชิลๆ ด้วยค่ะ ตามมาดูกันเลยค่ะ

เครื่องดื่ม น้ำสมุนไพร พร้อมสรรพคุณ

น้ำมะตูม

  1. น้ำมะตูม 

เริ่มต้นกันกับ น้ำมะตูม (Bael Fruit)  พืชสมุนไพรที่นิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มดับกระหาย เพราะมีกลิ่นหอมหวาน ช่วยให้ชุ่มคอ อีกทั้งยังมีประโยชน์เพียบ! ไม่ว่าจะเป็นช่วยขับลม แก้อาการท้องผูก-จุกเสียด รักษาโรคกระเพาะ และมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ 

ส่วนที่เรานำมาทำเครื่องดื่มจะเป็นส่วนผลของมะตูมค่ะ หาซื้อแบบที่ฝานเป็นแว่นตากแห้งได้ตามร้านยาแผนโบราณหรือตามตลาด หรือจะสั่งออนไลน์ก็หาง่ายค่ะ เอามาต้มกับน้ำสะอาด ดื่มอุ่นๆ เหมือนชาสมุนไพร หรือจะเติมน้ำตาลซักหน่อย ใส่น้ำแข็งอีกนิด ดื่มแล้วสดชื่นคลายร้อนได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ

วิธีทำน้ำมะตูม : 

  • เติมน้ำเปล่าลงในหม้อ แล้วใส่มะตูมประมาณ 5-8 แว่นตามลงไป ต้มจนกระทั่งเดือด สังเกตว่าน้ำจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมน้ำตาล ต้มต่อไปอีก 15-20 นาที
  • เติมน้ำตาลทรายแดงลงไปในสัดส่วนตามชอบ คนจนน้ำตาลละลายจนหมด เคี่ยวต่อไปเรื่อยๆ จนน้ำมีสีเข้มขึ้นและส่งกลิ่นหอมได้ที่ ยกลงจากเตา แล้วกรองด้วยผ้าขาวบางเพื่อเอาเศษมะตูมออกให้เหลือแค่น้ำ ตั้งพักทิ้งไว้ สามารถดื่มเป็นทั้งแบบร้อนและเย็นผสมน้ำแข็งก็ได้รสชาติที่หอมอร่อย  

สรรพคุณของมะตูมทางด้านการบำรุงร่างกายหรือรักษาอาการของโรค มีดังนี้

  • ผลแก่แต่ไม่สุกใช้รับประทานเป็นยาบำรุงร่างกาย รักษาธาตุ บำรุงธาตุไฟ
  • ช่วยรักษาอาการท้องร่วง ท้องเดิน โรคลำไส้
  • แก้ลม แก้มูกเลือด
  • ผลสุกสามารถนำมาใช้เป็นยาระบายได้
  • ช่วยรักษาอาการหลอดลมอักเสบ
  • ใช้รักษาอาการท้องผูกเรื้อรังได้
  • ใบสดนำมาคั้นเอาน้ำ ใช้แก้หวัด
  • เปลือกรากและลำต้นจะช่วยแก้อาการไข้จับสั่น

บริโภคน้ำมะตูมอย่างไรให้ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ

  • ไม่ควรรับประทานมะตูมมากเกินไป เนื่องจากอาจทำให้มีอาการท้องไส้ปั่นป่วนและท้องผูกได้
  • หยุดบริโภคมะตูมก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากอาจส่งผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในช่วงระหว่างและหลังการผ่าตัด
  • ผู้ป่วยเบาหวานควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้มะตูมเป็นยาร่วมกับยารักษาเบาหวาน เนื่องจากอาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำเกินไปได้
  • สตรีมีครรภ์และผู้ที่ให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนนำมะตูมมาใช้รักษาอาการป่วย เนื่องจากยังไม่ปรากฏข้อมูลทางการแพทย์เพียงพอต่อการรับรองความปลอดภัยสำหรับสตรีมีครรภ์และผู้ที่ให้นมบุตร
  1. น้ำเก๊กฮวย 

ต่อกันกับอีกหนึ่งน้ำสมุนไพรดับกระหายคลายร้อนยอดฮิต นั่นคือ น้ำเก๊กฮวยเครื่องดื่มสีเหลืองหอมชื่นใจที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มีสรรพคุณดีต่อสุขภาพไม่น้อยหน้าสมุนไพรชนิดไหน ไม่ว่าจะเป็น แก้อาการร้อนใน แก้กระหายน้ำ  ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้ดี มีฤทธิ์ลดระดับความดันโลหิต ฯลฯ  

อีกทั้งยังหาทานได้ง่ายมากๆ ค่ะ ในร้านสะดวกซื้อ ก็เปิดตู้เย็นหาซื้อมาดื่มกันได้เลย มีให้เลือกหลายยี่ห้อ สำหรับใครที่กำลังลดน้ำหนัก หรือไม่อยากทานน้ำตาลเยอะ เราแนะนำของ น้ำเก๊กฮวยของดอยคำ ที่เป็นกล่องฟ้าเขียว 30 บาท เป็นสูตรที่ใช้หญ้าหวาน ไม่มีน้ำตาลค่า ส่วนใครอยากลองต้มน้ำเก๊กฮวยดื่มที่บ้านเอง ก็ทำได้ไม่ยากค่ะ แค่นำดอกเก๊กฮวยแห้ง มาต้มกับน้ำสะอาด เติมหวานได้ตามใจชอบเช่นกัน ถ้าอยากอัพความหอมก็อาจใส่เตยหอมลงไปด้วยก็ได้นะคะ เข้ากันสุดๆ จ้า  

TIPS 

  • วิธีต้มแบบง่ายๆ ก็แค่ล้างดอกเก๊กฮวยให้สะอาด ต้มในน้ำเดือดประมาณ 5 นาที แต่ไม่ควรต้มนาน เพราะจะทำให้มีรสขม จากนั้นปรุงรสตามชอบ 
  • อยากให้น้ำเก๊กฮวยสีสันน่าทาน ลองใส่อาจใส่ลูกพุดจีนเพิ่มสีเหลืองก็ได้ค่ะ 
  • ดอกเก๊กฮวยแห้งพันธุ์สีขาวจะเหมาะกับการนำมาชง/ต้มดื่มสดชื่นๆ มากว่าพันธุ์สีเหลืองซึ่งมักจะให้รสขมมากกว่า
  • ผู้ป่วยโรคกระเพาะไม่ควรดื่มน้ำเก๊กฮวย เพราะจะทำให้เกิดกรดในกระเพาะเพิ่ม ซึ่งจะทำให้อาการของโรคกำเริบหนัก

ประโยชน์ สรรพคุณของ เก๊กฮวย

  • ช่วยทำให้ร่างกายสดชื่น ทำให้ร่างกายเย็นลง ลดอาการวิงเวียน หน้ามืด ตาลาย
  • ช่วยลดระดับความดันโลหิต
  • ช่วยต้านอาการอักเสบของร่างกาย
  • ช่วยรักษาโรคเบาหวาน
  • ช่วยบำรุงสายตา รักษาอาการตาบวม
  • ช่วยขับลม ระบายลม
  • ช่วยป้องกันการเกิดโรคเส้นเลือดตีบ
  • ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • มีส่วนช่วยบำรุงปอด ตับ และไต
  • ช่วยแก้อาการหวัด
  • ช่วยยับยั้งเชื้อไวรัสบางชนิดได้
  • ช่วยเสริมสร้างระบบการทำงานของกระเพาะอาหาร ขับถ่ายง่ายขึ้น
  • ช่วยแก้อาการร้อนใน ชุ่มคอ
  • ใช้ดอกเก๊กฮวยโดยตรงจะช่วยรักษาอาการผมร่วง และทำให้สีผมดกดำ เงางาม
  • ใช้ดอกเก๊กฮวยรักษาแผลฝีหนอง และแผลบวมได้

ข้อควรระวังในการดื่ม น้ำเก๊กฮวย

  • ผู้ที่มีอาการแพ้เกสรดอกไม้ หรือแพ้ดอกไม้ใวงศ์เดียวกับดอกเบญจมาศ เช่นดอกเดซี่ ดอกทานตะวัน ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเก๊กฮวยหรือ ชา เพราะอาจเสี่ยงที่จะทำให้อาการแพ้กำเริบ หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีผื่น หรือหายใจขัด หายใจผิดปกติ ควรหยุดดื่มและไปพบแพทย์ทันที
  • ผู้ที่รับประทานยาเป็นประจำหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานหรือใช้ผลิตภัณฑ์จากเก๊กฮวย เพราะเก๊กฮวยอาจทำปฏิกิริยากับยาบางชนิดได้
  1. น้ำดอกคำฝอย 

มาต่อกันที่ ดอกคำฝอย’ (Safflower) ค่ะ ไม้ล้มลุกที่ปลูกกันมากใน จ.เชียงใหม่ เจ้าดอกไม้นี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพเพียบเลยล่ะ  จึงเป็นนิยมนำมาทำน้ำสมุนไพรดื่มกัน โดยจะใช้ดอกมาอบแห้งหรือตากแห้ง และต้มดื่มเหมือนชา จะดื่มร้อนหรือเย็นก็ได้ตามความชอบ ที่สำคัญใครอยากหาแบบสำเร็จรูปทาน ก็มีเป็น น้ำดอกคำฝอย แบบกล่องของดอยคำ เหมือนกันนะคะ สูตรไม่มีน้ำตาล หวานจากหญ้าหวาน แคลต่ำ ไม่อ้วนจ้า 

 สำหรับสรรพคุณอย่างที่บอกว่าเยอะมาก ไม่ได้โม้! ทั้งบำรุงหัวใจ บำรุงเลือด ลดไขมันในเลือด ช่วยขับเสมหะ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ใครที่กำลังตั้งครรภ์ไม่ควรดื่มนะคะ เพราะดอกคำฝอยมีสรรพคุณขับเลือดซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะแท้งบุตรได้ค่ะ 

วิธีทำน้ำดอกคำฝอย : 

  • ใส่น้ำลงในหม้อ ตั้งไฟแรง พอน้ำเดือดก็ใส่ดอกคำฝอยแห้งลงไป ต้มจนเดือด รอกระทั่งน้ำเริ่มเปลี่ยนสี ลดไฟอ่อนลง ต้มต่ออีกสักครู่ ยกลงจากเตา กรองเอากากออก ให้หมด
  • ใส่น้ำเชื่อมลงในแก้ว คนผสมให้เข้ากัน พร้อมดื่มแบบอุ่น ๆ เป็นชาสมุนไพร หรือหากดื่มแบบเย็นก็สามารถเติมน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นได้

แม้ว่าเครื่องดื่มสมุนไพรจะมีสรรพคุณต่าง ๆ มากมาย แต่ถ้าดื่มสมุนไพรมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน อย่างการดื่มสมุนไพรทุกวันอาจทำให้ได้รับสารที่เป็นยามากจนเกินไป ร่างกายอาจขับสารที่เป็นยาออกไม่หมดเหลือทิ้งไว้ในร่างกาย จากร่างกายที่มีความสมดุลอยู่แล้วถูกปรับสมดุลใหม่ให้แย่กว่าเดิมได้ ดังนั้นเครื่องดื่มสมุนไพรต่าง ๆ ไม่ควรดื่มเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน แต่ให้เลือกดื่มเมื่อมีอาการต่าง ๆ นอกจากนี้ร่างกายบางคนยังมีอาการแพ้สมุนไพรในแต่ละแบบที่ต่างกัน ดังนั้นคุณต้องหมั่นสังเกตร่างกายตนเองว่าแพ้สมุนไพรตัวไหนบ้าง และพยายามหลีกเลี่ยงสมุนไพรประเภทนั้น หรือถ้าจะให้ดีก็ใช้สมุนไพรภายใต้คำแนะนำของแพทย์

น้ำสมุนไพร นั้นจริงๆ แล้วมีมากมายหลายชนิด แต่ที่คัดเลือกมานำเสนอในวันนี้มี ๗ ชนิด แต่ละชนิดก็มีประโยชน์และสรรพคุณแตกต่างกันไป สามารถดื่มได้ ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น ปัจจุบันนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อสุขภาพมากขึ้น น้ำสมุนไพรก็เหมือนกัน มีแบบบรรจุซองสำเร็จรูปขายตามร้านค้า ซึ่งส่วนมากจะบรรจุซองให้มีขนาดพอชงกับน้ำร้อน ๑ แก้ว ได้รสชาติกำลังดี แต่แบบนี้ จะมีข้อเสีย คือ มีน้ำตาลผสมในส่วนที่ผสมที่สูง ฉะนั้นถ้าคุณแม่บ้านพอจะมีเวลาทำเองก็จะดีกว่าค่ะ แล้วยิ่งถ้าใช้น้ำตาลกรวดได้จะดีมากค่ะ ยิ่งทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้น และควบคุมความหวานจากน้ำตาลได้ด้วย

ขอบคุณภาพประกอบจาก:

ขอบคุณแหล่งอ้างอิงจาก: