10 เมนูอาหารเช้าที่คุณแม่ต้องเลี่ยง ส่งผลต่อพัฒนาการของลูก

“อาหารเช้า” มีส่วนช่วยในการทำงาน กลไกของสมองซึ่งส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก

อาหารเช้า เป็นมื้อที่สำคัญสำหรับลูกของเราอย่างมาก ในช่วงเวลาเช้าที่เร่งรีบเพื่อให้ทันเวลาในการไปโรงเรียน กว่าจะปลุกให้ตื่น กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวก็แทบจะไม่มีเวลาเหลือให้ทานมื้อเช้ากันแล้ว บางบ้านลุกอาจจะไม่ทันได้ทานอาหารเช้า จึงส่งผลทำให้ลูกไม่ได้รับพฃังงานอย่างเพียงพอในแต่ละวัน ส่งผลกระทบทางด้านร่างกาย และพัฒนาการของลูกไปด้วย

มีงานวิจัยหลายๆ เรื่องเกี่ยวกับความจำเป็นและประโยชน์ของอาหารเช้า ทั้งในเรื่องของการทำงานและฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งมีผลกระทบหากไม่รับประทานอาหารเช้า ยิ่งในเด็กเล็ก หรือเด็กที่อยู่ในวัยเจริญเติบโตตั้งแต่อนุบาล ประถม จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรับประทานอาหารเช้า เพราะมีส่วนช่วยในการทำงานกลไกของสมองซึ่งส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก อาหารเช้าของแต่ละวัยอาจแตกต่างกันออกไป เช่น วัยเด็กควรจะมีอาหารที่มีผลต่อพัฒนาการของเด็ก เช่น ไข่แดง นม เนื้อปลา ฯลฯ สูงอายุขึ้นมาหน่อยก็ควรงดอาหารที่มีไขมันสูงหรืออาหารที่มีคอเรสเตอรอลสูง เนื้อสัตว์ควรเปลี่ยนมารับประทานเป็นเนื้อปลาแทน

1.เนื้อสัตว์แปรรูป
อาหารประเภท แฮม เบค่อน ไส้กรอก มักเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่คุณแม่มักจะนำมาเป็นเมนูอาหารเช้าให้ลูกกัน เพราะเพียงแค่ฉีกซองเอาเข้าไมโครเวฟก็พร้อมทานได้ทันทีช่วยประหยัดเวลาได้เยอะ แต่ถ้าให้ลูกกินอาหารเหล่านี้เป็นประจำแล้วล่ะก็ไม่ดีแน่ เพราะเนื้อสัตว์เหล่านี้ผ่านกระบวนการต่าง ๆ มาจนแทบจะไม่เหลือประโยชน์อยู่แล้ว แถมยังมีสารต่างๆ เติมลงไปเต็มไปหมด เอาเป็นว่านานๆ กินทีก็พอได้ และพยายามเพิ่มผักเพิ่มไข่ลงไปในจานด้วย เพื่อให้ลูกได้รับประโยชน์จากอาหารเช้าให้มากที่สุด

2.ซีเรียล
แม้ว่าจะผลิตมาจากธัญพืชเต็มเมล็ดก็จริง แต่ซีเรียลส่วนใหญ่ก็มีการปรุงแต่งทั้งสี แป้ง และน้ำตาลจำนวนมาก หากจะเลือกมาให้ลูกได้กินเป็นอาหารเช้าจริง ๆ ก็ควรมองหาซีเรียลสูตรที่ไม่มีน้ำตาล และหาผลไม้สดมาผสมให้ลูกได้ทานไปพร้อม ๆ กันจะดีกว่า

3.นม น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง
นมคือสิ่งที่ดีกับสุขภาพแน่นอนและยิ่งโดยเฉพาะกับเด็กๆ แต่การให้เขาดื่มนมเพียงอย่างเดียวในมื้อเช้ากลับไม่เป็นผลดีกับเขามากนัก เพราะว่าอาจจะทำให้เขาปวดท้อง จุก เสียด ได้ ถ้าจะเลือกนมมาเป็นอาหารเช้าแล้วนั้น ควรมีอย่างอื่นมาคู่ด้วย อาจจะเป็นขนมปังปิ้ง ไข่ดาว หรือไข่ต้ม ก็ได้

4.ข้าวเหนียวหมูปิ้ง
หนึ่งในอาหารเช้ายอดฮิตลำดับต้นๆ ของเด็กไทย เพราะหาซื้อกันได้ง่ายมีกันแทบจะทุกซอย ทุกถนน และที่สำคัญเหมาะสำหรับการทานกันไปในรถระหว่างทางไปโรงเรียน หรือไปทานไปป้อนกันที่โรงเรียนก็ง่ายและสะดวกดี แต่แน่นอนว่ามันไม่ใช่อาหารที่ดี และมีประโยชน์มากเท่าไรนัก เพราะหมูปิ้งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นหมูติดมันแถมบางครั้ง ก็ยังปิ้งจนไหม้ซึ่งรอยไหม้ที่ติดเนื้อหมูเหล่านี้นี่แหละ คือสาเหตุสำคัญในการก่อตัวเป็นสารก่อมะเร็ง ฉะนั้นอย่าให้ลูกทานบ่อยๆ นะคะ

5.ขนมครก
เด็ก ๆ หลายคนอาจจะชอบกับความหอมหวานของมัน แถมยิ่งเวลากินตอนร้อน ๆ ด้วยแล้วล่ะก็เด็ก ๆ น่าจะถูกใจกันใหญ่ แต่ถ้าจะหยิบมาเป็นอาหารเช้าให้กับลูก ก็บอกได้เลยว่าไม่แนะนำเพราะว่าเป็นขนมที่มี่แต่แป้งกันน้ำตาลแม้จะมีข้าวโพดหรือไส้ต่าง ๆ เพิ่งเข้ามาโรยบ้าง เพราะฉะนั้นหากทานเป็นอาหารเช้าย่อมได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ถ้าจะทานควรทานเป็นของว่างในปริมาณไม่มากดีกว่า

6.หมูติดมันทอดกรอบ
ปัจจุบันนี้หันไปทางไหนก็เจอร้านหมูติดมันทอดกรอบๆ ขายริมทางคู่กับข้าวเหนียวมากมาย แถมราคาก็ไม่แพง จึงเป็นที่นิยมกันอย่างมาก จริงๆ แล้วหมูติดมันทอดกรอบพวกนี้ไม่ใช่อาหารที่อันตรายหากทานไม่บ่อย แต่อย่าทานบ่อยแล้วกันเพราะมีน้ำมันและไขมันเยอะ ทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพลูกในอนาคตได้

7.แท่งธัญพืช
แน่นอนว่าธัญพืชเป็นอาหารที่มีประโยชน์ แต่แท่งธัญพืชเป็นอาหารที่ได้รับการแปรรูปจากผู้ผลิตมาแล้ว หลายครั้งผู้ผลิตใส่น้ำตาลมากเกินไป ถ้าทานบ่อยนอกจากส่งผลเสียต่อสุขภาพแล้วยังทำให้อ้วนอีกด้วย

8.ปาท่องโก๋จิ้มนมข้นหวาน
ปาท่องโก๋เป็นอาหารโปรดยามเช้าของคนไทย คุณแม่หลายคนมักให้ลูกทานปาท่องโก๋คู่กับนมข้นหวาน แต่ไม่ควรให้ทานบ่อย เพราะส่วนมากปาท่องโก๋ทำจากแป้งขัดขาว เป็นชนิดของแป้งที่เปลี่ยนเป็นน้ำตาลและเข้าสู่กระแสเลือดได้ไว แถมปาท่องโก๋นั้นทำด้วยวิธีทอดในน้ำมันกระทะใหญ่ (บางร้านใช้น้ำมันซ้ำจนดำปี๋) ยิ่งส่งผลเสียเข้าไปอีก

9.เบเกอรี่ต่างๆ
อาหารจำพวกเบเกอรี่นั้น มีส่วนประกอบหลักคือแป้งและน้ำตาล ซึ่งไม่เหมาะจะเป็นอาหารเช้าเลย โดยเฉพาะกับเด็กๆ ซึ่งต้องการทั้งพลังงานและสารอาหารที่เหมาะสม

10.โยเกิร์ต
เป็นของดีมีประโยชน์ แต่ไม่ควรทานตอนท้องว่าง หรือ ทานเป็นอาหารเช้าอย่างเดียวโดดๆ เพราะอาจทำให้ท้องอืดได้ อีกทั้งยังไม่หนักท้องพอที่จะทำให้เด็กๆ อิ่มไปจนถึงเวลาทานอาหารกลางวัน ควรทานคู่ไปกับอาหารเช้าหลักอย่างอื่นจะดีกว่า

ทั้ง 10 เมนูอาหารเช้าที่ DooDiDo นำมาฝากสำหรับคุณแม่ในวันนี้ เป็นเมนูที่คุณแม่ต้องเลี่ยงไม่ให้ลูกน้อยทานนะคะ เพราะอาหารเหล่านี้นอกจากจะไม่ให้คุณค่าทางโภชนาการแล้ว ยังส่งผลต่อพัฒนาการของลูกได้อีกด้วย คุณแม่ควรเตรียมอาหารที่มีประโยชน์และมีสารอาหารที่ครบถ้วน เพื่อให้ลูกน้อยได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ นำไปสู่การมีสุขภาพร่างกายที่ดี และมีพัฒนาการดีสมวัยค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.mamykid.com