โบกมือลาปัญหาเชื้อราในช่องคลอดสำหรับผู้หญิงป้องกันอย่างไรดี!!

WM

เชื้อราในช่องคลอด เป็นโรคที่พบได้บ่อยในสตรีทั่วไป

สำหรับผู้หญิงกับเรื่องของจุดซ่อนเร้น ที่เป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับผู้หญิงแบบเรา ในบทความนี้เป็นสาระความรู้เรื่องที่ ผู้หญิงควรรู้ ปัญหาเชื้อราในช่องคลอด อันตรายมากกว่าที่คิด โรคเชื้อราในช่องคลอดส่วนใหญ่ส่งผลให้เกิดอาการได้ตั้งแต่เล็กน้อยถึงปานกลาง แต่บางคนอาจไม่แสดงอาการผิดปกติใด ๆ แม้เกิดการติดเชื้อ ซึ่งอาการที่พบได้บ่อย ไม่ว่าจะเป็นอาการคันหรือระรายเคือง มีผื่นแดง นอกจากนี้ อาการอาจรุนแรงมากขึ้นหากไม่รีบรักษา ซึ่งสังเกตได้จากบริเวณที่เกิดการติดเชื้อมีอาการบวม แดง และคันอย่างรุนแรงมากขึ้นจนทำให้เกิดรอยแตกเป็นแผลได้ในที่สุด ซึ่งโรคเชื้อราในช่องคลอดเกิดจากการเพิ่มจำนวนเชื้อรามากกว่าปกติภายในช่องคลอดจนทำให้สภาพภายในช่องคลอดเสียสมดุล อย่ารอช้าเราไปดูสาระความรู้ดี พร้อมกันดีกว่าคะ

สภาวะติดเชื้อราในช่องคลอด หมายถึงภาวะที่เชื้อราที่มีชื่อว่า แคดิดา แอลบิแคนส์ (Candida Albicans) เติบโตมากผิดปกติ จนทำให้มีอาการคันและตกขาวบริเวณช่องคลอด หรือปากช่องคลอด สภาวะใดก็ตามที่เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมภายในช่องคลอด มักเป็นสาเหตุให้เชื้อเพิ่มจำนวนมากขึ้น
เชื้อราในช่องคลอด เป็นโรคที่พบได้บ่อยในสตรีทั่วไป ซึ่งมักพบว่าเป็นเชื้อราตรงจุดซ่อนเร้นร้อยละ 40  โดยการแสดงอาการติดเชื้อราพบมากเป็นอันดับต้น ๆ แต่จะไม่เกิดปัญหาถ้าร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน หากระบบสมดุลในช่องคลอดเปลี่ยนจากกรดเป็นด่าง จะเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรามากขึ้น

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@imani_bht

ปัจจัยที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อราในช่องคลอด
1. ภาวะตั้งครรภ์ เนื่องจากในช่วงตั้งครรภ์ร่างกายจะมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน สูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ปริมาณสารไกลโคเจน ซึ่งจะถูกย่อยเป็นน้ำตาลกลูโคสในช่องคลอดสูงขึ้น เป็นสาเหตุให้เชื้อรามีการเจริญเติบโตดีขึ้น นอกจากนี้ปริมาณฮอร์โมนที่สูงขึ้น ก็จะทำให้เชื้อรามีปริมาณมากขึ้นเช่นกัน
2. โรคเบาหวาน โดยเฉพาะผู้ที่ควบคุมโรคไม่ดี
3. การใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานานเกินไป จะไปทำลายเชื้อต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดภาวะสมดุลของเชื้อราในช่องคลอด ทำให้เชื้อราเพิ่มปริมาณมากขึ้น
4. การรับประทานยาเสตียรอยด์ เพราะจะลดภูมิคุ้มกันต้านทานโรค
5. ผู้ป่วยที่มีโรคภูมิคุ้มกันต้านทานบกพร่อง หรือโรคเอดส์
6. การใส่กางเกงที่คับมาก และอยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนชื้น
7. ภาวะที่คู่นอนมีการติดเชื้อรา

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@janpadilla

อาการ
อาการเริ่มแรก ตกขาวจะมีสีขาวหรือเหลืองเป็นก้อนคล้ายนมบูด มีกลิ่นที่ผิดปกติ โดยช่องคลอด จะเกิดการระคายเคือง จนทำให้คันมากจนแทบทนไม่ได้
อาการรุนแรงมาก จะคันมาถึงบริเวณขาหนีบและมีอาการแสบ แดง และระคายเคืองอย่างรุนแรงได้ บางคนอาจจะรู้สึก แสบในช่องคลอดเวลาถ่ายปัสสาวะ

วิธีป้องกัน
1. กินโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์เพื่อเพิ่มแลคโตบาซิลลัสในช่องคลอด จะสามารถช่วยลดอัตราการเป็น เชื้อราในช่องคลอดได้
2. กินอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลที่มีดัชนีไกลซีมิกต่ำ เพื่อให้น้ำตาลในกระแสเลือดเพิ่มขึ้นทีละน้อย
3. หลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้ ภาวะแพ้อาหารทำให้อาการของโรคแย่ลง
4. ผ่อนคลายความเครียด เพราะความเครียดเป็นสาเหตุให้โรคกำเริบ
5. หลีกเลี่ยงกางเกงชั้นในที่รัดแน่น ควรสวมใส่เสื้อผ้าสบาย
6. การทำความสะอาด ควรใช้น้ำสะอาดเท่านั้น
7. ควรตากกางใน ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และต้องให้โดนแสงด้วยเพราะเชื้อราพวกนี้จะตายด้วยความร้อน
8. ไม่ควรใช้สบู่หรือน้ำยาใด ๆ ล้างช่องคลอด เพราะนั่นคือตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะความเป็นกรดของช่องคลอดลดลง ควรทำความสะอาดด้วยสบู่ธรรมดา และไม่ควรล้างภายในช่องคลอด
9. ก่อนและหลังร่วมเพศให้ปัสสาวะออกให้หมดกระเพาะปัสสาวะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับสาระความรู้ดีๆ ที่ DooDiDo ได้นำมาฝากให้ได้อ่านในบทความนี้ ผู้หญิงควรรู้ ปัญหาเชื้อราในช่องคลอด อันตรายมากกว่าที่คิด หวังว่าเพื่อนคุณผู้หญิงจะได้ความรู้ไม่มากก็น้อยนะคะ นอกจากนี้หากไม่อยากเป็นเชื้อราในช่องคลอด เพื่อให้ห่างไกลจากภาวะเชื้อราในช่องคลอดเราควรจะรู้จักปรับสมดุลชีวิต รวมทั้งอย่าลืมป้องกันตัวเองจากภาวะเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะทำให้เกิดภาวะนี้ อีกทั้งถ้ามีอาการดังกล่าวเบื้องต้นอย่าอายที่จะมาพบแพทย์นะคะ เพื่อป้องกันไม่ให้ภาวะนี้ลุกลามนะค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.mccormickhospital.com