แนะนำ 6 วิธีการกัดสีผมด้วยตัวเอง ให้ผมสวยแบบไม่มีพัง

WM

6 ทริค สาวๆ ที่อยากลองกัดสีผมเองควรรู้ เพื่อให้ผมให้สวยปัง ไม่พังไม่เยิน

สิ่งที่จะเพิ่มสีสันให้กับสาวๆ นอกจากเมคอัคสวยๆ แล้วจะพลาดไปไม่ได้กับการเปลี่ยนสีผมอยู่แล้วล่ะค่ะ ยิ่งในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมานี้ การย้อมสีผมก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่แมสสุดๆ ยิ่งการย้อมสีผมแบบแบ่งส่วน อาจจะเป็นส่วนหน้าม้า หรือข้างใดข้างหนึ่งของผมสาวๆ แต่ก็นั่นแหล่ะค่ะ ครั้นจะไปพึ่งพาร้านทำผมตลอดๆ ก็ไม่ได้ ยิ่งช่วงนี้มีมารตการต่างๆ เพื่อยับยั้งโรคระบาดดวยแล้ว ร้านทำผมหลายๆ ร้านก็ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ตามใจอยาก ผู้บริโภคอย่างเราก็ลำบากสิคะ

ช่วงนี้แม้จะออกไปไหนไม่ค่อยสะดวกเหมือนเก่า แต่จะให้หยุดหรือจะให้พักความสวยไว้ก่อนก็คงจะทำไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องการทำสีผมที่ช่วยขับผิวของเราให้ดูสวยใส ผิวไบรท์วิ้งค์ๆ แล้วด้วยเนี่ย ยิ่งหยุดไม่ได้เข้าไปใหญ่เลยใช่ไหมล่ะคะ แต่การทำสีผมให้สีออกมาตรงใจหรือมีสีสันแจ่มๆ ก็จะต้อง “กัดสีผม” เพื่อให้พื้นสีผมของเรามีสีที่อ่อน เมื่อลงสีอื่น ๆ ก็จะทำให้สีนั้นชัดขั้น แต่ถ้าจะไปทำที่ร้าน ซิสหลา ๆ คนก็อาจจะกังวลกลัวเรื่องโควิดหรือเรื่องราคาที่ยังจ่ายไม่ไหว

วันนี้เราก็เลยมาแนะนำ “6 ทริคกัดสีผมด้วยตัวเองที่สาวควรรู้ เพื่อให้ผมให้สวยปัง ไม่พังไม่เยิน” มาฝากสาวๆที่อยากลองกัดสีผมเองด้วย ซึ่งบอกเลยว่าทริคต่าง ๆ มาจากประสบการณ์ของเราเองเลยค่ะ ทำมาแล้วเห็นผลที่เวิร์กมาก ๆ เลยอยากมาแชร์กัน ถ้าอยากรู้แล้วว่ามีทริคอะไรน่าสนใจบ้าง ก็ตามมาโลดค่า

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@curology
  1. เลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพเส้นผม

ก่อนจะเริ่มกัดสีผมด้วยตัวเอง สาวต้องรู้ก่อนนะคะว่าน้ำยาฟอกสีผมมีแบบไหนบ้างและแบบไหนเหมาะกับเรา ซึ่งน้ำยาฟอกสีผมมี 2 แบบหลัก ๆ ก็คือแบบผงและแบบครีม ซึ่งแบบผงจะสามารถฟอกสีผมให้อ่อนลงได้มากกว่าแบบครีม และแน่นอนค่ะว่ามันทำลายเส้นผมมากกว่าแบบครีม แต่ข้อดีของเขาคือน้ำยาไม่มีกลิ่นฉุนให้รบกวนใจ ส่วนแบบครีมจะใช้งานได้ง่ายกว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องผงจะลอยเข้าจมูก เข้าตา แต่อาจจะมีกลิ่นฉุนมากกว่า สาวๆก็ต้องลองชั่งน้ำหนักดูนะคะว่าใช้งานแบบไหนจะสะดวกและถนัดกว่า ที่สำคัญเลยก็คือต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานรองรับ และอ่านข้างกล่องให้ละเอียดก่อนใช้งาน เพื่อความปลอดภัยของเราด้วยน้า

  1. ใช้ Developer 6-9% จะดีที่สุด

เลือกน้ำยาฟอกแบบผงหรือแบบครีมกันไปแล้ว ต่อมาก็จะต้องเลือก Developer หรือ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เพื่อใช้คู่กับน้ำยาฟอกสีผมแบบต่าง ๆ ซึ่งก็จะมีตั้งแต่ 3% 6% 9% และ 12% พลังการกัดก็จะขึ้นกับเปอร์เซ็นต์ที่เราเลือก ซิสหลายคนอาจจะใจร้อนเลือกเปอร์เซ็นต์สูง ๆ เพื่อฟอกสีผม หวังใจให้มันสว่างไว ๆ แต่ ๆ ไม่ได้นะคะซิส เราจะต้องเลือกเปอร์เซ็นต์ให้เหมาะกับสภาพเส้นผมด้วย ถ้าผมเส้นเล็กแนะนำเป็น 6% เลยค่ะ เพราะถ้ายิ่งใช้เปอร์เซ็นต์สูง ๆ ผมเส้นเล็กจะเสียและพังได้ง่ายมาก ๆ ส่วนคนที่ผมเส้นใหญ่แนะนำเป็น 9% เพราะผมเส้นใหญ่จะหนากว่า ดังนั้นจะต้องใช้น้ำยาที่แรงกว่านั่นเองค่า

ส่วนใครที่รู้สึกว่าผมเส้นไม่เล็กไม่ใหญ่ แบบนี้เราควรใช้กี่เปอร์เซ็นต์ดี? ทางเราขอแนะนำว่าให้เริ่มจาก 6% จะดีที่สุดค่ะ เพราะไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 6% อยู่ในระดับกลาง ๆ จึงไม่ได้ไปเร่งปฏิกิริยากับเส้นผมมากเกินไป ทำให้ผมไม่เสียหายรุนแรง และยังทำให้สีที่กัดออกมาเป็นโทนเหลืองมากกว่าส้มด้วยน้า

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@towfiqu999999
  1. ชโลมน้ำมันมะพร้าว / ออยล์ / ทรีตเมนต์บนผมก่อนฟอก

การชโลมน้ำมันมะพร้าว ออยล์ หรือทรีตเมนต์เฉพาะที่ใช้สำหรับลงก่อนฟอกผม จะช่วยให้ผมเราเสียน้อยลงเพราะเจ้าพวกนี้ได้ทำการเคลือบเส้นผมไว้ชั้นนึงแล้วนั่นเอง ส่วนซิสจะเลือกใช้อันไหนก็แล้วแต่ความสะดวกได้เลยค่า ส่วนวิธีการใช้ น้ำมันมะพร้าวกับออยล์ควรหมักประมาณ 30 นาทีโดยไม่ต้องล้างออก แล้วสามารถลงน้ำยาฟอกสีผมได้เลย ส่วนทรีตเมนต์จะต้องอ่านฉลากก่อนใช้เสมอนะคะ เพราะผลิตภัณฑ์แต่ละตัวจะใช้เวลาไม่เท่ากัน

แต่วิธีการหมักแบบนี้ สาว ๆ อาจจะต้องทำใจนิดนึงนะคะ เพราะการใช้เจ้าพวกนี้ลงบนผมก่อนฟอกสี จะทำให้ผมมีสีที่สว่างน้อยกว่าผมที่ไม่ใช้ อาจจะต้องเพิ่มรอบในการกัดเป็น 2-3 ครั้ง แต่ดีกว่าทำร้ายเส้นผมจนพังในครั้งเดียว แล้วต้องมาเหนื่อยกู้เส้นผมน้า

  1. รีบลงให้ทั่วดีกว่าค่อย ๆ เก็บรายละเอียด

เอาละค่ะ! ถึงขั้นตอนการลงน้ำยาฟอกสีผมแล้ว วิธีที่ดีที่สุดคือการรีบลงให้ทั่วทั้งหัวแบบคร่าว ๆ ก่อนจะมาเก็บรายละเอียดนั่นเองค่ะ วิธีการนี้จะช่วยให้สีผมออกมาเสมอกันทั้งหัว อย่างที่บอกกันไปว่าไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์จะทำปฏิกิริยาในเส้นผมให้สีผมเราสว่างขึ้นและยิ่งเปอร์เซ็นต์มากก็ยิ่งมีปฏิกิริยาที่เร็วขึ้นมากเช่นกัน ถ้าเรามัวแต่เก็บรายละเอียดให้ทั่วทีละช่อ ๆ ก็อาจจะทำให้ช่อแรกและช่อสุดท้ายสว่างไม่เท่ากัน แล้วก็อย่าขยี้น้ำยาฟอกบนหนังศีรษะเป็นอันขาด เพราะน้ำยาอาจกัดหนังศีรษะจนเป็นแผลได้ และที่สำคัญอีกอย่างเลยก็คืออย่าใช้น้ำยาฟอกผมแบบประหยัดเกินไป เพราะถ้ามันไม่พอ ใช้แล้วไม่ทั่วทั้งหัวจะทำให้สีผมของเราสว่างไม่เท่ากัน พยายามซื้อให้เหลือไว้ก่อนจะดีที่สุด เพื่อผมของเราจะได้ดูสวยและสว่างเท่ากันนะคะ

  1. ชอบเปลี่ยนสีผมบ่อย ๆ ใช้ทรีตเมนต์สีหรือแวกซ์สีแทนการย้อมจะดีกว่า

ซิสคนไหนกัดสีผมแล้วอยากจะย้อมหลาย ๆ สี แต่ไม่อยากกัดสีผมใหม่หลังย้อม แนะนำให้ใช้ทรีตเมนต์สีหรือแวกซ์สีผมจะเวิร์กกว่า เพราะทรีตเมนต์และแวกซ์จะไม่ทำให้สีผมของเราเปลี่ยนไป แถมยังไม่ทำร้ายเส้นผมให้เสียเพิ่มอีกด้วย แต่ข้อเสียก็คือสีอาจจะไม่ได้ติดแน่นทนนานแบบน้ำยาย้อมผมนั่นเองค่ะ แต่รับรองว่าสีสวยแจ่มไม่แพ้น้ำยาย้อมเลยค่ะ

ทริคเสริมเล็กน้อย : หากพื้นสีผมเรายังติดเหลืองอยู่ แนะนำให้ใช้แชมพูม่วงก่อนลงทรีตเมนต์และแวกซ์สีนะคะ เพราะแชมพูม่วงจะไปหักล้างเม็ดสีเหลืองบนเส้นผม ทำให้สีที่ลงไม่เพี้ยนนั่นเองค่า

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@iamsherise
  1. เช็กสภาพผมทุกครั้งหลังฟอกสี

สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากกกกก สาว ๆ ห้ามละเลยเป็นอันขาดเลยค่ะ คือเราจะต้องคอยเช็กสภาพเส้นผมของเราเสมอหลังฟอกสี ว่าผมเราเสียหายรุนแรง เช่น ผมเป็นวุ้นเปราะขาดง่ายกว่าปกติ ผมชอร์ตหงิกงอหรือไม่ เพราะถ้าสภาพเส้นผมเราเสียรุนแรง แต่เรายังไม่ได้สีที่สว่างตามต้องการ การฟอกสีซ้ำคงจะต้องขอแนะนำให้พักไว้ก่อนนะคะ ไม่อย่างนั้นผมของซิสอาจจะพังถึงขั้นผมขาดและไม่สามารถแก้ไขได้แล้วน้า

หลังจากฟอกสีผมแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการบำรุงผมนั่นเอง เพราะหลังจากฟอกสีผม เกล็ดผมเราจะเปิด ทำให้ผมแห้งและพันกัน ดังนั้นสาว จะต้องคอยหมักผมด้วยทรีตเมนต์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นกับเส้นผม ผมของเราจะได้กลับมานุ่มสลวยน่าสัมผัสน้า

อย่างไรแล้ววิธีที่ DooDiDo นำมาฝากในวันนี้ก็น่าจะพอช่วยสาวๆ หลายๆ คนที่มักจะมีปัญหากับการฟอกสีผมบ้างล่ะค่ะ เพราะยังไงแล้วการฟอกสีผมนั้นก็ค่อนข้างอันตราย ก่อนลงมือทำก็ควรที่จะเตรียมอุปกรณ์ป้องกันไม่ให้สารอันตรายจากน้ำยาปากสีผมโดนผิวหนังหรือร่างกายเราก็ด้วยก็จะดีมากๆ เลยค่ะ เพราะเดี่ยวจะเป็นอันตรายต่อสาวๆ ทุกคนได้นะคะ แต่ถ้าจะให้ดีสาวๆ อาจจะให้เพื่อนๆ มาช่วยด้วยก็จะดีมาก เพื่อสีผมสวยๆ ไม่ด่าง และเท่ากันทุกๆ จุดค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.sanook.com