สูตรหมักผมจากธรรมชาติ สะบัดผมอย่างมั่นใจ ไร้กังวลเรื่องรังแค

WM

7 สูตรหมักผม “ขจัดรังแค” ที่สามารถทำด้วยตัวเองที่บ้านได้ง่ายมากๆ

ปัญหาหนังศรีษะก็เรียกได้ว่าเป็นปัญหาแสนรุงรังกับชีวิตสาวๆ เลยก็ก็ว่าได้ใช่มั้ยล่ะคะ อย่างปัญหาผมร่วงที่เชื่อว่าต้องมีกันทุกบ้าน หลายๆ ครั้งก็อยากจะเพิ่มสีสันให้ตัวเอง อยากจะย้อมผมบ้างอะไรบ้าง แต่ก็ต้องมาติดปัญหาผมร่วงนี่แหล่ะค่ะ ลำพังขนาดผมปกติยังร่วงขนาดนี้ถ้าทำสีด้วยจะขนาดไหน และปัญหาสุดรุงรังรองลงมาจากปัญหาผมร่วงแล้วยังไงก็ไม่พ้นเรื่องรังแคนี่แหล่ะค่ะ เปลี่ยนแชมพูก็แล้ว ครีมนวดก็แล้ว อันไหนใครว่าดีก็ตำมาหมดแล้ว แต่ปัญหาก็ไม่ได้จะหมดไปซะนี่ เรียกได้ว่าทำเอาหมดความมั่นใจกันไปตามๆ กัน

เรื่องความสวยความงามสำหรับผู้หญิงเราดูท่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะคะ เพราะแต่ละคนต้องเจอกับสารพัดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความงามกันแบบไม่ซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องรูปร่าง ปัญหาเรื่องผิวพรรณ หรือปัญหาเกี่ยวกับเส้นผม แล้วถ้าพูดถึงปัญหาเส้นผมยอดฮิตที่ทำให้สุขภาพผมย่ำแย่ แถมยังรู้สึกรำคาญใจแบบสุดๆ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง รังแค นี่แหละค่ะ เพราะรังแคที่มีลักษณะเป็นผงสีขาวๆ มันสังเกตเห็นได้ง่าย แค่เอามือสางผมเบาๆ ก็มีเศษรังแคเล็กๆ ร่วงหล่นเต็มไหล่จนมองเห็นได้ชัดเจนมากๆ ถ้าไม่อยากขาดความมั่นใจเพราะปัญหารังแค่อีกต่อไป วันนี้เรามี 7 สูตรหมักผม “ขจัดรังแค” จากธรรมชาติ ที่สามารถ DIY ด้วยตัวเองที่บ้านได้ง่ายมากๆ มาให้ได้ลองทำตามกัน

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/stevepb-282134/

1 สูตรโยเกิร์ต + น้ำผึ้ง + เลมอน

มาเริ่มต้นปฏิบัติการขจัดรังแคที่คอยตามรังควานด้วยสูตรหมักผมสูตรแรกที่เราหยิบมาบอกต่อกัน อย่าง สูตรโยเกิร์ต+น้ำผึ้ง+เลมอน ก่อนเลยค่ะ ขอบอกเลยว่าส่วนผสม 3 ชนิดนี้ที่หาได้ง่ายๆ จากในห้องครัว มีคุณสมบัติช่วยจัดการกับรังแคแตกต่างกันไป โดย “เลมอน” มีกรดซิตริกที่ช่วยปรับสมดุล pH ของเส้นผมได้ ส่วน “โยเกิร์ต” เน้นเรื่องการช่วยฟื้นบำรุงผมเสียจากการถูกทำร้าย และเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผม และ “น้ำผึ้ง” ช่วยต้านการอักเสบบนหนังศีรษะและลดการเกิดรังแค สูตรหมักผมสูตรนี้จึงเหมาะสำหรับทั้งคนที่มีปัญหาเส้นผมแห้งเสีย และคนที่มีปัญหารังแคเลยนั่นเอง

HOW TO

วิธีการทำสูตรหมักผมนี้ก็ให้ ผสมโยเกิร์ต ½ ถ้วย, น้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ แล้วคนให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นชโลมส่วนผสมลงบนเส้นผมโดยเริ่มจากโคนผมมายังปลายผม หมักผมทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วสระผมให้สะอาด สูตรนี้แนะนำให้ทำเป็นประจำ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ได้เลย

2 สูตรกล้วยหอม + น้ำผึ้ง + เลมอน + น้ำมันมะกอก

ลองเดินเข้าห้องครัวไปเช็กดูหน่อยสิคะว่า สาวๆ ได้ซื้อกล้วยหอมมาตุนไว้ที่บ้านบ้างรึเปล่า??? ถ้ามีก็ลองทำสูตรหมักผม สูตรกล้วยหอม+น้ำผึ้ง+เลมอน +น้ำมันมะกอก เพื่อขจัดรังแคตัวร้ายให้หายวับไปจากเส้นผมและหนังศีรษะได้เลย ซึ่ง “กล้วยหอม” ที่รสชาติหวานอร่อยกินเพลิน ถือเป็นตัวช่วยเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผมและขจัดรังแคอย่างมีประสิทธิภาพ พอรวมพลังมาพร้อมกับ “น้ำมันมะกอก” ที่ช่วยทำให้เส้นผมนุ่มสลวยและแข็งแรง, “เลมอน” ที่ช่วยปรับสมดุล pH ให้เส้นผม และ “น้ำผึ้ง” ที่เน้นช่วยลดการเกิดรังแค จึงกลายเป็นสูตรหมักผมที่เหมาะกับคนที่มีสภาพเส้นผมแห้งที่สุดเลย

HOW TO

ขั้นตอนแรกให้สาวๆ บดกล้วยหอม 2 ลูกให้ละเอียด แล้วเติมน้ำผึ้ง, น้ำมันมะกอก และน้ำเลมอนอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ คนจนส่วนผสมเข้ากันดี เสร็จแล้วก็ค่อยๆ ชโลมส่วนผสมลงบนหนังศีรษะและเส้นผม หมักผมทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วสระผมให้สะอาด เพียงหมักผมด้วยสูตรนี้เป็นประจำสัปดาห์ละครั้ง ก็จะสังเกตเห็นเลยว่ารังแคเริ่มลดลง แล้วเส้นผมยังนุ่มสลวยและสุขภาพดีขึ้นด้วย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@moino007

3 สูตรไข่ไก่ + โยเกิร์ต

เราเชื่อว่าต้องมีหลายคนที่ชอบกินโยเกิร์ตเหมือนกันแน่ๆ เพราะโยเกิร์ตที่แช่เย็นฉ่ำๆ กินแล้วรู้สึกสดชื่น และเป็นเมนูที่กินได้แบบไม่ต้องกลัวอ้วน นอกจากนี้ยังนำมาทำสูตรหมักผม สูตรไข่ไก่+โยเกิร์ต เพื่อต่อสู้กับปัญหารังแคบนหนังศีรษะได้อีกต่างหาก เพราะทั้ง “ไข่ไก่” และ “โยเกิร์ต” จะรวมพลังกันช่วยเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผมและหนังศีรษะ พอหนังศีรษะไม่แห้งเสีย ไม่ลอก ก็จะช่วยลดการเกิดรังแคได้

HOW TO

สูตรนี้ให้นำโยเกิร์ต 1 ถ้วย และไข่ไก่ 1 ฟอง มาตีใส่ถ้วยจนส่วนผสมเข้ากัน (สามารถใส่น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ เข้าช่วยเพิ่มพลังการบำรุงเส้นผมได้นะ!) แล้วค่อยๆ ชโลมส่วนผสมโดยเริ่มจากโคนผมไล่ลงมาเรื่อยๆ จนถึงปลายผม หมักผมทิ้งไว้ประมาณ​ 20 นาที เสร็จแล้วก็สระผมด้วยแชมพูแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น สูตรนี้แนะนำให้ใช้หมักผมแค่สัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอแล้ว

4 สูตรไข่ขาว + น้ำมันมะกอก

ตามมาดูสูตรหมักผมแก้ปัญหารังแคสูตรต่อไปอย่าง สูตรไข่ขาว+น้ำมันมะกอก ที่ยังคงใช้ไข่ไก่เป็นส่วนผสมอยู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือพลังการบำรุงผมจากน้ำมันมะกอกนั่นเองค่ะ ซึ่งสูตรนี้เลือกใช้ “ไข่ขาว” ที่อุดมด้วยกรดไขมันและวิตามินอี ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผมนุ่มลื่นเป็นประกาย พร้อมป้องกันการเกิดรังแค ส่วน “น้ำมันมะกอก” ก็เน้นช่วยบำรุงให้ผมนุ่มชุ่มชื้นเช่นกัน แล้วยังช่วยให้หนังศีรษะสุขภาพดีด้วยนะ

HOW TO

วิธีทำสูตรนี้ก็ง่ายมากๆ เลยนะ เพียงนำไข่ไก่ 2 ฟอง และน้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ มาตีให้เข้ากันในถ้วยขนาดพอดี จากนั้นก็ชโลมส่วนผสมให้ทั่วศีรษะ​โดยเริ่มจากโคนผมไปยังปลายผม หมักผมทิ้งไว้ประมาณ​ 1 ชั่วโมง แล้วค่อยสระผมให้สะอาดและล้างออกด้วยน้ำเย็น สาวซิสสามารถหมักผมด้วยสูตรนี้เป็นประจำ 1 -2 ครั้ง/สัปดาห์ เพื่อฟื้นคืนความแข็งแรงให้เส้นผม และขจัดรังแคออกไปจากหนังศีรษะได้เลย

5 สูตรว่านหางจระเข้

ถ้าใครชอบมองหาสูตรบำรุงความงามที่สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน ก็คงจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วนะว่าว่านหางจระเข้ ถือเป็นสมุนไพรที่ช่วยปลอบประโลมผิวได้เป็นอย่างดี และช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวฉ่ำน้ำ ที่สำคัญยังสามารถนำมาใช้หมักผมด้วย สูตรว่านหางจระเข้ ได้อีกต่างหาก เพราะ “ ว่านหางจระเข้ ” จะช่วยลดการอักเสบของผิวหนังบนหนังศีรษะ และมีคุณสมบัติต้านเชื้อราจึงช่วยลดการเกิดรังแคได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/stevepb-282134/

6 สูตรโยเกิร์ต + ทีทรีออยล์ + น้ำมันมะกอก

หากสาวๆ ลองเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วเจอกับโยเกิร์ตที่ซื้อมาตุนไว้ และคิดว่าคงกินไม่ทันวันหมดอายุแน่ๆ ก็ให้นำมาทำ สูตรโยเกิร์ต+ทีทรีออยล์+น้ำมันมะกอก เพื่อใช้หมักผมขจัดรังแคและบำรุงให้เส้นผมนุ่มลื่นได้เลยค่ะ โดย “ทีทรีออยล์” เรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยเด็ดที่มีประสิทธิภาพในการรักษารังแค พร้อมกับช่วยบรรเทาอาการคันและรอยแดงบนหนังศีรษะ ส่วน “โยเกิร์ต” และ “น้ำมันมะกอก” เน้นช่วยเรื่องการเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผม พอส่วนผสมเหล่านี้มารวมตัวกันจึงช่วยแก้ปัญหารังแคได้อย่างตรงจุด

สำหรับสูตรวิธีการเหล่านี้นั้นเป็นวิธีจากธรรมชาติ ซึ่งแน่นอนว่าปลอดภัยแบบ 300% เลยล่ะค่ะ สาวๆไม่ต้องไปสรรหาผลิตภัณฑ์ต่างๆ นาๆ มาเสี่ยงทายกันอีกต่อไปแล้ว และที่สำคัญวิธีเหล่านี้นั้นก็เป็นวิธีง่ายๆ ที่ทำได้เองที่บ้านเลยล่ะค่ะ สำหรับใครที่มีปัญหานี้อยู่แล้วล่ะก็ อย่างไรก็อย่าปล่อยปะละเลยปัญหานี้นะคะ ควรจะที่รีบหาวิธีแก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะถ้าหากปล่อยไว้นานปัญหาก็จะยิ่งลุกลาม บานปลายไปกันใหญ่ กลัวว่าสุดท้ายแล้วเราก็ต้องไปปรึกษาแพทย์กันน่ะสิคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.sanook.com