แนะนำ 5 วิธีเลี้ยงลูกแมวที่มือใหม่ควรรู้ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
เรื่องสำคัญที่ทาสแมวควรรู้ 5 วิธีเลี้ยงลูกแมว ป้อนนมลูกแมว ให้วัคซีนแมว
สำหรับสาวกคนที่ชอบเลี้ยงเจ้าแมวเหมียวนั้น หลายๆ คนก็ชอบที่จะเอาแมวมาเลี้ยงตั้งแต่ยังเล็กๆ เพราะเนื่องจากแมวที่โตแล้วนั้นจะค่อยข้างสอนยาก ไม่ค่อยเชื่องสักเท่าไหร่ อีกทั้งลูกแมว นั้นยังมีความน่ารัก เห็นก็อดใจไม่ไหวที่จะเอามาเลี้ยง วิธีเลี้ยงลูกแมว นั้นจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง และหากเป็นลูกแมวที่ยังไม่หย่านมแม่จะต้องทำอย่างไร วิธีป้องกันอาการป่วยที่อาจจะเกิดขึ้น วิธีการดูแลสุขภาพสำหรับลูกแมวต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง ทั้งนี้เพื่อให้น้องแมวโตขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์
สำหรับทาสแมวทั้งหลายที่กำลังจะมีลูกแมว หรือมีลูกแมว แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง วันนี้เรามีวิธีที่จะมาแนะนำการเลี้ยงลูกแมวกัน เพื่อให้ลูกแมวตัวน้อยๆ นั้นเติบโตสมบูรณ์สดใสแข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นการป้อนนม การฉีดวัคซีน หรือการดูแลสุขภาพ จะต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยกับ 5 วิธีเลี้ยง ลูกแมว ดังนี้
1. การป้อนนมให้กับลูกแมว
อาหารที่ป้อนให้กับลูกแมวนั้นควรเป็น นมสำหรับลูกสัตว์ หรือนมแพะเท่านั้น ไม่ควรให้นมวัวเด็ดขาด
– อายุ 1 สัปดาห์ ป้อนครั้งละ 1-2 ซีซี. ควรป้อนทุกๆ 2 ชั่วโมง
– ลูกแมวอายุ 2 สัปดาห์ ป้อนครั้งละ 5-7 ซีซี. ควรป้อนทุกๆ 2 ชั่วโมง
– ลูกแมวอายุ 3 สัปดาห์ ป้อนครั้งละ 7-10 ซีซี. ควรป้อนทุกๆ 3 ชั่วโมง
– เมื่อลูกแมวอายุ 4 สัปดาห์ ก็สามารถเสริมอาหารเปียกได้
ข้อสำคัญในการป้อนนมให้กับลูกแมว คือไม่ควรป้อนเร็วเกินไป หรือป้อนมากเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสำลักได้ ข้อสังเกตหากลูกแมวเริ่มอิ่มแล้วก็จะเริ่มดูดนมได้ช้าลง
เหตุผลที่ไม่ควรให้นมวัว
1. นมวัวมีแคลเซียมน้อยกว่านมแพะ
2. นมวัวมีเม็ดไขมันขนาดใหญ่กว่านมแพะ ทำให้ย่อยยากกว่านมแพะ
3. นมแพะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีกว่านมวัว4. นมแพะมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับนมแม่แมวมากที่สุด
4. นมแพะมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับนมแม่แมวมากที่สุด
2. การทำความสะอาดให้ลูกแมว
สำหรับลูกแมวที่ยังเป็นเด็กน้อยอยู่ยังไม่ควรอาบน้ำ แนะนำให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตัวให้กับลูกแมวอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ส่วนการเริ่มอาบน้ำให้ลูกแมวนั้นควรเริ่มอาบได้ตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป และนอกจากการอาบน้ำให้ลูกแมวก็ควรฝึกตัดเล็บ เช็ดหู ข้อดีคือหากทำตั้งแต่ยังเล็กจะทำให้ลูกแมวเกิดการชินจะได้ไม่ดื้อเมื่อเริ่มโตขึ้น ข้อแนะนำหลังจากการอาบน้ำควรเอาไดร์เป่าผมอุ่นๆเป่าขนให้แห้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ขนชื้น หรือเป็นเชื้อราได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นลักษณะนิสัยของแมวส่วนใหญ่แล้วเป็นสัตว์รักสะอาด จะชอบเลียทำความสะอาดตัวเองอยู่เสมอทำให้แทบจะไม่ต้องอาบน้ำเลยด้วยซ้ำ หากไม่มีเห็บ หรือไม่สกปรกมากจริงๆ นี่คือข้อดีของการเลี้ยงแมว
3. การฝึกขับถ่าย
หากเป็นลูกแมวที่อยู่ในช่วงป้อนนม หลังจากป้อนนมเรียบร้อยแล้ว ควรใช้สำลีชุบกับน้ำอุ่น เช็ดไปที่ก้นเรื่อยๆ ลูกแมวจะเริ่มมีการเกร็งตัว สักพักจะเริ่มขับถ่ายออกมา และเมื่อลูกแมวอายุได้ประมาณ 4 สัปดาห์ หรือเริ่มเดินได้ ควรหากระบะทราย หรือถาดใส่ทรายมาวางไว้ เพื่อเริ่มฝึกให้ลูกแมวขับถ่ายให้เป็นที่ตั้งแต่เด็ก และเนื่องจากแมวเป็นสัตว์ที่รักความสะอาดมาก เราควรทำความสะอาดกระบะทรายทุกวัน เมื่อมีของเสียในกระบะทรายให้หมั่นตักออกเรื่อยๆ และควรจะเปลี่ยนทรายและล้างกระบะทรายอาทิตย์ละครั้งด้วย การหมั่นทำความสะอาดกระบะทรายนั้นนอกจากจะทำให้สุขภาพดี แข็งแรงแล้ว ยังช่วยป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับระบบการขับถ่ายของน้องแมวอีกด้วย วิธีเลือกทรายแมว
4. การฉีดวัคซีน
นอกจากเรื่องอาหาร การดูแลรักษาความสะอาดให้กับน้องแมวแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการให้วัคซีนกับลูกแมว ก่อนเริ่มฉีดวัคซีนเมื่อลูกแมวอายุครบ 6 สัปดาห์ ควรพาไปตรวจสุขภาพ และเริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรกเมื่ออายุครบ 2 เดือน และควรฉีดวัคซีนตามโปรแกรมที่สัตวแพทย์แนะนำเพื่อช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับน้องแมว และทั้งนี้ควรสอบถามสัตวแพทย์เกี่ยวกับวัคซีนที่ต้องฉีดให้ในแต่ละครั้ง เพื่อให้ตรงตามความเหมาะสมของแมวที่เราเลี้ยง
5. การเปลี่ยนอาหารลูกแมว
ลูกแมวจะเริ่มหย่านมในช่วง 6-8 สัปดาห์ ในช่วงนี้ควรให้อาหารแบบเม็ด หรืออาหารเปียกสำหรับลูกแมว ผู้เลี้ยงควรเริ่มลดการให้นมแล้วเสริมด้วยอาหารสำหรับลูกแมวแทน ในหนึ่งวันควรให้อาหาร 3-4 มื้อ และควรน้ำสะอาดไว้ตลอดเวลา ผู้เลี้ยงควรสังเกตลูกแมวหากไม่กินน้ำควรป้อนน้ำลูกแมวด้วยไซริงค์ เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกแมวด้วย
และนี่ก็เป็น 5 วิธีเลี้ยงลูกแมว ที่มือใหม่ควรรู้ก่อนเลี้ยงแมวแรกเกิด ไม่ว่าจะเป็นการดูแลลูกแมวหรือสัตว์ชนิดไหนก็ตาม จะต้องคอยดูแลแบบใกล้ชิด พิถีพิถัน เอาใจใส่ เหมือนกับว่าเลี้ยงเด็กเล็ก เพราะหากลูกแมวไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับแม่แมว ตัวเราก็จะเปรียบเสมือนเป็นแม่แมวที่จะต้องคอยดูแลแทน เพราะฉะนั้น DooDiDo คิดว่าไม่ว่าจะเป็นการป้อนนมลูกแมว การดูและรักษาความสะอาด การกระตุ้นการขับถ่ายที่แม่แมวจะต้องคอยทำให้ลูกอยู่เสมอ และกระทั่งการเสริมภูมิต้านทานเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงให้กับลูกแมวก็ควรพาลูกแมวไปพบสัตว์แพทย์ตามโปรแกรมที่กำหนดด้วย เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดโรคในอนาคตของน้องแมว
ขอบคุณแหล่งที่มา: https://meow-club.com