แนะนำ 5 วิธีการสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง

ห้ามพลาดสิ่งที่คุณควรทำเมื่อขาดแรงบันดาลใจ

จริงอยู่ค่ะที่ว่าการจะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จนั้น นอกจากจะต้องมั่นใจในสิ่งที่ทำแล้ว การวางแผนและตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนก็เป็นอีกทางที่ช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น เพราะจะช่วยให้เราไม่ไขว้เขวทำให้เรามีแรงจูงใจที่จะไปให้ถึงเป้าหมายได้ เรากลับมาเจอกันแบบนี้ต้องกลับมาพร้อมกับสาระความรู้ดีๆ เกี่วยกับ ไลฟ์สไตล์ ทั้งการใช้ชีวิตที่ต้องยอมรับว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากอดีต ไหนจะยังความคิดที่มีความเป็นแปลกใหม่ พร้อมถึงเกร็ดความรู้ดีๆอีกมากมาย บอกเลยว่าไม่ควรพลาดกับบทความในครั้งนี้ กับ เรื่องของคน generation สังคม วัฒนธรรมแต่เดิมเราเรียนรู้การพูดคุยพบปะกัน แต่เด็กสมัยนี้เรียนรู้โลกอีกแบบหนึ่ง คือ การอยู่ในสังคมออนไลน์ที่สามารถพูดคุยได้กับคนทั่วโลก แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้เราหมกแรงบันดาลในการทำการรวมถึงการใช้ชชีวิตได้เช่นกัน วันนี้เรามี ไลฟ์สไตล์ กับ วิธีการสร้างแรงบันดาลใจของคน generation   หากเพื่อนๆทุกคน พร้อมกันแล้วละก็ อย่ารอช้าเลย ได้ดูสาระความรู้ดีๆ จากบทความนี้กันเลยค่าาาาา

คุณอาจจะพบเจอแรงบันดาลใจได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง อ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือคุยกับใครสักคน แต่แรงบันดาลใจนั้นมันไม่ได้มาหาเราตลอดหรอกนะ บางครั้งคุณอาจจะรู้สึกว่าตอนนี้ไม่มีจิตใจจะทำอะไรเลย มันทำให้ชีวิตของคุณเชื่องช้าลงกว่าที่ควรจะเป็น เพราะแรงบันดาลใจนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ และก้าวไปข้างหน้าได้ ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองกำลังขาดแรงบันดาลใจ เรามีวิธีง่ายๆ มาแนะนำคุณ สำหรับเรียกแรงบันดาลใจกลับมาอีกครั้ง

1. ทำสมาธิ

การทำสมาธินั้นมีผลต่อภาวะทางจิต มันช่วยให้เราสามารทบทวนอารมณ์ต่างๆ ได้ เช่นความโกรธ ความเกลียด หรือแม้แต่ความรัก ในทางจิตวิทยาแล้วมีการค้นพบว่าการทำสมาธิจะช่วยลดความวิตกกังวล และทำให้อารมณ์เรามั่นคงขึ้น

แม้ว่าการทำสมาธิจะไม่ได้เป็นบ่อเกิดของแรงบันดาลใจโดยตรง แต่มันจะช่วยให้ร่างกายและจิตใจของคุณพร้อม และแข็งแรง เพราะทุกวันนี้ผู้คนมักจะต้องเจอกับอาการทางจิตที่คอยรบกวนพวกเขาอยู่ตลอดเวลา และเมื่อต้องเจออะไรแบบนั้น มันก็ยากที่จะหาแรงบันดาลใจ

คุณสามารถเริ่มฝึกสมาธิได้เลยในทันที แม้ว่าคุณจะเป็นแค่ผู้เริ่มต้น แต่มันจะเห็นผลได้ทันตาเลยล่ะ คุณจะรู้สึกสงบและผ่อนคลายมากขึ้น และไม่แน่ว่าแรงบันดาลใจที่หายไปก็อาจจะกลับมาอีกครั้ง

2. หยุดใช้โซเชียลมีเดีย

หยุดการใช้โซเชียลมีเดียทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นในโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะให้ตัวคุณเองได้พักผ่อนบ้าง จำไว้ว่าเมื่อครั้งในอดีตที่ยังไม่มีโทรศัพท์มือถือ ผู้คนก็ยังมีวิธีการตั้งมากมายในการผ่อนคลาย หรือเล่นสนุก บางทีอาจจะเป็นการคุยกับเพื่อน หรือออกไปเดินเล่น

มีผลการวิจัยพบว่า คนที่ใช้อุปกรณ์เท่าที่จำเป็นนั้นสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทุกวันนี้สื่อดิจิตอลนั้นมีผลต่อเรามากเกินไป และส่วนมากก็จะเป็นในทางลบ การหยุดใช้มักสักพักจะช่วยให้คุณคิด หรือหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น

3. ทำชีวิตให้ช้าลงบ้าง

ทุกวันนี้ เป็นเรื่องปกติไปแล้วที่ผู้คนมักจะเร่งรีบทำสิ่งต่างๆ ให้เสร็จ จนพวกเขาไม่มีเวลาให้ร่างกายกับสมองได้พักผ่อน ในทางสุขภาพแล้ว คนเราควรมีเวลาพักผ่อนจากงานที่เหมาะสม เพื่อเป็นการฟื้นฟูสมองนั่นเอง

เรามักจะคิดอะไรไม่ออกเวลาที่เหนื่อยล้ามากๆ และนั่นเป็นสัญญาณว่าคุณควรจะหยุดพักสักระยะหนึ่ง เราต้องตระหนักไว้เสมอว่าถ้าเราไม่ยอมพัก ร่างกายและจิตใจก็จะไม่มีเวลาในการฟื้นฟู และนั่นหมายความว่าเราจะไม่สามารถหาแรงบันดาลใจได้เลย

4. ปาฏิหาริย์แห่งดนตรี

ดนตรีนั้นมีผลทั้งต่อสมองและหัวใจ เพราะเวลาคุณฟังดนตรี โดยเฉพาะเพลงที่คุณชื่นชอบ มันจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณผ่อนคลายทางอารมณ์ และเชื่อมต่อสมองกับจิตสำนึกของคุณเข้าด้วยกัน บางทีคุณอาจจะฟังเพลงแจ๊ซเบาๆ เพื่อเป็นการผ่อนคลายจากเรื่องเครียดๆ

นอกจากนี้ดนตรียังมีผลต่ออารมณ์ของคุณอย่างมาก ถ้าคุณได้ฟังดนตรีเพราะในวันที่คุณรู้สึกแย่ พนันได้เลยว่าคุณจะอารมณ์ดีขึ้น และสามารถค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้นด้วย

5. ตะโกนออกมาดังๆ

จิตใจของคนเราเปรียบได้กับที่เก็บขยะ ถ้าคุณไม่ระบายสิ่งเหล่านั้นที่อยู่ในใจออกมาบ้าง คุณก็จะรู้สึกเหนื่อยล้าและเครียดมากเกินไป แต่เพียงแค่เราตะโกนออกมาดังๆ ขยะที่อยู่ในใจก็จะถูกทำลายให้หายไปได้

เวลาที่คุณรู้สึกขาดแรงบันดาลใจ อยากให้คุณลองทำวิธีนี้ดู (อย่าลืมล่ะว่าต้องไม่มีคนอยู่ใกล้ๆ คุณในตอนนั้น) แล้วคุณจะรู้สึกแปลกใจถึงผลลัพธ์ของมัน จริงๆ แล้วมนุษย์ก็เป็นสิ่งที่มีคู่มือติดมาด้วย เพียงแต่คุณต้องรู้วิธีอ่านคู่มือเหล่านั้นนั่นเอง

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ ก็จบลงไปแล้วน้า กับ ไลฟ์สไตล์ การชีวิตของคนในยุคนี้ กับ “วิธีการสร้างแรงบันดาลใจของคน generation ”DooDiDo หวังว่าเพื่อนทุกคนจะได้รับความรู้จากบทความนี้ไม่มากก็น้อยนะค่ะ  นอกจากนนี้ตอนนนี้เป็นเวลากว่า 2 ปีที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับ โควิด-19 เกิดการปรับตัวอย่างรุนแรงทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยชนิดที่เรียกว่าไม่ปรับตัวก็อยู่ไม่ได้ ทำให้มีความปกติใหม่ๆ New Normal เกิดขึ้น เทคโนโลยีต่างๆ อย่าลืมดูแลตัวเองพร้อมกับวางแผนชีวิตของตนเองด้วยนะค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://sumrej.com