แนะนำ 10 ผักและผลไม้ใกล้ตัว ตัวช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารได้

WM

ผักและผลไม้ จัดเป็นกลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพที่มีมีกากใยอาหารสูง

สำหรับปัญหา ท้องอืด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย ผัก-ผลไม้ใกล้ตัวไหนช่วยได้ บอกหมดเปลือก! ก็ปัญหาที่มันเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆหลังจากกลับจากร้านชาบู หมูกระทะแบบไม่อั้นทุกทีน่ะสิคะ กินอิ่มจนพุงกางเลย สุดท้ายก็มานั่งทรมานเพราะอาหารไม่ย่อยอีก ซึ่งแน่นอนว่าเราจะไม่มีทางยอมให้ปัญหาแบบนี้มาขัดขวางการทานปิ้งย่างแบบไม่อั้นของเราได้ คอยดูเถอะ หายเมื่อไหร่เจอกัน!! แต่ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนเถอะค่ะว่า มีผัก-ผลไม้ไหนบ้างที่จะช่วยเราแก้ปัญหานี้กันนะ ว่าแล้วก็อย่ารอช้าค่ะ ไปดูพร้อมกันเล้ย

ผัก-ผลไม้ จัดเป็นกลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพ ทุกคนรู้ดีว่าทั้งผักและผลไม้ต่างก็มีกากใยอาหาร วัตถุดิบสำคัญที่ช่วยในการย่อยอาหารและแก้อาการท้องผูก ทว่าผัก-ผลไม้บางชนิดมีสรรพคุณเด่นในเรื่องช่วยย่อย ขับลม อย่าง 10 ผัก-ผลไม้ช่วยย่อยดีมาก ต่อไปนี้เลย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/jmexclusives-10518280/

1. สับปะรด

ใครชอบทำครัวคงจะรู้สรรพคุณในการย่อยของสับปะรดดี เพราะสับปะรดเป็นวัตถุดิบในการหมักเนื้อให้เปื่อยนุ่ม เนื่องจากเอนไซม์โบรมีเลน (Bromelain) ในสับปะรดมีฤทธิ์ย่อยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ให้มีขนาดโมเลกุลเล็กลง อีกทั้งเอนไซม์ในสับปะรดยังมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร และสมานแผลในกระเพาะอาหารได้ด้วยล่ะ

2. มะละกอ

เอนไซม์พาเพนในมะละกอมีคุณสมบัติช่วยย่อยอาหาร โดยเฉพาะอาหารประเภทเนื้อสัตว์ย่อยยาก พาเพนจะช่วยจัดการย่อยอาหารเหล่านั้นอย่างง่ายดาย และยิ่งรวมพลังกับไฟเบอร์ที่มีอยู่ในมะละกอ ก็ยิ่งทำให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานง่ายยิ่งขึ้นอีกเท่าตัว ช่วยลดอาการแน่นท้อง ท้องอืดจากอาหารไม่ย่อย และช่วยในเรื่องขับถ่ายได้ดีเยี่ยมอีกด้วย

3. กล้วย

ไฟเบอร์ในกล้วยเป็นไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหารในกระเพาะอาหารได้เป็นอย่างดี และกล้วยยังเป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์ค่อนข้างสูง ช่วยบรรเทาอาการแน่นท้อง อาหารไม่ย่อย แถมยังช่วยแก้อาการท้องผูกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากๆ เลยค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/couleur-1195798/

4. แอปเปิล

ในแอปเปิลมีแพคตินที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ลำไส้ย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปด้วย ที่สำคัญในแอปเปิลยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินที่หลากหลาย ดีต่อการทำงานของอวัยวะภายในทั้งลำไส้ กระเพาะอาหาร และเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย

5. พรุน

ลูกพรุนเป็นผลไม้ที่มีทั้งใยอาหารชนิดละลายน้ำได้และใยอาหารชนิดที่ละลายน้ำไม่ได้ ด้วยคุณสมบัตินี้จึงจัดได้ว่าพรุนเป็นอาหารที่ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารและและระบบขับถ่ายตัวท็อปเลยทีเดียว

6. มันเทศ

ใยอาหารในมันเทศจะช่วยกระตุ้นเอนไซม์ช่วยย่อยในลำไส้ ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานอย่างขยันขันแข็งมากขึ้น และเช่นกันค่ะ ความที่มันเทศมีไฟเบอร์มาก ก็จะช่วยผลักดันอาหารที่อยู่ในลำไส้ให้มีการเคลื่อนไหว ถูกย่อย และถูกขับถ่ายออกมาได้ในที่สุด

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.pexels.com/th-th/@foodie-factor-162291

7. อะโวคาโด

อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก ช่วยรักษาอาการอักเสบที่เกิดในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ นอกจากนี้สารอาหารในอะโวคาโดยังจะช่วยเพิ่มแบคทีเรียและจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น อาการท้องอืด แน่นท้องเนื่องจากอาหารไม่ย่อยก็จะบรรเทาไป

8. แตงกวา

นอกจากไฟเบอร์ที่มีอยู่ค่อนข้างเยอะแล้ว แตงกวายังมีน้ำเป็นส่วนประกอบเยอะมาก ช่วยส่งเสริมกระบวนการย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี โดยจะกินแตงกวาแกล้มน้ำพริก ข้าวผัด อาหารชนิดต่างๆ ก็ได้ ทำเป็นสมูทตี้ผสมน้ำผึ้งก็เด็ดดวง

9. กะเพรา

กะเพราเป็นผักที่มีน้ำมันหอมระเหยในตัวเอง กลิ่นของกะเพราที่ออกเผ็ด ร้อน มีสรรพคุณช่วยแก้อาการท้องอืด และกระตุ้นระบบย่อยอาหารในร่างกายได้ ถ้าใครมีใบกะเพราสดลองเด็ดมาต้มน้ำร้อน ชงเป็นชากะเพราดื่มแก้ท้องอืดก็ดีนะคะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/stux-12364/

10. หอมแดง

ไม่ได้มีดีแค่ช่วยบรรเทาอาการหวัด คัดจมูกเท่านั้น แต่หอมแดงยังมีสรรพคุณขับลม แก้ท้องอืด แน่นท้องเนื่องจากอาหารไม่ย่อย ช่วยย่อยอาหาร และทำให้เจริญอาหารอีกด้วยนะคะ เด็ดดวงจริงๆ เลย

เรียกได้ว่าเป็นผักใกล้ตัวจริงๆ ค่ะ ใกล้แบบที่ไปขอเด็ดมาจากข้างบ้านมาทานเอาก็ยังได้ แต่เชื่อเถอะค่ะว่าเตรียมเงินไปซื้อเองดีกว่า เพราะปัญหานี้อาจจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ก็ได้ ทางที่ดี DooDiDo คิดว่าเราควรเลือกทานเป็นอาหารในชีวิตประจำวันยังไงก็เริสนะ เพราะอย่างไรแล้วพืชผัก-ผลไม้เหล่านี้นั้นก็มีประโยชน์มากมาย ซึ่งแน่นอนว่าเหมาะกับคนเฮลตี้แน่นอนเลยค่ะ แต่อย่างไรก็ตามถ้าจะให้ดีกว่านี้ และเพื่อที่จะไม่ต้องมีปัญหาสุขภาพตามมาทีหลังก็ควรทานบุปเฟต์แบบบเบาๆ บ้างก็จะดีนะคะ ทานแบบพออิ่มท้อง และเน้นผักมากกว่าเนื้อสัตว์ แล้วพยายามเคี้ยวนานๆ เท่านี้ปัญหาอาหารไม่ย่อยก็น่าจะทุเลาลงได้บ้างนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.gangbeauty.com