เปิดแฟ้มคดีไทย “ปฐมฤกษ์ เสือเรียง 5 นัด จอมขมังเวทย์เมืองนนท์”

เสือเรียง

“เสือเรียง 5 นัด จอมขมังเวทย์เมืองนนท์” แห่งบางแม่นาง บางใหญ่ นนทบุรี ย้อนกลับไปก่อนปี 2499

หากเอ่ยถึงชื่อของ “จำเรียง ปางมณี” แทบไม่มีใครรู้จัก แต่หากเรียก “เสือเรียง 5 นัด” แห่งบางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักเขาในฐานะจอมโจรขมังเวท ผู้ที่ก่อคดีอย่างอุกอาจท้าทายกฎหมายบ้านเมือง และยังโหดเหี้ยมไร้ความปรานีต่อเหยื่อ และยังรอดพ้นเงื้อมมือเจ้าหน้าที่ ไปได้ราวกับปาฏิหาริย์

และนี่จึงกลายเป็นที่มาของฉายาเสือเรียง 5 นัด จอมโจรขมังเวทแห่งเมืองนนท์จำเรียง นั้นจเกิดปีไหน วันอะไร ไม่ได้ปรากฏหลักฐาน ให้ติดตามค้นหาได้ แต่เขานั้น เป็นลูกของพ่ออุ่ม และแม่ทิม ปางมณี ณ บางเชือก อ.ตลิ่งชัน จ.นนทบุรี เขาได้เติบโตอยู่ที่นี่จนกระทั่งอายุได้ 23 ปี พ่อและแม่ย้ายจากบางเชือกไปลงหลักปักฐานที่บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี แต่จำเรียงนั้นไม่ได้ย้ายตามไปด้วย เพราะเขาไปหลงรักหญิงสาวคนหนึ่งความรักของจำเรียงกับสาวบางเชือกมีอุปสรรคนานัปการ จากญาติผู้ใหญ่ที่ไม่ชอบชายหนุ่มที่มีฐานะต่ำต้อยกว่า ถึงกับต้องกีดกันไม่ให้คบหา

จำเรียง
ภาพจาก www.google.com

บางครั้งก็ดูถูกเหยียดหยามเอาอย่างเจ็บปวด จำเรียงเองในวัยหนุ่ม ที่กำลังความอดทนอดกลั้นอย่างจำกัด ไม่นานเขาก็ได้ตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่น ด้วยการใช้ปืนพก ยิงไปที่ยายของหญิงสาวผู้เป็นที่รักจนเสียชีวิต ถูกจับถูกตัดสินจำคุก 20 ปี แต่หลังจากชดใช้กรรมได้เพียง 7 ปีในกำแพงแห่งกรรมกลับมาอยู่กับพ่อแม่ที่บางใหญ่ทำมาหากินจนมีเมีย 2 คนและลูก 8 คนโดยต้มเหล้าเถื่อนขายนี้ มีการซื้อขายธุรกิจผิดกฎหมายโดยจ่ายค่าปรับการพนันให้กับเจ้าหน้าที่ภายนอก บ้างมาขอเหล้าบ้างเงินบ้างแล้วแต่ความต้องการในขณะนั้น

ถึงแม้บางครั้งจะโดนข้อหาว่าน่ารังเกียจ แต่ก็เกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนอาการชากลายเป็นที่สุดในวันนี้ผู้รวบรวมได้หันไปคว้าปืนอีกครั้ง เหยื่อคมของเขาคราวนี้เท่านั้นถึง “ข้าราชการ” ตั้งแต่การตายของเจ้าหน้าที่คนนั้นวิถีชีวิตของพระเครื่องเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เขาเร่ร่อนออกจากบ้านเหมือนคนยิ่งใหญ่ และรวบรวมสมัครพรรคพวกเพื่อปล้นสะดมชาวบ้านเรื่อยมาพร้อมกับคำนำหน้าชื่อใหม่จาก “จำเรียง” เป็น “เสือเรียง” แทน

เสือสมิงใช้ปืนบาเร็ตต้าเป็นอาวุธ ก่อนปล้นเขาจะยิงปืนขึ้นฟ้า 5 นัดฤกษ์งามยามดี และก่อนนำไปทิ้งจะยิงขึ้นฟ้าอีก 5 นัดจนได้รับการขนานนามในภายหลังว่า “เสือ 5 ตัว” ในคืนวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2499 เป็นคืนที่เงียบสงัดผู้คนต่างหลับใหล เฉพาะเสือสายลูกน้องที่ตื่นขึ้นมาวางแผนปล้นบ้าน “เสียมเง็กแซ่หว่าน” แขวงบางแคเขตภาษีเจริญจ. ธนบุรี เสียงปืนดังติดต่อกันห้านัดส่งสัญญาณให้กลุ่มโจรแห่งมงคลบุกเข้ามา ในขณะที่ปลุกเหยื่อจากภวังค์

แต่ไม่ว่าเสียมเง็กแซ่ซุปและกลิ่นดอกบัวมากแค่ไหนเขาก็ขอร้องให้มีชีวิตเสือและสมุนของพวกเขาก็ไม่ปรานี เขายิงพวกเขาเสียชีวิตและกวาดเงินไปหนึ่งหมื่นบาท ก่อนถอยไม่ลืมยิงปืนขึ้นฟ้าเหมือนบอกลาอีก 5 นัด การปล้นครั้งนี้ทำให้ชื่อเสียงด้านลบของเสือแพร่กระจายไปทั่ว ต้นฉบับไม่ได้รับการแก้ไขใหม่โผล่ออกมา เมื่อเสือนำสมุนไปปล้นชาวบ้านและฆ่าเจ้าของบ้านสไตล์เดียวกับเสี่ยเค็งก็เป็นแน่แท้ ที่สำคัญบ้านที่เกิดเหตุอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเซียมเง็ก

พฤติกรรมที่โหดเหี้ยมและไร้ความปรานีนี้แม้เหยื่อจะยอมจำนน แต่ก็เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า หนังสือพิมพ์ทุกฉบับลงข่าวสร้างความหวาดผวาทั่วจังหวัดธนบุรีร้อนถึง พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจ เรียกตำรวจ 4 สน. ได้แก่ สน.บางขุนเทียน สน.ท่าข้าม สน.หลักสอง และ สน.ภาษีเจริญ ให้เร่งปราบจอมโจรรายนี้ให้ได้โดยเร็ว

เป็นเรื่องยากที่จะติดตามหาที่หลบซ่อนของเสือโคร่งและผู้คนโดยเฉพาะในอำเภอบางใหญ่จังหวัดนนทบุรี หลังจากนั้นสองสัปดาห์ตำรวจได้เบาะแสไปยังที่หลบซ่อนที่กระท่อมในสวนผลไม้ที่อยู่ลึกจากจุดที่เสือนำกำลังบุกเข้าไป 2 ครั้งในพื้นที่ ต.หัวกระบือ อ.บางขุนเทียน จ.ธนบุรี บ้านของญาติที่เสือเรียงเคยอาศัยในวัยเด็กนั่นเอง

นอกจากความโหดเหี้ยมและไร้ความปรานีแล้วเสือโคร่งยังขึ้นชื่อเรื่องความเป็นนักแม่นปืนอีกด้วยดังนั้นก่อนที่จะปิดล้อมตำรวจต้องวางแผนอย่างรอบคอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจ 100 นายจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายได้ปิดล้อมกระท่อมของพวกเขาตั้งแต่เที่ยงคืน จากนั้นก็ซุ่มซ่อนจนสว่างเพื่อประเมินความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ว่ามากน้อยแค่ไหนในที่สุดฉันก็รู้ว่าในกระท่อมมีเพียงเสือกับเสือศิริสงวนพันธ์ลูกสมุนคนสนิทเพียงสองคน

เมื่อเช้าส.ต.อ.ปลอด จันทร์งาม ตำรวจบางขุนเทียนวัย 42 ปีได้รับมอบหมายให้เจรจา แต่อนิจจา! เรื่องยังไปไม่ถึงไหน ส.ต.อ.ปลอดถูกฆ่าต่อหน้าตำรวจหลายร้อยนายที่มาล้อม กระสุน 5 นัดจากปืนบาร์เร็ตต้ายิงจากปากกระบอกปืนและเข้าตรงกลาง ส.ต.อ.หนุ่มเสียชีวิตทันที พร้อมกับการเปิดฉากยิงวอลเลย์เข้าไปในกระท่อมหลังเล็กการยิงเกิดขึ้นชั่วขณะ เสียงคมกระสุนแหวกอากาศดังระงมกลางสวนผลไม้

10 นาทีต่อมานอกจากการเสียชีวิตของส.ต.อ.ปลอดแล้วเพื่อนตำรวจอีกเกือบ 100 คนได้รับบาดเจ็บ หลังจากการดวลปืนจบลงตำรวจเคลียร์พื้นที่ไม่พบร่องรอยของหัวขโมยทั้งสองจากเหตุปะทะกลางสวนผลไม้บางขุนเทียนมีการปะทะกันระหว่างตำรวจกับเสือหลายครั้งแต่เสือเรียงก็สามารถเอาตัวรอดได้ทุกครั้งเช่นกัน ทิ้งความสูญเสียให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยอย่างน้อยสามครั้งที่ตำรวจสังเวยชีวิตให้กระสุนเสือเรียง

“ ในช่วงนั้นหนังสือพิมพ์เสรีตีพิมพ์ข่าวเกี่ยวกับความน่ากลัวของเสือโคร่งแทบทุกวันขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนได้ยืนยันบนหน้าหนังสือพิมพ์ถึงความแม่นยำของเสียงปืนปาฏิหาริย์และเวทมนตร์คาถาของเสือเรียง หนักสุดถึงกับว่าหายตัวไปต่อหน้าต่อตาก็มี กระสุนปืนทำอะไรไม่ได้เลย” บรรเจิดช่างเชาว์อายุ 79 ปีชาวบ้านบางใหญ่จ. นนทบุรีกล่าว ครั้งหนึ่งหนังสือพิมพ์นำเสนอข่าวหลวงพ่อเต๋คงทองเกจิอาจารย์ชื่อดังจากนครปฐมยืนยันว่าเสือเหลียงหายไปทำให้ชาวบ้านยิ่งกลัวเสือเรียงมากขึ้นไปอีก

แม้ว่าชาวบ้านจะเชื่อในอำนาจและปาฏิหาริย์ที่อยู่เหนือกฎธรรมชาติ แต่ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วเจ้าหน้าที่ของรัฐเชื่อว่าเสือเก่งในการยิงปืนลูกซองและหลบหลีกพวกเขาเท่านั้นให้รอดพ้นจากการจับกุมตลอดเวลาดังจะเห็นได้จากเสือถูกวิสามัญฆาตกรรมในเวลาต่อมา หลังตำรวจจับกุมเสือศิริลูกสมุนคนสนิท16เมษายน2500ตำรวจสืบทราบว่าเสือเรืองกอบเด่นอยู่ที่บ้านของอาจารย์สักยันต์แห่งหนึ่งในอำเภอบางพลีจังหวัดสมุทรปราการ กำลังตำรวจกว่า100นายปิดล้อมบ้านมีชายสามคนสังเกตเห็นในบ้านคนหนึ่งเป็นนายของบ้านอีกคนไม่ปรากฏชื่อ

เมื่อรู้ทันทีว่าเขาถูกปิดล้อมเสือจึงดับตะเกียงของพวกเขาพายุจึงกระโดดออกจากหน้าต่างไปยังเรือพายและหนีไปทางคลองแม่ประเส ซึ่งเป็นทางลัดระหว่างคลองเสือดำและคลองอ้อมตั้งใจจะออกจากคลองเสือเสียชีวิตเพราะเป็นคลองขนาดใหญ่แต่พยัคฆ์เรียงอาจไม่รู้ว่าความตายกำลังรออยู่นอกจากนี้นอกจากความเป็นมงคลในการปล้นแล้วเขายังคงมองไม่เห็นโชคชะตาของตัวเอง หลังจากขึ้นเรือได้ไม่นานเสือที่ถูกคัดแยกก็ถูกคมกระสุนจากพลตำรวจตรีพุ่มทิมเจริญ

ลึกลับ
ภาพจาก www.google.com

สภาพศพเสือถูกจับแน่นด้วยปืนบาร์เร็ตต้าคู่ใจ กระสุนอีกมากมายที่เอวมีปืน ออโตเมติกโคลท์ 9 มม. SA Game พร้อมกระสุนเต็มแม็กกาซีน หวีผม 1 หวี รอบคอแขวนพระเครื่องกว่า 20 องค์เป็นพวงใหญ่ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาชื่อเสียงของพยัคฆ์เหลียงก็หายไปทุกวินาทีที่เวลาผ่านไปเสร็จสิ้นด้วยปืนของคุณบรรเจิดช้างเล่าว่าครั้งหนึ่งเคยมีคนเขียนเพลงเกี่ยวกับทุ่งบางพลี เนื้อบางส่วนเขียนว่า “บางพลีในอดีตมีเสือร้ายตอนนี้มันหมดลายแล้ว” ซึ่งเสือในที่นี้หมายถึง “เสือ 5 ตัว” หรือปางมณีซึ่งถูกตำรวจบางพลียิงเมื่อปี 2500พลตำรวจพุ่ม ทิมเจริญ ใช้อาวุธปืนประจำตัวเป็นปืนยาวบรรจุกระสุนเองแบบ 66 ซึ่งคนเฒ่าคนแก่รู้จักกันดีคือปืนเก่าหรือที่เรียกกันว่าปืน เคยผ่านพิธีรดน้ำพลวง

หลังสั่งซื้อจากต่างประเทศในสมัยรัชกาลที่6เชื่อกันว่าปืนชนิดนี้มีอานุภาพสามารถทำลายโจรได้ด้วยมนต์สะกดอักขระวิเศษเหตุที่ต้องทำพิธีรดน้ำพระพุทธมนต์โดยรัชกาลที่6ด้วยพระองค์เองเพื่อเป็นขวัญกำลังใจของทหารไทยจึงถือปืนประเภทนี้เป็นปืนประจำกายในการรณรงค์สงครามยุโรปหวังว่า DooDiDo จะได้พบกับใหม่ในครั้งหน้า

แหล่งที่มา : blockdit (คดีสะเทือนขวัญ)