เคล็ดลับ!! วิธีที่จะช่วยให้รอยสิวจางลง..ด้วยวิธีธรรมชาติ

WM

การแคะ แกะ บีบสิว เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างมากในการรักษารอยสิว

สาวๆ คนไหนที่บนใบหน้าชอบเป็นสิวอยู่บ่อยๆ มีไหมคะ เมื่อเป็นสิวขึ้นมาแล้ว กว่าจะหายก็ดันทิ้งรอยไว้ซะอีก เป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกเลยใช่มั้ยคะ ครั้นจะหาครีมแก้รอยสิวดีๆ ซักตัวไปหาอ่านรีวิวจากคนอื่นๆ แล้วก็อาจจะได้ผลดีแต่ก็ไม่รู้ว่ากับตัวเราแล้วจะแพ้มั้ย วันนี้เราเลยจะมานำเสนอวิธีที่จะทำให้รอยสิวของคุณจางลงด้วยวิธีธรรมชาติ ให้ทุกคนไปลองทำตามดูค่ะ

ถ้าหากว่าคุณต้องการที่จะให้รอยสิวของคุณหายไวๆแล้วสิ่งสำคัญ เลยคือ การแคะ แกะ บีบสิว เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างมากในการรักษารอยสิวเพราะการบีบสิว แกะสิวเอง การทำแบบนี้คือการไปกระตุ้นให้ผิวหนังเกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้น และหากมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้ไม่สะอาดอาจทำให้เกิดการอักเสบของสิวจนเป็นสาเหตุของการเกิดหลุมสิวและรอยสิวได้ ยิ่งให้วิธีรักษารอยสิวรักษายากและใช้เวลาในนานขึ้นไปอีก

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/stevepb-282134/

 1. มะเขือเทศ

ในตัวของมะเขือเทศนั้นจะมีสารชนิดหนึ่งซึ่งทำหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่ภายในผลมะเขือเทศ นอกจากนั้นแล้วในผลมะเขือเทศยังมีความอุดมประโยชน์ไปด้วยวิตามินซี และวิตามินเออีกด้วย ให้สาวๆ นำมะเขือเทศไปล้างน้ำให้สะอาด นำมาหั่นเป็นแว่นๆ คว้านเมล็ดออก แล้วนำไปปั่นให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำ มาทาให้ทั่วใบหน้า ยกเว้นรอบดวงตา และริมฝีปาก ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น สิวหัวดำก็จะอ่อนตัวหลุดออกมาเอง รอยแผลเป็นก็จะเริ่มจางลง รูขุมขนที่เคยกว้างก็จะกระชับและเล็กลงด้วยล่ะค่า

2. หอมแดง

หั่นหอมแดงที่ล้างแล้วเป็นแว่นบางๆ หรือทุบเบาๆ ก็จะได้น้ำของหอมแดงออกมา ให้ใช้นิ้วแตะน้ำที่ซึมออกมาจากหอมแดง แล้วทาบางๆ ลงบริเวณที่เป็นสิวและจุดด่างดำ หรือวางแว่นหอมที่ฝานแปะไว้บนรอยบวมจากการบีบสิว และรอยด่างดำบนใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วล้างออก ก็จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และลดความมันบนใบหน้าให้เรา จึงไม่ก่อให้เกิดสิวได้ง่าย ผิวหน้าบริเวณนั้นก็จะดูดีขึ้น ปัญหาสิว ร่องรอยด่างดำจากสิว จะค่อยๆจางหายไปในไม่ช้า ไม่ช้าเกิน 3 วันก็เห็นผล

3. น้ำมะนาว

หลังจากสาวๆ ล้างหน้าสะอาดแล้ว ก็บีบน้ำมะนาว 1 ช้อนชาลงในถ้วยเล็ก ใช้สำลีจุ่มน้ำมะนาวพอเปียก อาจผสมน้ำหากกลัวว่าจะแสบเกินไป ป้ายน้ำมะนาวลงบนสิว สิวหัวขาว สิวหัวดำ สิวหัวหนอง ทิ้งไว้ทั้งคืนโดยไม่ต้องล้างออก ค่อยมาล้างในตอนเช้า ชั่วข้ามคืนก็เริ่มเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงแล้วจ้า

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@arwinneil

4. น้ำผึ้ง

เพียงนำน้ำผึ้งมาทาหน้าให้ทั่วหน้า โดยเฉพาะรอบๆ รอยสิว แต่ควรหลีกเลี่ยงการนวดจุดที่เป็นสิวโดยตรงเพราะจะเป็นการรบกวนสิวให้อักเสบบวมมาก นวดคลึงอย่างเบามือให้ทั่ว น้ำผึ้งจะช่วยดูดซับสิ่งสกปรกบนผิวให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน สูตรนี้สามารถทำได้ทุกวันเป็นประจำเลยค่ะ นวดเพียง 5-10 นาที แล้วล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น นอกจากสิวหายแล้ว ยังป้องกันการเกิดสิวใหม่ได้อีกด้วย แถมผิวหน้าก็ยังเนียนนุ่มชุ่มชื้นแบบมีสุขภาพดีสุดๆ เลยล่ะ

5. กระเทียม

กระเทียมสามารถกำจัดสิวได้เนื่องจากมีกระเทียมมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยลดการติดเชื้อบริเวณที่เป็นสิวและรักษาผิวหน้าให้หายจากสิวได้ แค่ปลอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก นำน้ำที่ออกมาจากส่วนที่หั่นมาทา ตรงบริเวณที่เป็นสิวอักเสบ ทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 5-10 นาที แล้วล้างออก การใช้กระเทียมทาผิวที่เป็นสิวนั้นไม่เพียงแค่กำจัดสิวเท่านั้น แต่ยังช่วยกำจัดรอยจุดด่างดำจากสิว และสิวหัวหนองได้ดีสุดๆ

6.น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น

น้ำมันมะพร้าวช่วยลดการอักเสบของสิวได้ นอกจากนี้ยังช่วยรักษาแผลบนผิวหนังอันเนื่องมาจากเป็นสิว เหนือสิ่งอื่นใดน้ำมันมะพร้าวช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญอาหาร และยังส่งผลทางอ้อมต่อการหลั่งและสร้างความสมดุลของฮอร์โมน จึงช่วยลดโอกาสของการเกิดสิว อีกทั้งยังเพิ่มการรักษาและการซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังที่เสียหายอีกด้วย โดยกินเพียง 2-5 ช้อนโต๊ะต่อวันเท่านั้น สาวๆ ที่เป็นสิวอุดตันรักษาไม่หายต้องลอง

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/googlerankfaster-18082394/

7. น้ำมันลาเวนเดอร์

หากมีสิวอักเสบให้สาวๆ ใช้น้ำมันลาเวนเดอร์ หรือทีทรี แต้มบริเวณที่อักเสบโดยตรง โดยไม่ต้องเจือจางใดๆ วันละ 2-3 ครั้ง สิวจะยุบลงอย่างรวดเร็ว วิธีการใช้ก็ให้นำคอตตอนบัดหรือนิ้วก็ได้ หยดน้ำมันหอมทีละหยด แล้วแต้มนำมาแต้มเบาๆ ตรงสิวอักเสบ แต่เว้นบริเวณรอบดวงตานะคะ ไม่อย่างนั้นจะแสบเอาได้

8. มะขามเปียก+น้ำผึ้ง+โยเกิร์ต

หากสาวๆ ที่รอยสิวแถมผิวหน้ายังแห้งอีก ให้เติมน้ำผึ้ง+โยเกิร์ต สดลงไปผสมกับน้ำมะขามที่ผ่านการคั้นมาแล้ว ใช้ Cotton Bud จุ่มในน้ำมะขามเปียก แล้วนำมาแต้มบริเวณที่มีรอยสิว ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที สูตรนี้สามารถทำบ่อยๆ ได้ เนื่องจากเราไม่ได้พอกมะขามเปียกทั้งหน้า จึงลดความเสี่ยงที่ผิวหน้าจะเกิดอาการระคายเคืองไปทั้งหน้าได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/stevepb-282134/

9. แตงกวา

ง่ายๆ เลยให้นำแตงกวามาล้างให้สะอาด แล้วหั่น slice เป็นแผ่นบางๆ จากนั้นก็นำแตงกวาที่หั่นแล้วมาวางทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ซักพัก 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น สูตรแตงกวาพอกหน้านี้จะช่วยลดอาการสิวอักเสบ ช่วยลดเลือนความมันบนใบหน้า ทำให้รูขุมขนกระชับเล็กลงและบำรุงผิวหน้าให้เปล่งปลั่งกระจ่างใส สาวๆ ที่มีปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ และมีสิวอักเสบขึ้นกวนใจอยู่ต้องลองสูตรนี้เลยค่า

10. นมสด+น้ำผึ้ง

ใส่นมสดลงไปในภาชนะสำหรับผสมจำนวน 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นเติมน้ำผึ้งลงไปด้วยอีก 1 ช้อนโต๊ะ คนส่วนผสมให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีมเหนียวๆ นำเนื้อครีมที่ได้มาทาให้ทั่วไปหน้าที่เกิดสิว ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างด้วยน้ำอุ่น จากนั้นก็ล้างหน้าด้วยน้ำเย็นอีกรอบ สูตรนี้แนะนำให้ทำสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้งนะคะเพื่อลดความมันบนใบหน้าและขจัดสารพิษที่ตกค้างอยู่บนผิว ส่งผลให้ผิวหน้าผ่องใสไร้ปัญหาสิวมากวนใจ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/casellesingold-4881038/

11. ว่านหางจระเข้

สูตรเบสิกที่สาว ๆ สามารถใช้บรรเทาอาการสิวได้ทุกวัน ก่อนที่จะนำว่านหางจระเข้มาใช้พอกหน้าทุกครั้ง ควรล้างทำความสะอาดว่านหางจระเข้ โดยนำต้นว่านหางจระเข้ที่ตัดมาไปแช่น้ำสะอาดแล้วทิ้งไว้ 10-15 นาที เพื่อให้ยางสีเหลืองออกให้หมดจนเหลือแต่วุ้น นำมาหั่นหรือปั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นจึงนำไปทาลงบนหัวสิว หรือทาบาง ๆ ให้ทั่วหน้าแบบไม่ต้องล้างออก ตื่นเช้ามาจะสังเกตได้ว่าสิวจะค่อย ๆ ทุเลาลง และเมื่อสิวหายจะไม่ทิ้งร่องรอยไว้บนผิวอีกด้วยจ้า

เยอะแยะเลยใช่มั้ยคะสำหรับวิธีการรักษารอยสิวที่ DooDiDo นำมาฝากในวันนี้ แถมยังเป็นวิธีการรักษาแบบธรรมชาติสุดๆ ซึ่งแน่นอนว่าจะปลอดภัยต่อใบหน้าของสาวๆ ค่ะ เท่านี้สาวๆก็จะไม่ต้องไปหาซื้อครีมราคาแพงๆ ที่ไหนมาทดลองใช้ให้เสี่ยงต่อใบหน้าเลย หากชอบวิธีไหน สะดวกแบบไหนแล้วก็ลองนำไปปรับใช้ได้เลย

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.larocheposay-th.com, https://today.line.me