อาการ”ตกขาว” สามารถบ่งบอกถึงสิ่งที่ผิดปกติในร่างกายของผู้หญิงได้

ข้อควรระวัง!! อาการตกขาวแบบไหนที่สาวๆ ไม่ควรมองข้าม

ขึ้นชื่อว่าผู้หญิงแล้วนอกจาก “ประจำเดือน” ที่เราจะต้องเจอกันทุกๆ เดือนแล้วก็ยังมีในเรื่องของ ตกขาว ที่สาวๆก็ต้องเจอด้วยอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะคะ หรือก็คือการมี ตกขาว เนี่ยเป็นเรื่องปกติเลยก็ไม่ผิด เพราะในช่วงที่ใกล้กับการตกไข่นั้น จะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายมีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง ทำให้ช่วงนี้จะมีตกขาวเกิดขึ้น ซึ่งตกขาวในช่วงเวลานี้โดยปกติแล้วจะมีลักษณะเป็นของเหลว ใสๆ ในลักษณะที่ตกขาวในช่วงอื่นๆ ก็จะมีลักษณะขาวๆ ขุ่นๆ คล้ายกับแป้งเปียกค่ะ และถ้าหากว่าตกขาวของเรานั้นไม่มีกลิ่นและไม่มีอาการคันแล้วล่ะก็ สาวๆ สบายใจได้เลยค่ะว่าร่างกายของสาวๆ ไม่ต้องมีอะไรที่น่าเป็นห่วง

อย่างไรก็ตามสำหรับการ ตกขาว มีอีกหลากหลายลักษณะที่สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน แล้วลักษณะต่างๆ ของ ตกขาว ของเรานั้นก็สามารถบ่งบอกถึงสิ่งที่ผิดปกติในร่างกายของสาวๆได้ เช่นการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราในช่องคลอดและอีกมากมาย ดังนั้นแล้ววันนี้เราจึงมาบอกถึง “ลักษณะของตกขาวที่ผิดปกติ” ให้ทุกคนได้ทราบกันค่ะ

ตกขาวแบบไหน ไม่ธรรมดา

ตกขาวหรือระดูขาว เป็น ของเหลวที่ถูกขับออกจากช่องคลอดของผู้หญิงทุกคน ซึ่งปกติจะไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย แต่ ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่ต้องเจอกับตกขาวผิดปกติและปล่อยไว้ไม่ไปหาหมอเพราะความอาย

ตกขาวแบบไหนต้องไปหาหมอ

1. ปริมาณ

ตกขาวของแต่ละคนไม่เท่ากัน ดังนั้นต้องเปรียบเทียบกับตัวเอง ว่าแต่เดิมเคยมีปริมาณตกขาวช่วงก่อนมีรอบเดือน กลางรอบเดือน และหลังรอบเดือนเป็นอย่างไร หากมีการเปลี่ยนแปลงปริมาณมากขึ้นจนผิดสังเกต ให้สงสัยไว้ก่อนว่าเป็นการตกขาวผิดปกติ

2. ลักษณะเปลี่ยนไป

ปกติตกขาวจะเป็นน้ำขุ่นๆ แปรตามช่วงรอบเดือน โดยช่วงก่อนและหลังประจำเดือนจะขุ่นมากกว่าช่วงกลางรอบเดือน แต่ถ้าตกขาวมีลักษณะขุ่นมากขึ้น จนบางครั้งอาจข้นเหมือนแป้งเปียกหรือคราบนม ตกขาวเป็นก้อนแป้ง ตกขาวแบบนี้อาจเกิดจากเชื้อรา

3. สีของตกขาว

โดยทั่วไปควรเป็นสีขาวขุ่น อาจมีเหลืองนวลๆ หรือขาวเหลืองนิดๆ แต่ถ้าเริ่มเหลืองเขียว ออกเป็นหนอง ถือว่าไม่ปกติ

4. ตกขาวสีเหลือง

เกิดจากติดเชื้อพยาธิในช่องคลอด มักมีสีเหลืองแต่ไม่ข้นมาก บางครั้งมีฟอง มีอาการคัน และมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ส่วนใหญ่เกิดจากโรคติดต่อจากเพศสัมพันธ์หรือจากสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในช่องคลอด เช่น ผ้าอนามัยแบบสอด หรืออุปกรณ์ทางเพศ เป็นต้น

5. ตกขาวสีเหลืองหรือสีขาวขุ่น

มีสาเหตุมาจากเชื้อรา ลักษณะตกขาวมีความข้น กลิ่นคล้ายนมบูดเมื่อปัสสาวะจะมีอาการแสบคัน เพราะช่องคลอดเกิดการระคายเคือง อาจลุกลามจนเกิดอาการแสบแดงบริเวณขาหนีบ ตกขาวลักษณะนี้มักเกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะหรือในผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้ป่วยใช้ยาที่มีฤทธิ์กดภูมิต้านทาน ผู้ป่วยโรคเบาหวาน เป็นต้น

6. ตกขาวสีเขียว

เกิดจากเชื้อแบคทีเรียบางชนิด จากการมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในช่องคลอด หรือแม้แต่การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อโรค เช่น โรคหนองใน เป็นต้น ตกขาวมีสีเขียวหรือสีเหลืองปนเขียว  มีกลิ่นเหม็นคาวปลา บางรายมีอาการคันและปวดแสบขณะปัสสาวะ

7. ตกขาวสีน้ำตาล

ส่วนใหญ่เกิดจากผนังมดลูกลอกตัวช้า มักพบหลังจากมีประจำเดือน ซึ่งในช่วงที่มีประจำเดือนผนังมดลูกยังไม่ทันลอกตัวหมด  หรือบางทีไม่ลอกตัวออกมาเป็นประจำเดือน ทำให้ตกขาวกลายเป็นสีน้ำตาล ปัญหานี้อาจเป็นเพียงมดลูกเริ่มหย่อนคล้อย  แต่หากตกขาวสีน้ำตาล มีฟอง มีกลิ่นเหม็นอับ ปัสสาวะมีอาการแสบคัน ถือว่าเป็นการตกขาวผิดปกติ เนื่องจากช่องคลอดเกิดการระคายเคือง  บางครั้งอาจรุนแรงจนมีอาการแสบแดงบริเวณขาหนีบ ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน

8. กลิ่น

ผู้หญิงแต่ละคนมีกลิ่นเฉพาะของตัวเอง จึงเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าเป็นตกขาวผิดปกติหรือไม่ แต่หากมีกลิ่นเหม็นขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือหลังมีเพศสัมพันธ์ใหม่ๆ อาจเกิดจากการตกขาวที่ติดเชื้อจากแบคทีเรียกลุ่มหนึ่งหรือพยาธิในช่องคลอด ซึ่งในน้ำอสุจิของผู้ชายมีความเป็นด่างไปทำปฏิกิริยากัน จะทำให้เกิดกลิ่นเหมือนปลาเน่า ดังนั้นคุณผู้หญิงต้องไม่อายที่จะเล่าความจริงให้แพทย์ เพื่อทำการวินิจฉัยได้ถูกต้อง

9. ตกขาวไร้กลิ่น

ตกขาวที่ผิดปกติไม่จำเป็นต้องติดกลิ่นเสมอไป โดยเฉพาะ ตกขาวจากเชื้อรา จะไม่มีกลิ่น แต่มีปริมาณมาก มีลักษณะเป็นคราบนม ติดกับชุดชั้นใน และมีอาการคัน ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากความอับชื้น ของชุดชั้นใน ซึ่งต้องตากโดนแดดให้แห้ง ไม่ใช่ตากในร่ม แม้ชุดชั้นในจะแห้งแต่สามารถเกิดเชื้อราได้ นอกจากนี้การปล่อยให้อับชื้นระหว่างวันก็เป็นอีกสาเหตุเชื้อราในช่องคลอด ส่งผลให้มีการตกขาวผิดปกติเช่นกัน

10. ตกขาวจากเชื้อรายังอาจเกิดการรับประทานอาหารและยา

ผู้หญิงบางคนรับประทานของหมักดอง ก็เป็นตกขาวเชื้อรา ในขณะที่บางคนเกิดขากการรับประทานอาหารทะเล รวมถึงการได้รับยาปฏิชีวนะบางชนิด ก็อาจเกิดเชื้อราได้ ทั้งนี้แผลจากการติดเชื้อในช่องคลอด ก็ทำให้เกิดการตกขาวได้ โดยไม่ปรากฏกลิ่นชัดเจน อีกสาเหตุของการตกขาวไร้กลิ่น คือการตั้งครรภ์ ซึ่งเกิดจากฮอร์โมนการตั้งครรภ์ โดยจะมีปริมาณตกขาวมากขึ้น อาจมีลักษณะใส และไม่มีกลิ่น ทั้งนี้ในหญิงตั้งครรภ์มักพบการตกขาวจากเชื้อราได้บ่อยขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเบาหวาน

สำหรับการตกขาวจากเพศสัมพันธ์กับผู้มีเชื้อหนองใน อาการส่วนใหญ่จะเป็นตกขาวเหมือนหนองตามชื่อ ไม่จำเป็นต้องมีปริมาณมาก และอาจมีกลิ่นเพียงเล็กน้อย หากมาพบแพทย์ อาจต้องทำการเพาะเชื้อ

ถ้าหากว่าตกขาวของสาวๆ มีลักษณะแบบที่กล่าวมาข้างต้นนั้น DooDiDo แนะนำว่าควรหาเวลาไปปรึกษาแพทย์กันด้วยนะคะ ส่วนสำหรับสาวๆ ที่ไม่ได้มีอาการตกขาวผิดปกติแล้วก็คงจะสบายใจได้ไปเปราะนึงว่า ร่างกายเรายังคงปกติดีอยู่ อย่างไรก็ตามถ้าหากสาวๆ กำลังคิดจะหาตัวช่วยมาดูแลน้องสาวแล้วล่ะก็ขอให้คิดใหม่เลยค่ะเพราะวิธีการดูแลน้องสาวเราที่ดีที่สุดนั่นก็คือน้ำเปล่า และถ้าหากว่ามีประจำเดือนก็ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ อย่าให้น้องสาวเราอับชื้น เพียงเท่านี้เอง ส่วนสำหรับสาวๆที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไปหรือเริ่มมีเพศสัมพันธ์แล้วควรจะตรวจภายในเป็นประจำเป็นทุกๆ ปี เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายเราปกติมากยิ่งขึ้นค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.samitivejhospitals.com , www.rama.mahidol.ac.th