ออมเงิน เสริมความมั่งคั่งกันดีกว่า

ออมเงิน 2

การ”ออมเงิน”ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความมั่งคั่ง ใครๆ ก็ทำได้ แต่ละคนมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน บางคนเก็บเงินไว้ใช้ยามเกษียณหรือเก็บเงินไว้ลงทุน แต่สำหรับบางคนที่จัดอยู่ในประเภทเดือนต่อเดือนไม่มีเงินเหลือเก็บ แต่ก็ต้องการตั้งเป้าหมายใหม่ เงินเดือนที่ได้รับจะต้องเก็บไว้ใช้ในอนาคต หรือเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน แล้วเราจะประหยัดเงินได้อย่างไร วันนี้เราจะมาแนะนำโมเดลการออมเงิน 5 รูปแบบ ที่จะสร้างความมั่งคั่งในแบบของคุณเอง

1.บริหารจัดการค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน

แน่นอนว่าหลังจากที่เราได้รับรายได้ที่หมายถึงเงินเดือนหรือรายได้อื่นแล้วก็จะมาจาก Passive Income หรือการรับงานต่างๆ การตั้งงบประมาณ เพื่อจัดสรรเพื่อจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าผ่อนชำระ ค่าใช้จ่ายต่างๆในการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน บางคนอาจมีงบประมาณไว้ใช้จ่ายเพื่อความสุขส่วนตัว ซื้อเสื้อผ้า ชอปปิ้ง นี่คือวิธีการจัดการค่าใช้จ่าย ซึ่งจะทำให้เราสามารถประมาณได้ว่าเราจะต้องจ่ายเท่าไรในแต่ละเดือน และจะจัดสรรเงินไว้ใช้ออมเงิน เท่าไร? อีกวิธีในการจัดการค่าใช้จ่ายคือการตั้งค่าการหักบัญชีอัตโนมัติ สิ่งนี้จะทำให้เราสามารถชำระเงินได้อย่างถูกต้องและทันเวลา และจะไม่ถูกปรับค่าธรรมเนียมการชำระล่าช้า

2.ออมเงิน ก่อนใช้จ่าย 10% ของรายได้

เป็นอีกหนึ่งเทคนิคการออมเงินที่เหมาะกับคนเงินเดือนมาก เพราะหลังจากเงินเดือนเข้าแล้ว เราควรหักเงินไว้ออมเงิน 10% หรือลดหรือเพิ่มตามความสามารถทางการเงินของแต่ละคน เช่นถ้าเราหักเงินออมเงินเท่ากันทุกเดือน 3,000 บาท ในหนึ่งปีเราจะได้ 36,000 บาท เป็นต้น แต่อย่างที่บอกครับ คุณสามารถปรับมันลงได้ คุณอาจเปิดบัญชีแยกต่างหากเพื่อการประหยัดเงินโดยเฉพาะ

ออมเงิน 1

3.เปิดบัญชีเงินฝากประจำ

ใครที่มีรายได้ประจำ แต่ปัญหาคือ ไม่ค่อยเก็บเงิน การเปิดก็เป็นอีกหนึ่งวิธีประหยัดเงินที่ดี เงินฝากประจำหมายถึงการฝากเงินจำนวนเท่ากันทุกเดือน เงินฝากขั้นต่ำสำหรับเงินประเภทนี้คือ 1,000 บาท คุณสามารถเลือกระยะเวลาฝากได้ตามความยืดหยุ่นในการใช้เงิน เริ่มตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 36 เดือน รวมเงินก้อน แถมยังมีของแถมดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ปกติอีกด้วย คุณสามารถรับและรับเท่านั้น ยังช่วยสร้างวินัยในการออมเงินอีกด้วย

4.ตั้งกฎเกณฑ์การออมเงิน ในรูปแบบความสนุกที่หลากหลาย

มาท้าทายกันหน่อยกับกฎเกณฑ์ต่างๆ ในการออมเงิน ในรูปแบบต่างๆ เริ่มจากนำเหรียญที่อยู่ในกระเป๋ามาหยอดลงกระปุกออมสิน วิธีคลาสสิกที่ยังคงนิยมใช้กัน ปัจจุบันมีขวดโหลหลายประเภท ทั้งเปิดยากเพียงใช้ค้อนทุบเท่านั้น หนึ่งปีคุณจะได้รับเงินมากมายจากมัน หรืออาจจะเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงอีกเล็กน้อย นั่นคือการใส่เหรียญลงในโถอัจฉริยะ ที่จะแสดงจำนวนเงินที่ใส่ลงไป เป็นที่นิยมมากในโลกออนไลน์ ถือเป็นแรงบันดาลใจในการออมเงิน บางคนอาจไม่ชอบสะสมเหรียญ ทำไมไม่ลองประหยัดเงินด้วยธนบัตร 20 หรือธนบัตร 50 ดูล่ะ บางคนเก็บธนบัตร 100 บาทไว้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคน สะสมทุกวันไม่นับถึงปีแล้วเปิดดูสะสมเล่นเพลินๆก็ได้เงินหมื่นบาท แต่หากวิธีนี้ยังไม่น่าตื่นเต้น ลองออมเงินโดยมีเป้าหมายในใจ เช่น ถ้าเราต้องการออมเงิน 3,000 บาท ใน 60 วัน เราอาจกำหนดตารางเวลาไว้ว่า เราจะเก็บเงินยังไงใน 60 วัน ? อาจจะกำหนดจำนวนเงินเท่ากันทุกวัน หรือเริ่มจากน้อยไปมาก มากไปน้อย ตามความต้องการของคุณ แต่ด้วยวิธีนี้ขอเตือนหน่อย ถ้าคุณขี้เกียจ แผนของคุณก็จะพัง ดังนั้นเมื่อตั้งเป้าหมายแล้วก็ต้องทำให้สำเร็จ

5. ออมเงิน ด้วยการซื้อกองทุน

ฝากเงินได้ดอกเบี้ย แต่ถ้าอยากได้ผลตอบแทนที่มากขึ้น แนะนำให้ซื้อ ไม่ว่าจะเป็น  หุ้น สินทรัพย์ทางเลือก หรือจะเป็นกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมเงินระยะยาว (SSF) ฯลฯ ซึ่งเราสามารถกระจายความเสี่ยงได้จากการเลือกกองทุนจากผลประกอบการ หรือลักษณะของกองทุนนั้น ๆ โดยผลตอบแทนก็จะมากน้อย แล้วแต่จำนวนเงินที่เราทำการลงทุน

บทสรุป

สรุปได้ว่า วิธีออมเงินที่เราแนะนำมาทั้งหมดนี้ จะไม่ได้ผลเลยหากไม่ได้ลงมือทำ และถ้าจะให้การออมเงินของคุณมีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ก็คือการออมเงินที่เหมาะสมกับตัวเอง ไม่หักโหมเกินไป และอันนี้สำคัญมากคือการมีวินัยต่อตนเอง แล้วเราควรออมเงินแบบไหนดี ? จริง ๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นการนำเงินไปฝากในบัญชีออมทรัพย์ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูง นำเงินไปลงทุน หรือเก็บเงินง่าย ๆ จากแบงก์ ได้หมด เนื่องจากการออมเงินคือหนึ่งในวิธีการจัดการเงินที่สำคัญที่จะสร้างความมั่นคง และมั่งคั่งของเราในอนาคต นั่นเอง


ขอบคุณบทความอ้างอิงจาก

5 เทคนิคการออมเงิน สร้างความมั่งคั่งในแบบคุณ – https://www.cimbthai.com/

ขอขอบคุณรูปภาพจาก

https://www.freepik.com/author/freepik

https://www.freepik.com/author/lifestylememory

ติดตามบทความอื่นๆได้ที่ https://doodido.com/