ห้ามพลาด!! วิธีบำรุงผิวลดริ้วรอยสำหรับสาวๆ ด้วยคอลลาเจน

คอลลาเจนสรรพคุณมีอะไรบ้างที่ผู้หญิงควรต้องรู้ 

ผู้หญิงเรากับปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าคงหนีกันไม่พบ ทั้งริ้วรอย รอบดวงตา ริ้วรอยรองแก้ม ริ้วรอบบนหน้าผาก ผิวเริ่มเหี่ยวย่นไม่กระชับ รวมทั้งเส้นผมหรือขนตามร่างกายเริ่มร่วงจำนวนเยอะมากขึ้น เนื่องจากร่างกายของเราเริ่มมีการผลิตคอลลาเจนน้อยลงทุกปีตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผิวเริ่มเกิดเป็นเส้นริ้วรอย ที่ปรากฏบนหน้าจะเห็นได้ชัดขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกที่ส่งผลให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ไม่ส่าจะเป็นรังสียูวีจากแสงแดดที่ทำลายทะลุชั้นผิวลึก ในแสงแดดมียู่วีเอ รังสียูวีบีรังสียูวีซี ทำลายอีลาสตีนและคอลลาเจนในผิวหนัง ทำให้ผิวเหี่ยวย่น และจุดด่างดำ ฝ้าแดด ที่เป็นปัญหาสำคัญของผู้หญิง  วันนี้เรามีทำความรู้จักกับคอลลาเจนและวิธีการบำรุงผิว ลดริ้วรอย ของคุณสาวๆพร้อมการเสริมสร้างคอลลาเจนให้ผิวของเราแข็งแรง กระชับ ดูอ่อนเยาว์กันดีกว่าคะ

ปัจจุบัน สาวๆ คงจะเห็นว่าผลิตภัณฑ์บำรุงและสูตรวิธีดูแลผิวหน้านั้นมักจะมีคอลลาเจนเป็นส่วนผสมเสียเป็นส่วนใหญ่ แล้วเคยสงสัยกันหรือไม่คะว่าเจ้าคอลลาเจนจริงๆ แล้วคืออะไร คอลลาเจนสรรพคุณมีอะไรบ้าง และเราจำเป็นที่จะต้องกินคอลลาเจนเพิ่มหรือเปล่า แบบที่เขาฮิตกัน และเคลมกันว่า กินแล้วเห็นผล  วันนี้เรามีคำตอบมาบอกกันค่ะ

คอลลาเจน  คืออะไร?

คอลลาเจน คือ โปรตีนเมตริกซ์นอกเซลล์ที่ไม่สามารถละลายน้ำได้ ทำหน้าที่คล้ายกับกาวที่คอยยึดเกาะเซลล์ผิวหนัง เอ็น ข้อต่อ พังผืด ผนังหลอดเลือดและกล้ามเนื้อให้แน่นสนิทเต่งตึง ทำให้บางคนเรียกคอลลาเจนว่าเป็น “กาวแห่งชีวิต”  เพราะคอลลาเจนจะทำหน้าที่เชื่อมเซลล์ในร่างกายรวมถึงช่วยป้องกันอวัยวะภายในร่างกายและเชื่อมอวัยวะต่างๆ ให้อยู่ด้วยกัน ที่สำคัญ เซลล์ผิวหนังในร่างกายของเรานั้นมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบถึง 75% ดังนั้น หากร่างกายเราขาดคอลลาเจนไปจะส่งผลให้ผิวพรรณหย่อนยาน เหี่ยวย่นและไม่มีน้ำมีนวลนั่นเองค่ะ

ประโยชน์ของคอลลาเจน

คอลลาเจนสรรพคุณนั้นมีมากมาย ประโยชน์เด่นๆ นั้นก็ได้แก่ ช่วยบำรุงสุขภาพของผิวหนังและเส้นผม เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ความชุ่มชื้น การสูญเสียน้ำทางผิวหนัง ทำให้ผิวหนังกระชับ เรียบเนียน เป็นวิธีดูแลผิวหน้าเป็นอย่างดี และช่วยให้เซลล์ผิวหนังผลัดเซลล์และซ่อมแซมเซลล์ได้ตามปกติ  ช่วยเสริมความแข็งแรงของเล็บ เส้นผม และฟัน เนื่องจากคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบสำคัญของเล็บ เส้นผม และฟันนั่นเอง อีกทั้งยังช่วยลดอาการบาดเจ็บข้อต่อและการเสื่อมสภาพได้อีกด้วย ดังนั้นประโยชน์คอลลาเจนนอกจากสำหรับสาวๆ แล้วยังมีความจำเป็นต่อผู้สูงอายุหรือผู้ที่อยู่ในภาวะเสี่ยง เช่น นักกีฬาที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายหนักๆ อีกด้วยล่ะค่ะ

สรุปแล้วเราต้องกินคอลลาเจนเพิ่มหรือไม่

ถ้าจะพูดกันตามตรงแล้วอาจไม่มีความจำเป็นนักสำหรับคนทั่วไป เพราะอาหารที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้ มีคอลลาเจนทั้งนั้นเลยค่ะ สาวๆ ที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์คอลลาเจนดูแลผิวหน้า ครีมทาหน้าครีมคอลลาเจน ทราบหรือไม่คะว่าในอาหารที่เรากินก็มีคอลลาเจนบำรุงผิวอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ถั่ว ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองทุกชนิด

ผักใบเขียวทุกชนิด จำพวกคะน้า ผักกาดหอม ผักสลัด ผักโขม กะหล่ำปลี ผักเคล และหน่อไม้ฝรั่ง ผัก–ผลไม้สีแดง เช่น มะเขือเทศ พริกหยวกแดง บีท แครอท สวีทโปเตโต้ หรือจะเป็นแตงกวา มะกอกเขียว และมะกอกดำก็เป็นผักที่มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างคอลลาเจนเช่นกันค่ะ

คอลลาเจนมีกี่แบบ?

ทุกวันนี้มีคอลลาเจนสารพัดรูปแบบที่นำมาขายในท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบครีมทาหน้า แบบทานหรือแบบฉีด เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าคอลลาเจนแต่ละแบบนั้นมีประโยชน์ต่อผิวเรา เป็นวิธีดูแลผิวหน้าเราได้อย่างไรบ้าง

1. คอลลาเจนแบบฉีด

วิธีนี้สามารถดำเนินการได้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่จะใช้เครื่องมือพิเศษนำคอลลาเจนเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังลึก หรืออาจจะเป็นการร้อยไหม ยิงเลเซอร์ ที่เป็นการช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังขึ้นมาใหม่ มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และผลลัพธ์อยู่ไม่ถาวร จึงต้องไปฉีดซ้ำอยู่เรื่อยๆค่ะ

2. คอลลาเจนชนิดผงหรือชนิดเม็ด

เป็นคอลลาเจนชนิดผงที่บรรจุในกล่อง ในซองแล้วนำมาผสมกับน้ำดื่ม หรือคอลลาเจนอัดเม็ดที่ทานเหมือนอาหารเสริม สำหรับสาวๆ ที่กำลังมองหาคอลลาเจนสำหรับทาน ยี่ห้อคอลลาเจนยอดนิยม ที่คนนิยมกินมากที่สุด อาทิเช่น

• Morinaga Collagen เครื่องดื่มคอลลาเจน10,000 มิลลิกรัม ผสมวิตามินซีและน้ำผลไม้ มีส่วนผสมวิตามินซี ที่เมื่อทานควบคู่กับวิตามินซี แล้วคอลลาเจนจะสามารถดูดซึมได้ดี และทำให้ร่างการสามารถเสริมสร้างคอลลาเจนได้ดีขึ้น ที่สำคัญคือมีค่าไขมันเป็น 0 เหมาะสำหรับคนที่กำลังไดเอท สามารถดื่มได้ทุกวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักค่ะ
• Meiji Amino Collagen 5000mg คอลลาเจนชนิดผงที่วิธีการทานง่ายมากเพียงแค่นำมาชงกับน้ำดื่มค่ะ ความดีงามของคอลลาเจนตัวนี้คือ ช่วยปรับโครงสร้างของผิวให้แข็งแรงและเรียบตึง เพิ่มความชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น คอลลาเจนสรรพคุณทำให้ผิวคงความอ่อนเยาว์อยู่เสมอ มีวิตามิน C ช่วยเสริมสร้างโปรตีนคอลลาเจน และมีแคลอรี่ต่ำเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลเรื่องสัดส่วนค่ะ

3. ครีมคอลลาเจน

คอลลาเจนในรูปแบบของครีมทาหน้า โลชั่น หรือเซรั่ม วิธีใช้คือการทาลงไปบนผิว ซึ่งสามารถทำให้ผิวหนังดูชุ่มชื้นขึ้น แต่วิธีดูแลผิวหน้าลักษณะนี้ ทำได้เพียงแค่ผิวหนังชั้นกำพร้าเท่านั้น แต่ก็ยังสำคัญ ShopBack มีครีมคอลลาเจนสำหรับดูแลผิวหน้ามาแนะนำ รับรองว่าราคาดีงาม ไม่แพงอย่างที่คิด แถมยังตอบโจทย์เรื่องการดูแลผิวหน้าของสาวๆ ได้จริง

• Etude Moistfull Collagen Cream

ครีมบำรุงผิวเพิ่มคอลลาเจนสรรพคุณช่วยบำรุงผิวให้ผิวมีความยืดหยุ่น กระชับ ผิวแข็งแรง ช่วยให้ผิวพรรณเกิดความชุ่มชื้นเสริมความเรียบตึงให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวดูเรียบเนียน กระชับ ริ้วรอยต่างๆ ดูตื้นจริงๆ

• Skinfood Gold Caviar Collagen Cream

ครีมบำรุงผิวที่ช่วยให้ผิวหน้าดูเปล่งปลั่ง ริ้วรอยลดลงจนเห็นได้ชัด มีส่วนผสมของทองคำบริสุทธิ์และคอลลาเจนสรรพคุณที่ช่วยในเรื่องของการกระตุ้นการสังเคราะห์เนื้อเยื่ออีลาสติน ลองใช้ดูแล้วจะรู้ว่าผิวใสจริง

กินหรือใช้คอลลาเจนมากๆ อันตรายไหม?

ยังไม่มีงานวิจัยหรือผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่ชี้ว่า กินคอลลาเจนมากๆ แล้วมีโทษกับร่างกาย แต่สำหรับการฉีดอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายของเราได้จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ แม้คอลลาเจนสรรพคุณมีมากมาย แต่เพราะคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่อยู่ในรูปของไฟเบอร์ หากฉีดเข้าสู่เส้นเลือดหรือเส้นประสาท เสี่ยงที่จะทำให้เกิดการอุดตัน เลือดไม่สามารถส่งผ่านไปเลี้ยงสมองได้

นอกจากนี้ยาฉีดคอลลาเจน ไม่เคยได้รับการอนุญาติให้ขึ้นทะเบียนตำรับยาแต่อย่างใด และไม่ได้รับรองความปลอดภัยในการนำไปใช้ การใช้วิธีดูแลผิวหน้าด้วยวิธีนี้ก็อาจจะต้องคิดเยอะเป็นพิเศษ โดยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดคอลลาเจนได้ มีดังนี้

1. เกิดความเสี่ยงต่อการแพ้สารคอลลาเจนซึ่งอาจจะประกอบไปด้วยสารชนิดอื่นร่วมด้วย ร่างกายจะเข้าใจว่า คอลลาเจนเป็นสารแปลกปลอม แม้จะผ่านการสังเคราะห์จนใกล้เคียงกับคอลลาเจนใต้ชั้นผิวแล้วก็ตาม ระดับความรุนแรงของอาการแพ้ก็ขึ้นอยู่กับบุคคล ซึ่งผลของอาการแพ้อาจเกิดขึ้นในทันทีหลังฉีด หรือภายหลังจากนั้นเป็นสัปดาห์ไปแล้วก็ได้
2. เกิดการช้ำหรือ “Trauma” เป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการฉีด ปลายเข็มที่ดันเอาสารคอลลาเจนเข้าไป ในบริเวณดังกล่าวจะเกิดเป็นรอยแดง หรือรอยเขียวช้ำ เกิดอาการเจ็บ แสบ และบวมตามมาได้ แต่โดยทั่วไปจะสามารถหายไปได้เองภายใน 3-7 วัน
3. เกิดตุ่มนูนบริเวณผิวผิวดูไม่เรียบเนียนเกิดขึ้นได้จากการที่ผู้ฉีดไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ อาจจะฉีดในตำแหน่งที่ตื้นมากเกินไป หรือใช้ความเข้มข้นของคอลลาเจนมากเกินไป ผิวที่เป็นตุ่มนูนเสี่ยงต่อการติดเชื้อ อักเสบ และลุกลามเข้าสู่กระแสเลือดตามมาได้

ได้รู้จักคอลลาเจนสรรพคุณต่างๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์จากคอลลาเจน ที่มีประโยชน์ต่อผู้บริโภคในแง่เสริมสร้างร่างกาย และเป็นวิธีดูแลผิวหน้ากันไปแล้ว DooDiDo หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาคอลลาเจน หรืออาหารเสริมช่วยดูแลผิวพรรณกันนะคะ แต่ก่อนจะเสริมเพิ่ม มื้ออาหารปกติที่กินอยู่ทุกวัน ต้องเลือกกินให้ครบหมู่โภชนาการ รวมถึงรูปแบบการใช้ชีวิต ต้องดีสมบูรณ์ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ เช่นนี้ การกินอาหารเสริมถึงจะช่วยเข้ามาเสริมจนดีขึ้นเห็นผลลัพธ์จริงๆ ค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.shopback.co.th