ส่อง 8 ไลฟ์สไตล์แบบ New Normal กับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป

WM

“New Normal” พฤติกรรมอะไรบ้างที่เราต้องปรับตัว

ปัจจุบันเรามีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต เมื่อไหร่ก็ตามที่เราต้องออกจากบ้าน เราต้องใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรค ต้องเว้นระยะห่างสำหรับบุคคล ต้องล้างมือบ่อย ๆ เช็ดมือด้วยแอลกอฮอล์เสมอ เนื่องจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดครั้งใหญ่ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยของเจ้าไวรัสโคโรนา หรือที่เราคุ้นชื่อกันว่า COVID-19 ทำให้เกิดผลกระทบต่อชีวิตและพฤติกรรมของคนในสังคม รวมทั้งตัวของเราเองเป็นอย่างมาก พฤติกรรมที่พูดถึงกันมากคงหนีไม่พ้นคำว่า “New Normal” หรือ ความปกติแบบใหม่ เอ๊ะ มันยังไงกันเหรอ?

New Normal คือการดำเนินชีวิตประจำวันแบบปกติทั่วไปนี่แหละ แต่เป็นไปในรูปแบบใหม่ ที่เราทุกคนต้องปรับตัวเข้ากับมันให้ได้ เพื่อไม่ให้การแพร่ระบาดของ COVID-19 กลับมาอีกนั่นเอง หลัก ๆ จะมีอยู่ด้วยกัน 8 พฤติกรรม มีอะไรบ้าง แล้วเราต้องปรับตัวอย่างไร ไปดูกันเลย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@cardmapr

1. Digitized Chore โลกทั้งใบยกให้ดิจิทัลอย่างเดียว

ต้องบอกก่อนว่าเราหมกมุ่นกับโลกดิจิทัลมาพักใหญ่แล้ว ก่อนที่เจ้า COVID-19 จะบุกเสียอีก พอมีเหตุให้ต้องอยู่แต่บ้าน ต้อง Work from Home ต้องกักตัว ต้อง Social Distancing ยิ่งตอกย้ำพฤติกรรมเสพติดดิจิทัล ท่องโลกออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือมากเข้าไปอีก ทั้งการสั่งซื้อของใช้ อาหารที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน การบริโภคข่าวสาร รวมทั้งการใช้งาน Social Media ต่าง ๆ ธุรกิจที่จะส่งผลดีคงหนีไม่พ้นอีคอมเมิร์ซทั้งหลายที่ยอดขายจะพากันสูงเอา ๆ และแม้ COVID-19 จะหายไป แต่พฤติกรรมนี้ก็จะยังคงอยู่ 

2. In Home in Style อยู่บ้างยังไงให้เก๋

สืบเนื่องจากการที่เราต้องอยู่แต่ที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ ไลฟ์สไตล์จึงเปลี่ยนไป จากที่เดินห้าง ทานอาหารนอกบ้านเป็นประจำ กลับต้องหันมาใส่ใจและพิถีพิถันในการอยู่กับบ้านมากขึ้น ทั้งเรื่องอาหารการกิน การดูแลบ้าน หรือแม้แต่การสั่งซื้อของออนไลน์ให้มาส่งที่บ้าน ก็มีความใส่ใจมากขึ้น เช่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดโลกร้อนหรือไม่ บรรจุมาอย่างถูกสุขลักษณะไหม เป็นต้น รวมทั้งมีการโพสต์รูปลงใน Social Media มากขึ้น ไลฟ์สไตล์เก๋ ๆ เช่นการทำอาหาร การจัดห้อง หรือการปลูกต้นไม้ จะมีให้เห็นผ่านหน้า Instagram บ่อย ๆ

3. Sanitized of Five Senses 5 สัมผัสสะอาด

ความสะอาดต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง เราได้เรียนรู้มาแล้วว่า เชื้อโรคแพร่กระจายได้ดีแค่ไหน ผ่านการสัมผัส ดังนั้นจากนี้ทุกคนจะยิ่งให้ความสำคัญกับเรื่องความสะอาด การเว้นระยะห่าง มีการชำระเงินรูปแบบใหม่ผ่านระบบออนไลน์มากกว่าการใช้เงินสด ร้านค้า ร้านอาหาร จะมีการระวังรักษาความสะอาดเพิ่มมากขึ้น และดูแลทำความสะอาดร้านเป็นอย่างดี

4.Tech-finance Literacy กูรูการเงินออนไลน์

แน่นอนว่าจากนี้เราจะหลีกเลี่ยงการสัมผัสในทุกรูปแบบ ไม่เว้นแม้แต่การชำระเงิน สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ การชำระเงินผ่านทางออนไลน์ Cashless Society จะบูม ไม่เว้นแม้แต่ร้านค้าในตลาดสดก็ต้องปรับตัวเพื่อรับกับความปกติรูปแบบใหม่นี้ Digital Banking จะเป็นเรื่องปกติของคนในสังคม การทำธุรกรรมทางดิจิทัลจะกลายเป็นเรื่องธรรมดา รวมไปถึงการชำระเงินค่าสินค้าด้วยบัตรเครดิต ก็จะมีโปรโมชั่นออกมา เพื่อรองรับการช้อปปิ้งออนไลน์มากยิ่งขึ้น แถมยังสะดวกยิ่งกว่า 

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@igormiske

5. Anxious about Health บำรุงปรุงแต่งให้สุขภาพดี

ความวิตกกังวลเรื่องสุขภาพจะเป็นหัวข้อหลักของสังคมปกติรูปแบบใหม่ ซึ่งจะนำไปสู่ความใส่ใจสุขภาพเพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง คนในสังคมจะเสาะแสวงหาความเป็นอยู่ รวมทั้งรูปแบบของการดำเนินชีวิตที่ช่วยให้สุขภาพปลอดจากโรคมากที่สุด ผ่านการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสามารถต้านโรคได้ โดยเฉพาะคน Gen Y ที่มีความวิตกกังวลกับโรคต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น และเสาะแสวงหาข้อมูลทางการแพทย์ผ่านโลกดิจิทัล

6. Nouveau Trust ความเชื่อมั่นรูปแบบใหม่

คนทั่วไปจะเริ่มให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้น ว่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตความเป็นอยู่หรือไม่ จึงมีการเลือกสรรในการใช้ ผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้น ผู้บริโภคจะต้องมีความเชื่อมั่นในแบรนด์ก่อน ถึงจะทำการสั่งซื้อ รวมทั้งสามารถตรวจสอบความเป็นมาย้อนหลังได้ด้วย 

7. Conversion of Media Appreciation เสพสื่ออย่างมีสติ

เราจะเห็นว่า คนไทยเริ่มเสพสื่ออย่างมีสติมากขึ้น ก่อนจะแสดงความคิดเห็นเรื่องใด ๆ ก็ตาม จะมีการตรวจสอบแหล่งที่มาของข่าวว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน ข่าวปลอมจะลดน้อยลง ข้อมูลข่าวสารจะมีความละเอียดมากขึ้น และมีการระบุแหล่งที่มาจาก Geolocation ของผู้ใช้งานที่ยินยอมให้ปักหมุดได้ และแน่นอนที่ว่าจากนี้โฉมหน้าของการเสพสื่อ จะเน้นไปที่เรื่องเกี่ยวกับสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นอาหารต้านโรค ผัก ผลไม้ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย วิธีการดูแลสุขภาพรูปแบบต่าง ๆ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@tranmautritam

8. Evolving of Home and Duty ผสานงานบ้านกับงานที่ทำงานเข้าด้วยกัน

หลังจากที่หลายคนต้องปรับตัวเพื่อทำงานที่บ้านมาเดือนกว่า หรือบางคนอาจจะมากกว่านั้น หลายคนจึงเริ่มพบกับชีวิตรูปแบบใหม่เพื่อสร้างสมดุลให้กับชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงาน รวมไปถึงการเรียนออนไลน์ที่โรงเรียนและมหาวิทยาลัยต้องมีการวางแผนปรับเปลี่ยนในระยะยาวอีกด้วย ถือเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่สำหรับใครหลาย ๆ คน แต่ไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าจะทำได้ เราเพียงแค่ค่อย ๆ ปรับและเรียนรู้ก็จะสามารถสร้างสมดุลให้ชีวิตครอบครัว ชีวิตการทำงาน และชีวิตส่วนตัวได้

การปรับหาวิถีการดำรงชีวิตแบบใหม่เพื่อให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อควบคู่ไปกับความพยายามรักษาสิ่งที่เคยทำมาเป็นกิจวัตร ทั้งในด้านอาหาร การแต่งกาย การรักษาสุขอนามัย การศึกษาเล่าเรียน การสื่อสาร การทำธุรกิจ ฯลฯ ซึ่งสิ่งใหม่เหล่านี้ได้กลายเป็นความปกติใหม่ ๆ จนในที่สุด เมื่อเวลาผ่านไปจนทำให้เกิดความคุ้นชินก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตปกติของผู้คนในสังคม ต่อจากนี้ไป DooDiDo บอกได้เลยว่าวิถีชีวิตใหม่ของท่านจะเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับการออกแบบ ทั้งส่วนตัว ครอบครัว การงาน และเราจะมีชีวิตอย่างมีความสุขไปด้วยกันค่ะ

ขอบคุณแหล่งข้อมูล : www.firstchoice.co.th