ล้างจมูก ช่วยบรรเทาอาการหวัด ทำให้ลูกน้อยหายใจโล่ง

ล้างจมูก

ล้างจมูก เป็นการล้างเพื่อลดปริมาณน้ำมูก ลดภูมิแพ้ และช่วยทำความสะอาดสารก่อภูมิแพ้ที่ตกค้างในโพรงจมูกออกได้ แต่พ่อแม่หลายคนประสบปัญหาลูกไม่ให้ความความมือเมื่อล้างจมูก หรือทำไม่ถูกวิธี ซึ่งสิ่งสำคัญในการจมูกเด็กต้องทำอย่างถูกต้องและใช้อุปกรณ์ที่เหมาะกับเด็กแต่ละช่วงวัยจะช่วยบรรเทาอาการหวัดหรือภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี แต่หากลูกอาการไม่ดีขึ้นหลังจากล้างจมูกแล้วควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง

ล้างจมูก

ล้างจมูก คืออะไร

การล้างจมูกให้เด็กหมายถึงกระบวนการที่ให้น้ำล้างไปในจมูกเพื่อทำความสะอาดหรือล้างเสมหะที่อาจสะสมอยู่ในท่อน้ำมูกของเด็ก การล้างจมูกเป็นวิธีที่มีประโยชน์ในการดูแลสุขภาพทางเดินหายใจของเด็ก โดยเฉพาะเมื่อเด็กมีน้ำมูกหรือเสมหะที่สะสม การล้างจมูกให้เด็กช่วยลดอาการคัดจมูก ช่วยระงับอาการภูมิแพ้ และช่วยในการทำความสะอาดทางเดินหายใจ อย่างไรก็ตามควรทำด้วยความอ่อนโยนและปรับตัวตามอารมณ์ของเด็ก เพราะบางเด็กอาจไม่ชอบการล้างจมูก หากมีข้อกังวลหรือปัญหาเกี่ยวกับการล้างจมูกควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลเด็ก

การล้างจมูกให้เด็ก ทำได้ตั้งแต่อายุเท่าไร

การล้างจมูกให้เด็กสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่ทารก แต่การล้างจมูกในวัยเด็กน้อยจะต้องทำด้วยความอ่อนโยนและระมัดระวัง นี่คือข้อแนะนำทั่วไป

  • ทารกถึงวัย 1 ปี: สามารถใช้เทคนิคการล้างจมูกที่อ่อนโยน เช่น ใช้สำลีหรือผ้าที่มีความนุ่มช่วยทำความสะอาดน้ำมูก
  • เด็กวัยต่างๆ: เด็กที่มีความเข้าใจและรับฟังคำสั่งได้ดีกว่า สามารถให้ล้างจมูกได้ตั้งแต่อายุ 1-2 ปี ให้ใช้วิธีการที่สะดวกและเหมาะสมกับลักษณะนิสัยของเด็ก เช่น การให้ล้างจมูกเป็นเกมส์ การใช้อุปกรณ์ล้างจมูกที่ออกแบบมาเพื่อเด็ก
  • การล้างจมูกเป็นประจำ: เมื่อเด็กมีความคุ้นเคยและรับมือกับกระบวนการล้างจมูก คุณสามารถทำให้เป็นกิจวัตรประจำที่ทำในช่วงเวลาที่เหมาะสม เช่น ก่อนนอนหรือหลังตื่น

ขั้นตอนการล้างจมูกให้เด็ก

การล้างจมูกเด็กมีขั้นตอนที่ต้องทำอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เด็กรู้สึกไม่สบายหรือตกใจ นี่คือวิธีล้างจมูกให้ลูกที่สามารถทำได้

  • เตรียมอุปกรณ์: เตรียมอุปกรณ์ล้างจมูกที่เหมาะสำหรับเด็ก มีขนาดที่เหมาะสมกับอายุของเด็ก
  • ล้างมือ:ล้างมือให้สะอาดก่อนที่จะทำการล้างจมูก เพื่อป้องกันการสะเก็ดน้ำหล่นลงไปในท่อจมูก
  • ทำให้เด็กสบาย: คำสั่งล้างจมูกควรทำให้เด็กรู้สึกสบายและปรับตัวตามอารมณ์ของเขา คุณสามารถปรับอารมณ์ด้วยการให้เล่นเกมส์หรือร้องเพลงเพื่อทำให้เด็กรับมือกับกระบวนการได้ง่ายขึ้น
  • นำอุปกรณ์ใกล้จมูก: นำอุปกรณ์ล้างจมูกใกล้จมูกของเด็กโดยอ่อนโยน
  • ให้น้ำไหลเข้าไป: ให้น้ำไหลเข้าไปโดยที่เด็กคงหลับตาเพื่อป้องกันการรู้สึกไม่สบาย
  • ระบายเสมหะ: เด็กควรระบายเสมหะไปที่หลอดระบายน้ำและไม่ให้ไหลลงมา
  • ล้างอุปกรณ์: หลังจากการล้างจมูกเสร็จสิ้น  ล้างอุปกรณ์ให้สะอาดโดยใช้น้ำสะอาด
  • ช่วยเด็กผ่อนคลาย: หลังจากทำการล้างจมูกเสร็จเพื่อให้เขารู้สึกสบายและไม่มีความตึงเครียด

ประโยชน์ของการล้างจมูกให้เด็ก

การล้างจมูกเด็กมีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพทางเดินหายใจและความเป็นอยู่ประจำวันของเด็ก การล้างจมูกเป็นส่วนสำคัญของการดูแลสุขภาพทางเดินหายใจของเด็ก และควรทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาสุขภาพที่ดีในระยะยาว ประโยชน์ของการล้างจมูกมีดังนี้

  • ลดอาการคัดจมูก: การล้างจมูกเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดอาการคัดจมูก และช่วยให้เด็กหายใจได้สะดวกขึ้น
  • ลดภูมิแพ้: การล้างจมูก ภูมิแพ้สามารถช่วยลดจำนวนภูมิแพ้และสารปนเปื้อนที่ติดอยู่ในท่อน้ำมูก ทำให้ลดความรุนแรงของอาการภูมิแพ้
  • ป้องกันการติดเชื้อ: การล้างจมูกช่วยล้างเสมหะและสารปนเปื้อนที่อาจเป็นที่อาศัยของเชื้อโรคทำให้เด็กมีโอกาสติดเชื้อลดลง
  • บรรเทาอาการน้ำมูกไหล: เด็กที่มีน้ำมูกไหลสามารถได้รับประโยชน์จากการล้างจมูก เนื่องจากน้ำล้างจมูกช่วยลดจำนวนเสมหะและสารปนเปื้อน
  • สะอาดทางเดินหายใจ: การล้างจมูกช่วยทำความสะอาดทางเดินหายใจ ทำให้เด็กหายใจได้สะดวกและลดความดันในท่อทางเดินหายใจ
  • ป้องกันการระคายเคือง: เด็กที่ล้างจมูกสม่ำเสมอมีโอกาสต่ำในการพบกับปัญหาที่เกี่ยวกับการระคายเคือง
  • ช่วยในการนอนหลับ: การล้างจมูกก่อนนอนช่วยลดอาการคัดจมูกหรือน้ำมูกไหลทำให้เด็กสามารถหายใจได้สะดวกและนอนหลับได้ดี
  • ป้องกันการสะสมเชื้อแบคทีเรีย: การล้างจมูกช่วยล้างออกเชื้อแบคทีเรียที่อาจสะสมอยู่ในท่อน้ำมูกทำให้ลดโอกาสติดเชื้อแบคทีเรีย

ควรล้างจมูกให้เด็กวันละกี่ครั้ง

การล้างจมูกเด็กควรทำอย่างสม่ำเสมอและเป็นประจำเพื่อรักษาสุขภาพทางเดินหายใจ แพทย์แนะนำในการล้างจมูกสำหรับเด็กคือประมาณ 1-2 ครั้งต่อวัน หรือตามความจำเป็นของแต่ละเด็กอาจทำได้ในตอนเช้าและก่อนนอนหรือตามที่เหมาะสมกับตารางการดูแลเด็ก การล้างจมูกเด็กทุกวันช่วยในการลดอาการคัดจมูก ล้างเสมหะ และลดโอกาสติดเชื้อแบคทีเรีย อย่างไรก็ตามการล้างจมูกไม่ควรให้เด็กรู้สึกไม่สบายหรือกลัว หากเด็กมีอาการน้ำมูกไหลหรือคัดจมูกมาก ล้างจมูกแล้วไม่โล่ง การล้างจมูกอาจต้องทำบ่อยขึ้นตามความจำเป็น เช่น หลังจากที่เล่นนอกบ้าน หลังจากที่เด็กตื่นนอน หรือหลังจากที่มีกิจกรรมกลุ่มที่มีโอกาสติดเชื้อ การเลือกเวลาล้างจมูกที่เหมาะสมและทำให้เด็กรู้สึกสบายจะช่วยสร้างนิสัยที่ดีต่อการดูแลสุขภาพของเด็กในระยะยาว

บทสรุป

การล้างจมูกเป็นวิธีที่ดีในการรักษาสุขภาพทางเดินหายใจและลดอาการคัดจมูก สามารถล้างจมูกให้เด็กได้ตั้งทารก โดยต้องทำตามขั้นตอนให้ถูกวิธีจะส่งผลดีและเป็นประโยชน์ต่อลูกน้อย ที่สำคัญควรทำด้วยความระมัดระวังและอ่อนโยน เพื่อไม่ให้เด็กรู้สึกไม่สบายหรือกลัว หากทำแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นและมีข้อกังวลหรือปัญหาใดๆ เกี่ยวกับการล้างจมูกควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลเด็ก

 

ติดตามเรื่องราวอื่นๆ และเกมส์ที่น่าสนใจได้ที่ : doodido.com

ขอบคุณภาพประกอบจาก : 

  • istockphoto.com

ขอบคุณแหล่งอ้างอิงจาก :

  • aafp.org
  • elsevier.es
  • inspq.qc.ca