รู้ทัน 6 สัญญาณเตือน ว่าสาวๆ อาจกำลังมีปัญหาทางช่องคลอด

WM

อาการผิดปกติของช่องคลอดแม้เพียงเล็กน้อยก็อาจนำไปสู่ปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันได้

นอกจากปัญหาความงามของผู้หญิงแล้ว ปัญหาอื่นๆที่สาวๆ อาจจะต้องพบเจอกันก็คือปัญหาช่องคลอดนี่ล่ะค่ะ ซึ่งหลายคนก็อาจจะไม่ได้สนใจ หรือในบางกรณีก็ไม่ได้ไม่อยากสนใจหรอกค่ะแต่เพียงแต่ว่าช่องคลอดนั้นก็เป็นจุดลับ ซ่อนเร้น ที่หลายๆ คนก็เผลอปล่อยปะละเลยไปโดยไม่รู้ตัว(ก็เพราะไม่เห็นนี่เนอะ) แต่ว่านะคะปัญหาเกี่ยวกับช่องลอดนี้ก็เป็นหนึ่งในปัญหาที่พบได้มากจริงๆ เพราะฉะนั้นแล้วคงจะดีกว่ามั้ยคะถ้าหากเราจะรู้ถึงสัญญาณเตือนเหล่านั้นและได้รักษาให้ทันท่วงทีได้

สิ่งหนึ่งที่อยากให้ทุกคนรู้อีกก็คือ อาการผิดปกติของช่องคลอดแม้เพียงเล็กน้อยก็อาจนำไปสู่ปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือนกันค่ะ ดังนั้นนอกจากจะต้องหมั่นดูแลแล้ว จึงต้องหมั่นสังเกตว่ามีอาการผิดปกติใดเกิดขึ้น ซึ่งการรู้ทันสัญญาณของความผิดปกตินอกจากจะช่วยป้องกันปัญหา ยังช่วยเสริมความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันได้อีกด้วย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.pexels.com/th-th/@kampus

อาการผิดปกติเบื้องต้นที่ควรสังเกต

1. กลิ่นผิดปกติไปจากเดิม

โดยตามธรรมชาติช่องคลอดมีกลิ่นเล็กน้อย แต่หากมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อย่างรุนแรงอาจเป็นสัญญาณที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติอย่างอื่น เช่น อาการแสบร้อน อาการคันอย่างรุนแรง ลักษณะของตกขาวที่ผิดปกติ ตลอดจนภาวะเชื้อราในช่องคลอด หรือภาวะช่องคลอดอักเสบจากแบคทีเรีย ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่น เพราะอาจกระตุ้นอาการระคายเคืองในช่องคลอดได้ และควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุโดยละเอียด

2. ความผิดปกติของตกขาว

  • ตกขาวมีสีน้ำตาลหรือปนเลือด เนื่องจากประจำเดือนมาผิดปกติ หรือเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก อาจมีอาการปวดท้องน้อยและเลือดออกจากช่องคลอดร่วมด้วย
  • ตกขาวมีสีเหลืองขุ่น อาจเป็นสัญญาณของโรคหนองใน โดยมีอาการปัสสาวะผิดปกติและปวดท้องน้อยร่วมด้วย
  • ตกขาวมีสีเหลืองออกเขียวร่วมกับกลิ่นผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อปรสิตจากการมีเพศสัมพันธ์ (Trichomoniasis) โดยมีอาการแสบขณะปัสสาวะร่วมด้วย BDMS Wellness Common Vagina lProblems Signs
  • ตกขาวมีสีออกชมพู สาเหตุจากเยื่อบุโพรงมดลูกลอกตัวหลังการคลอดบุตร
  • ตกขาวมีลักษณะเหนียวผิดปกติ อาจเป็นภาวะติดเชื้อยีสต์ของช่องคลอด
  • ตกขาวมีสีขาวหรือเหลืองร่วมกับกลิ่นคาว อาจเป็นภาวะติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด โดยมีอาการแสบภายในช่องคลอดและอาการบวมแดงร่วมด้วย

3. เจ็บระหว่างมีเพศสัมพันธ์

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@billiebodybrand

4. ภายในช่องคลอดแห้งผิดปกติ

ปกติในช่องคลอดของผู้หญิงจะมีลักษณะชุ่มชื้น เพื่อลดการเสียดสีและเพิ่มความยืดหยุ่นของช่องคลอด แต่หากมีภาวะขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ก็อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งภาวะช่องคลอดแห้งจะนำไปสู่สาเหตุการติดเชื้อราในช่องคลอด แต่สำหรับผู้ที่เข้าสู่วัยทองภาวะช่องคลอดแห้งถือเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เรื่องน่ากังวล

5. ช่องคลอดมีเลือดออกผิดปกติ

เลือดออกผิดปกติในช่วงประจำเดือนนั้นมีทั้งเลือดออกมากเกินไป และเลือดออกน้อยเกินไป เป็นผลสืบเนื่องจากปัจจัยหลายสาเหตุ ได้แก่

  • มีเนื้องอกในมดลูก
  • ฮอร์โมนผิดปกติ
  • การใช้ยาคุมกำเนิด
  • มะเร็งปากมดลูกหรือมะเร็งช่องคลอด

อย่างไรก็ตาม สำหรับภาวะตั้งครรภ์ หากพบว่าช่องคลอดมีเลือดออกถือว่าเป็นอาการที่ไม่ร้ายแรง แต่ควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลเพื่อความปลอดภัยของผู้ตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ และสำหรับผู้ที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือนควรปรึกษาแพทย์

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@yaoqiqiqilai

มีแผลหรือลักษณะความผิดปกติอื่นๆ บริเวณผิวหนังใกล้ช่องคลอด

เมื่อสัมผัสช่องคลอดแล้วรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีลักษณะเป็นสิวใกล้กับช่องคลอด สาเหตุอาจเป็นเพราะผิวหนังระคายเคืองจากปัจจัยบางอย่าง เช่น ขนคุด หรือการใช้มีดโกนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หากพบเจอก้อนความผิดปกติรอบๆ บริเวณช่องคลอดเป็นจำนวน ร่วมกับอาการคันและแสบร้อน อาจเป็นอาการของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD)

ก็อย่างที่ได้บอกไปตอนแรกนะคะว่าสาวๆ ส่วนใหญ่ถ้าหากปัญหาเหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นแบบเห็นได้ชัด หรือไม่ได้เจ็บ ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายแล้วล่ะก็คงจะไม่ได้สนใจอะไรหรอกค่ะ หรือก็คืออาจจะคิดว่าเดี๋ยวปล่อยไว้ก็หายเองแหล่ะแบบนี้อยู่เสมอ แต่หลังจากที่สาวๆ ได้รู้ถึงสัญญาณอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับช่องคลอดของเราแล้วมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วยล่ะก็ DooDiDo แนะนำว่าอย่าลืมที่จะหาเวลาไปปรึกษาคุณหมอ และหาแนวทางวิธีการแก้ไขให้ดีด้วยนะคะ เพราะอย่างไรก็ตามสุขภาพของทุกคนก็เป็นเรื่องสำคัญ อย่าปล่อยให้บานปลายไปกว่านี้เลยค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.bdmswellness.com