มารู้จัก “กาแฟ Cold Brew” กาแฟเพื่อสุขภาพสำหรับสายเฮลตี้

“กาแฟ Cold Brew” รสชาติละมุนถูกใจ สำหรับสาวกกาแฟดำ 

เครื่องดื่มยอดฮิตของคนออกกำลังกายและคนรักสุขภาพ นั่นก็คือ “กาแฟ Cold Brew” นั่นเองค่ะ นั่นก็อาจจะเป็นเพราะว่าความสะดวก รสชาติที่นุ่มกว่า ไม่ขมติดคอ ให้กลิ่นที่เป็นกาแฟ อีกทั้ง กลิ่นและรสชาติจะไม่สูญเสียไปกับน้ำร้อน และความเป็นกรดจะน้อยกว่าการทำกาแฟที่ต้องผ่านน้ำร้อน ซึ่งความยากของกาแฟสกัดเย็น คือ ต้องมีการหมักเมล็ดกาแฟในเวลาประมาณ 12-24 ชั่วโมง ขั้นตอนทุกอย่างต้องมีความเหมาะสม ไม่เช่นนั้นรสชาติจะไม่เข้มข้น หรือไม่นุ่มนวลอย่างที่ตั้งใจไว้ค่ะ

 ถึงแม้หลายคนจะรู้จักกาแฟเหล่านี้มาหลายปี แต่ต้องยอมรับว่า เวลานี้ “กาแฟ Cold Brew” กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้น ไม่ใช่แต่ในประเทศไทยเท่านั้น เทรนด์ทั่วโลกก็เป็นเช่นนั้นด้วย ด้วยความอร่อย รสชาติกลมกล่อม และเหตุผลหลายๆประการ ที่ทำให้สาวกกาแฟหันมาดื่มและติดกาแฟ Cold Brew งอมแงม โดยเฉพาะกับ สายเฮลตี้ ฟังแล้วน่าสนใจใช่มั้ยละ วันนี้เรามีคำแนะนำจาก เดอะ คอฟฟี่ คลับ ประเทศไทย ถึงข้อดีและเหตุผลที่สาวออฟฟิศควรดื่ม “กาแฟ Cold Brew” มาฝากกัน รับรองอ่านจบ สาวๆ ต้องอยากพุ่งตัวไปหากาแฟชนิดนี้ดื่มกันอย่างแน่นอน

“กาแฟ Cold Brew” คือ?

“กาแฟ Cold Brew” หรือ “กาแฟสกัดเย็น” คือ กาแฟที่ชงด้วยน้ำเย็น ซึ่งแตกต่างจากการชงกาแฟทั่วไปด้วยน้ำร้อน โดยวิธีการก็ง่ายมากๆ จะใช้กาแฟคั่วบดหยาบกับน้ำเย็นในอัตราส่วน 1:20 ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 16-24 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นเวลาที่นานมาก ในการให้น้ำเย็นสกัดรสชาติของกาแฟออกมาทีละน้อยๆ อย่างนุ่มนวลและไม่เร่งรีบ เรียกว่าต้องใจเย็นมากๆ ถึงจะได้กาแฟสกัดเย็นออกมา แต่ก็คุ้มค่ามากๆ กับรสชาติที่ได้ลิ้มลอง 

รสชาติของ “กาแฟ Cold Brew” 

การสกัดเย็นทำให้ได้รสชาติของ “กาแฟ Cold Brew” มีความพิเศษมากกว่าการสกัดผ่านน้ำร้อน โดยจะได้รสชาติที่ขมน้อยกว่า เพราะการชงกาแฟด้วยน้ำร้อนแบบเร่งรีบ ทำให้กาแฟปล่อยความขมออกมามากกว่า นอกจากนี้กรดที่อยู่ในกาแฟก็ออกมาด้วยเช่นกัน ทำให้รสชาติของกาแฟที่ชงด้วยน้ำร้อนจึงมีความเปรี้ยวผสมผสานอยู่ด้วย แตกต่างจาก “กาแฟ Cold Brew” ที่ไม่มีรสเปรี้ยว และได้ความเข้มข้นมากกว่า แถมยังไม่ขมติดคอ เอาเป็นว่า…อาหร่อย!!

“กาแฟ Cold Brew” มีคาเฟอีนหรือไม่?

การชง “กาแฟ Cold Brew” แตกต่างกันที่วิธีการชง แต่กระบวนการชงด้วยน้ำเย็น จะยังคงทำให้เราได้ปริมาณคาเฟอีนไม่แตกต่างจากการชงด้วยน้ำร้อนเลย เพราะคาเฟอีนนั้นสามารถสกัดได้ตั้งแต่ช่วงแรกของกระบวนการชง

ความเป็นกรดใน “กาแฟ Cold Brew” น้อย เหมาะกับคนเป็นโรคกระเพาะ

จากขั้นตอนการสกัดเย็น ทำให้ “กาแฟ Cold Brew” มีค่าความเป็นกรด หรือ Acidity หลงเหลืออยู่ในกาแฟน้อยมากๆ เนื่องจากความเย็นทำให้กรดในเมล็ดกาแฟ ละลายออกมาได้น้อยกว่าการผ่านความร้อน ซึ่งทำให้กาแฟชนิดนี้เหมาะสำหรับสาวๆ ที่เป็นโรคกระเพาะ กรดไหลย้อน ทางเลือกดีๆ สำหรับสายเฮลตี้จริงๆ 

“กาแฟ Cold Brew” สวรรค์สาวก “กาแฟดำ”

อย่างที่รู้กัน สายสุขภาพหรือสายเฮลตี้ตัวจริง มักจะนิยมดื่ม “กาแฟดำ” แต่ก็มีหลายคนที่อดรนทนไม่ได้กับรสชาติกาแฟดำที่ขมบาดคอเสียเหลือเกิน “กาแฟ Cold Brew” จึงเป็นสวรรค์สำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟดำเพื่อสุขภาพ เพราะมันดื่มได้ง่ายกว่า เนื่องจากรสชาติที่ขมน้อยกว่าการสกัดด้วยน้ำร้อนนั่นเอง

“ลดความอ้วน” ด้วย “กาแฟ Cold Brew”

เมื่อรสชาติที่กลมกล่อม ไม่ขม และไม่เปรี้ยว ทำให้ “กาแฟ Cold Brew” ไม่จำเป็นต้องใส่นมหรือน้ำตาลในปริมาณที่มาก เฉกเช่นที่เราดื่มกาแฟทั่วๆ ไป สำหรับสาวๆ ที่ต้องการ “ลดน้ำหนัก” แต่ยังติดกาแฟงอมแงมคือต้องดื่มทุกวัน “กาแฟ Cold Brew” จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด นมน้อย น้ำตาลน้อย หรือจะนมอย่างเดียว แล้วไม่ต้องเติมน้ำตาลก็ยังได้ เพอร์เฟกต์…อร่อยด้วย ผอมลงด้วย!

มิกซ์ได้หลากหลายรสชาติกับ “กาแฟ Cold Brew”

ด้วยความที่รสชาติของ “กาแฟ Cold Brew” ค่อนข้างกลมกล่อม ลงตัวอยู่แล้ว ทำให้การนำไปมิกซ์กับเครื่องดื่ม หรือผลไม้อื่นๆ จึงสามารถทำได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะผสมนม น้ำแข็ง ไอศกรีม ช็อกโกแลต หรือจะผสมมะนาว กุหลาบ ลิ้นจี่ พีช ประหนึ่งเป็นชาสกัดเย็นก็ได้เช่นกัน เรียกได้ว่า…เป็นสาวก Cold Brew ที่แท้ทรู

กิน “กาแฟ Cold Brew” ได้แบบจำกัดปริมาณ

เนื่องจาก “กาแฟ Cold Brew” ส่วนใหญ่จะถูกบรรจุลงขวดแก้วอย่างดี ดังนั้นเวลาที่เราดื่ม จึงสามารถจำกัดปริมาณได้ ทำให้ไม่อ้วน เช่น 1 แก้วเล็กๆ พอหอมปากหอมคอ หรือเรียกความสดชื่นระหว่างวัน โดยเฉพาะสาวออฟฟิศที่ช่วงบ่ายๆ มักมีอาการสัปหงก “กาแฟ Cold Brew” ช่วยคุณได้จริงๆ เพราะกาแฟชนิดนี้สามารถเก็บใส่ตู้เย็นไว้ดื่มวันหลังได้ นานเกินสัปดาห์เชียวแหล่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับกาแฟ Cold Brew” ที่ใครหลายคนอาจยังไม่รู้มาก่อนว่า DooDiDo ว่ากาแฟชนิดนี้เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ และเหมาะสำหรับสายเฮลตี้อย่างแท้ทรูเลยค่ะ ด้วยรสชาติที่กลมกล่อม ไม่ขมจนเกินไป แถมยังมีกลิ่นที่หอมละมุน จึงทำให้เป็นกาแฟที่กลายเป็นตัวเลือกแรกๆ ของสายเฮลตี้กันเลยค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา :www.thairath.co.th/women/beauty/health/1842428