มาดู!! เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงในปี 2022 กับ “Nanorobotics”

WM

ด้วยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีที่ทำให้ปัญญาประดิษฐ์ เก่งเทียบได้กับสมองมนุษย์ 

ต้องยอมรับว่าตอนนี้โลกของเรามีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทั้งแต่เราลืมตาตื่นนอนไปจนถึงเวลาเข้านอน ส่งแรกที่ทุกคนจับคือโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนใช่มั้ย ปัจจุบันสมาร์ทโฟนมีนวัตกรรมที่ทันสมัยระบบความฉลาดอย่าง  Siri กับ Alexa ที่โต้ตอบกับเรา แต่วันนี้เรามีอีกหนึ่งเทคโนโลยีอย่างนาโนโรบอท (Nanorobot) คือ หุ่นยนต์หรือเครื่องจักรกลที่มีขนาดเล็กที่มีโครงสร้างแข็งแรงและไม่ว่องไวต่อการเกิดปฏิกิริยา

ทุกวันนี้มีการนำเอานาโนบอทหุ่นยนต์นาโนสามารถใช้ในพื้นที่การใช้งานต่างๆเ ช่นการแพทย์และเทคโนโลยีอวกาศ ปัจจุบันนาโนบอทเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในด้านการแพทย์ทางชีวภาพโดยเฉพาะวันนี้เรามี Lifestyle ที่เปลี่ยนแปลงในปี 2022 กับ “Nanorobotics” ถ้าหากเพื่อนพร้อมกันแล้วเราไปดูสาระความรู้ในบทความนี้กันเลยค่า

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@askkell

“Nanorobotics” โลกอนาคต ฉลาดล้ำ…ไร้อัตตา

หุ่นยนต์กำลังจะเข้ามาเป็น “สิ่งจำเป็น” ใหม่ในบ้าน ไม่ต่างจากโทรทัศน์ ตู้เย็น แอร์ พัดลม ฯลฯ ซึ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าพื้นฐานที่ขาดไม่ได้แล้ว เมื่อไม่กี่ปีก่อน เราเพิ่งจะตื่นเต้นกับ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ที่คนส่วนใหญ่เข้าถึง เช่น Siri กับ Alexa เราเริ่ม “คุย” กับคอมพิวเตอร์ได้แล้ว

นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีทำให้ปัญญาประดิษฐ์ เก่งเทียบได้กับสมองมนุษย์ ทั้งด้านความสามารถและความซับซ้อน ผนวกกับความก้าวหน้าด้านการสื่อสาร ทำให้สิ่งต่างๆในภาพยนตร์ไซ-ไฟ เข้ามาสวมชีวิตจริง หลายคนเชื่อว่าอีกไม่นานจะมี Robocop-ตำรวจเหล็กเกิดขึ้นจริงๆ แต่คงไม่ได้ยืนนิ่งๆแบบ “จ่าเฉย” ของเรา! ที่ล้ำไปกว่านั้นคือ เราใช้เทคโนโลยีปรับตัวเองให้ขยับใกล้เคียงหุ่นยนต์เข้าไปทุกที

เรย์ เคิร์ซวิล (Ray Kurzweil) นักอนาคตศาสตร์ นักประดิษฐ์ และนักเขียน ชาวอเมริกัน ออกหนังสือมา 3 เล่ม ตั้งแต่ปี ค.ศ.1990, 1999, และ 2005 (พ.ศ.2533, 2542 และ 2548) พยากรณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 147 เรื่องในช่วงปีต่างๆ

ในจำนวนนี้ 115 เรื่อง-เป็นเรื่องจริงอย่างสมบูรณ์ 12 เรื่อง-จริงแต่ยังไม่สมบูรณ์ อีก 17 เรื่อง-จริงบางส่วน มีเพียง 3 เรื่องเท่านั้น-ที่ไม่จริง ดังนั้นประสิทธิภาพการคาดการณ์ของนักอนาคตศาสตร์คนนี้ คือร้อยละ 86

หนึ่งในการคาดการณ์ ของเคิร์ซวิลระบุว่า ใน ทศวรรษ 2030 หรืออีกสิบปีข้างหน้าเป็นต้นไป วิทยาการล้ำยุคจะช่วยให้เราสามารถ “อัปโหลด” จิตใจโดยผ่านอุปกรณ์ระดับนาโน (Nanomachines) ที่ถูกฝังเข้าไปในสมอง เพื่อให้มีปฏิสัมพันธ์กับเซลล์สมองโดยตรง เป็นการเพิ่มความสามารถทางปัญญาและประสาทสัมผัส รวมถึงหน่วยความจำ ผู้คนจะสามารถ “เชื่อมต่อ” ถึงกันและกันผ่านทางเครือข่ายไร้สาย และเป็นไปได้อย่างยิ่งที่กระบวนการทำนองนี้จะเปลี่ยนบุคลิกและความทรงจำของมนุษย์

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@agk42

ในอนาคต นาโนโรบอท (Nanorobots)

จะกลายเป็นสิ่งที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง เพื่อสร้างรูปร่างและพื้นผิวทุกชนิด เมื่อบวกกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ เขาบอกว่าร่างกายมนุษย์ในเวอร์ชัน 3.0 จะปรากฏขึ้น มนุษย์ไม่เพียงสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกให้เลิศเลออย่างไร-เมื่อไร ก็ได้ แต่ยังรวมถึงการอัปเกรดหน่วยความจำของตัวเองอีกด้วย

ตัวอย่างเช่น ในสวีเดน ตอนนี้คนหนุ่มสาวหลายพันคน แห่กันไป “ฝังชิป” ที่มือเพื่อใช้ “โบก” แทนการใช้สารพัดบัตรหรือพกกุญแจหลายๆดอก ไบโอชิปขนาดเมล็ดข้าวสารสามารถอยู่ใต้ผิวหนังได้ 3 ปี แล้วก็ต้องไป “อัปเกรด” เทคโนโลยีที่เรียกว่า “ไบโอแฮกกิ้ง” นี้เริ่มต้นเมื่อปี ค.ศ. 2015 (พ.ศ.2558) กำลังเพิ่มความนิยม แม้แต่การขึ้นรถไฟโดยสารก็ใช้ไบโอ

นาโนเทคโนโลยีจะปรับโฉมหน้าเศรษฐกิจโลก อย่างเช่นการใช้ Nanomachines ในวงการแพทย์ หรือ Nanorobots ที่สามารถเจาะเซลล์ให้อาหารและกำจัดของเสีย ดังนั้นกระบวนการการกินอาหารแบบเดิมจึงไม่จำเป็นอีกต่อไป อาหารในรูปแคปซูลจะเป็นทางเลือกใหม่ ส่วนการบริโภคบรรยากาศ รสชาติ ในวิธี “ดาวน์โหลด” โปรแกรมใส่สมอง ลืมเรื่องแคลอรีส่วนเกินไปเลย

เขายังพยากรณ์อีกว่า ในทศวรรษ 2040 ผู้คนส่วนใหญ่จะใช้เวลาในโลกความเป็นจริงเสมือน ข้อนี้เข้าใจได้ไม่ยาก ทุกวันนี้คนมากมายพาวันวันหนึ่งของชีวิตหายเข้าไปในสังคมออนไลน์ สถิตอยู่ในโลกเกม แยกจากสังคมจริงๆ อย่างเช่น ในญี่ปุ่น จำนวน “โอตาคุ” ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และขยายออกไปในหมู่คนรุ่นใหม่ รวมทั้งเมืองไทย ก่อนหน้านี้ ความหมายของโอตาคุ (otaku) คือผู้ชายที่หลงรักตัวการ์ตูนในโลกเสมือนจริงแบบหัวปักหัวปํา เป็นภาพลบ แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นความ “อินดี้”

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@billetto

ถ้าคอมพิวเตอร์และ AI มีอิทธิพลสูง แล้วโลกในอนาคตจะหน้าตาเป็นอย่างไร

เคิร์ซวิล พยากรณ์ว่าช่วงปี ค.ศ.2045 (พ.ศ.2588) หรืออีกสองทศวรรษข้างหน้าเป็นต้นไป โลกจะเปลี่ยนเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดมหึมา หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างในโลกจะควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงกัน “ทั้งโลก” ไม่ใช่แค่ในประเทศใดประเทศหนึ่ง ถึงตอนนั้น เขาเชื่อว่าจะมีการแบ่ง “เขตสงวนพิเศษ” สำหรับผู้ที่ต้องการมีชีวิตตามธรรมชาติหรือเยียวยาร่างกายแบบไม่พึ่งพาเทคโนโลยีมากนัก

ภายในปี ค.ศ.2099 (พ.ศ.2642) หรืออีกเกือบ 80 ปีข้างหน้า ปัญญาประดิษฐ์จะเดินทางออกไปสู่ระบบสุริยะทั้งหมด รวมถึงข้ามกาแล็กซีอื่นๆ ด้วยความเร็วเหนือแสง เขายังเชื่อว่า AI จะสามารถเปลี่ยนดาวเคราะห์ให้เป็นวัตถุที่มีโครงสร้างที่เอื้อต่อการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิต อันเนื่องจากความสามารถในการสร้างคอมพิวเตอร์ขนาดยักษ์ที่สามารถควบคุมสภาพของดาวเคราะห์ได้

ซึ่งก็น่าจะจริง เพราะปีหน้า “โรงแรมอวกาศ” ก็จะเปิดให้บริการแล้ว บริษัท โอไรออน สแปน (Orion Span) เป็นสตาร์ตอัพด้านเทคโนโลยีสัญชาติอเมริกัน ประกาศแผนการส่งโรงแรมหรูขึ้นสู่วงโคจรของโลกในปีนี้ เพื่อสร้างที่พักในอวกาศชื่อว่า “สถานีออโรรา” และพร้อมเปิดให้บริการในปีหน้า สนนราคาค่าที่พัก 12 วัน คือ 296 ล้านบาทต่อคน และผู้ให้บริการก็เป็นหุ่นยนต์ล้วนๆ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ก็จบลงกันแล้วอีกเรื่องราวดีที่ DooDiDo ได้นำฝากกับบทความเรื่อง “Lifestyle ที่เปลี้ยนแปลงในปี 2022 กับ “Nanorobotics”” หวังว่าเพื่อนคนจะได้รับสาระความรู้จากบทความครั้งนี้ไม่มากก็น้อยนะคะ นอกจากนี้ฉลาดล้ำ แต่ไร้อัตตา ไม่มีโทสะ ไม่นินทาว่าร้าย บางทีหุ่นยนต์อาจจะเหมาะเป็น เพื่อนรู้ใจที่ดีที่สุดของคนในโลกอนาคตก็เป็นได้ และนาโนบอทเป็นอุปกรณ์นาโนที่ใช้เพื่อการบำรุงรักษาและปกป้องร่างกายมนุษย์จากเชื้อโรค ที่กำลังนำมาทำการวิจัยเพื่อรักษาเชื้อไวรัสโควิค-19 อีกด้วยนะค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.thairath.co.th