พาส่อง! 8 ประโยชน์ของการออกกำลังกายในขณะที่ตั้งครรภ์

WM

การออกกำลังกายที่ไม่หักโหมมากนักจะทำให้คุณแม่รู้สึกปลอดโปร่ง สบายตัว

คุณแม่หลายคนยังคงเกิดข้อสงสัยว่าในขณะที่ตั้งครรภ์สามารถออกกำลังกายได้หรือไม่ ออกกำลังกายจะมีผลทำให้เกิดอาการแท้งลูกได้หรือไม่ ต้องขอบอกเลยค่ะ ว่าการออกกำลังกายในขณะที่ตั้งครรภ์นั้น ส่งผลดีต่อสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยในท้องเป็นอย่างมาก ช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดจะดีขึ้น การถ่ายเทออกซิเจนไปสู่ลูกจึงดีขึ้น ทำให้เจ้าตัวน้อยในท้องเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่และแข็งแรงอีกด้วยค่ะ

การตั้งครรภ์สามารถทำให้ผู้หญิงหลายคนกังวลเกี่ยวกับการทำกิจวัตรประจำวัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การออกกำลังกาย ผู้หญิงบางคนอาจกลัวว่าการออกกำลังกายจะทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือทำให้เกิดอันตรายต่อลูกน้อย แต่หากคุณออกกำลังกายอย่างเหมาะสม มันกลับมีประโยชน์ต่อร่างกายมากทีเดียว แต่จะมีอะไรบ้างนั้น เราลองมาดูพร้อมกันเลยค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/cparks-1593059/

1.ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
แม้ว่าการเพิ่มน้ำหนักในระหว่างการตั้งครรภ์เป็นเรื่องสำคัญ แต่คุณก็ควรควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานหรือทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ นอกจากนี้ลูกก็อาจพลอยเป็นโรคอ้วนหรือโรคเบาหวานในภายหลัง ซึ่งการออกกำลังกายควบคู่กับการควบคุมอาหารก็สามารถช่วยรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ แต่หากคุณมีความเสี่ยงที่จะคลอดก่อนกำหนด ให้คุณลองปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับทางเลือกอื่น ๆ

2.ช่วยลดอาการอ่อนเพลียและทำให้นอนหลับดีขึ้น
การออกกำลังกายแบบเบาๆ สามารถเพิ่มพลังงานให้คุณได้ในทันที และช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้นในภายหลัง อย่างไรก็ดี คุณอาจเริ่มออกกำลังกายโดยใช้วิธีเดินหรือไปเข้าคลาสฝึกโยคะ

3.ช่วยจัดท่าทางและลดอาการปวดหลังและข้อต่อ
การมีทารกอยู่ในท้องจะทำให้เกิดแรงกดบริเวณไขสันหลังและขา นอกจากนี้คุณอาจรู้สึกเจ็บเพราะร่างกาย และฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างตั้งครรภ์ ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงจุดศูนย์ถ่วงของร่างกาย คุณสามารถบรรเทาอาการปวดโดยออกกำลังกายที่ช่วยเสริมกล้ามเนื้อหลังให้แข็งแรงและฝึกโยคะท่าที่ต้องยืดหลังและข้อต่อ อย่างไรก็ตาม คุณอย่าลืมจัดท่าทางให้เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/xusenru-1829710/

4.บรรเทาอาการท้องผูก
ในระหว่างตั้งครรภ์ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนโปสเจสเตอโรนออกมามากขึ้น ซึ่งช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวเพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการเติบโตของทารก ซึ่งหมายความรวมถึงกล้ามเนื้อบริเวณทางเดินอาหารเช่นกัน ทำให้อาหารผ่านเข้าไปในลำไส้เล็กอย่างช้าๆ ส่งผลให้คุณมีอาการท้องผูกได้ในที่สุด นอกจากนี้การทานธาตุเหล็กแบบอาหารเสริมเป็นจำนวนมากก็สามารถทำให้อาการท้องผูกแย่ลง แต่คุณสามารถแก้ปัญหาโดยออกกำลังกายเป็นประจำและทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง

5.ลดความเครียด
การตั้งครรภ์ทำให้ผู้หญิงเครียดและวิตกกังวล แม้ว่าความเครียดระดับเบาไม่ได้ทำให้เกิดอันตราย แต่การสะสมความเครียดเป็นเวลานานสามารถทำให้ความเสี่ยงในการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้น ทำให้เด็กมีน้ำหนักตัวต่ำ ระยะเวลาตั้งครรภ์สั้นลง คลอดก่อนกำหนด หรือเด็กมีความผิดปกติกับอารมณ์ในภายหลัง อย่างไรก็ดี คุณสามารถคลายเครียดโดยใช้วิธีออกกำลังกาย เพราะมันช่วยเพิ่มระดับของเซโรโทนินและเอนโดรฟินในสมอง ซึ่งช่วยให้คุณมีอารมณ์ดีขึ้น

6.ใช้เวลาคลอดลูกน้อยลง
มีการค้นพบว่า การออกกำลังกายในระหว่างตั้งครรภ์จะทำให้ระยะที่ 1 ของการคลอดสั้นลง ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า การออกกำลังกายช่วยเพิ่มการไหลเวียนของนอร์อิพิเนฟรินภายในร่างกาย ส่งผลให้ความถี่และความแข็งแรงในการบีบตัวของมดลูกเพิ่มขึ้นนั่นเอง

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/blankita_ua-12081892/

7.ช่วยให้ฟื้นตัวหลังคลอดเร็วขึ้น
การออกกำลังกายไม่เพียงแต่ช่วยในระหว่างคลอดลูกเท่านั้น แต่ยังเร่งให้ร่างกายฟื้นตัวหลังคลอดเร็วขึ้นอีกด้วย ทำให้กลับมาทำงานบ้านง่ายๆ ได้เร็วกว่าผู้หญิงที่ไม่ได้ออกกำลังกายหรือใช้ชีวิตแบบนั่งๆ นอนๆ เพราะการออกกำลังกายในระหว่างตั้งครรภ์ช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น และลดโอกาสที่จะคลอดลูกแบบผ่าคลอด

8.ลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน
มีงานวิจัยพบว่า การออกกำลังกายที่มีความหนักระดับปานกลางสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างการเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์และภาวะครรภ์เป็นพิษ ซึ่งการออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายใช้กลูโคสได้อย่างเหมาะสม ป้องกันภาวะดื้อต่ออินซูลิน และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ นอกจากนี้มันยังช่วยควบคุมความดันโลหิตและป้องกันภาวะครรภ์เป็นพิษ

จากประโยชน์ของการออกกำลังกายในขณะที่ตั้งครรภ์ที่ DooDiDo ได้นำมาฝากคุณแม่ท้องในวันนี้ จะเห็นได้ว่าการออกกำลังกายนั้นส่งผลดีต่อสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์อย่างมากเลยค่ะ ควรเริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายแบบเบา ๆ ไม่ควรหักโหมจนร่างกายรู้สึกเหนื่อย เพลีย คุณแม่สามารถออกกำลังกายได้อย่างสม่ำเสมอทุกวันหรือวันเว้นวันก็ได้ อย่างน้อยครั้งละ 30 นาที ตามพื้นฐานการออกกำลังกายของคุณแม่นะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://hd.co.th