พาส่อง! 4 เคล็ดลับสร้างเสน่ห์ให้ตัวเองเป็นที่น่าสนใจ

WM

เราควรฝึกฝนที่จะชวนคนอื่นพูดคุยแบบต่อหน้าให้น่าสนใจและน่าดึงดูดใจมากขึ้น

ในแต่ละวันที่เราต้องมีการการพบปะสื่อสารกับคนอื่น ทำให้หลายคนกังวลใจอย่างมากว่าจะต้องพูดแบบไหน ต้องวางตัวอย่างไร เพื่อที่จะให้คนที่เราคุยด้วยรู้สึกอยากคุยกับเรา คุยแล้วไม่ทำให้อึดอัด ซึ่งตรงนี้หลายคนยังคงไม่สามารถทำได้ดี เพราะการที่จะสื่อสาร ใช้คำพูดให้คู่สนทนาหรือคนอื่นสนใจที่จะคุยกับเรา ต้องใช้ศิลปะในการพูดด้วย ซึ่งวันนี้เรามีเคล็ดลับในการสร้างเสน่ห์ให้ตัวเองน่าสนใจ ในการพูดคุยกับผู้อื่นมาฝากค่ะ

ในโลกแห่งเทคโนโลยีและสมาร์ทโฟนอย่างทุกวันนี้ การติดต่อสื่อสารของคนเราส่วนใหญ่ย้ายไปอยู่บนหน้าจอสี่เหลี่ยมของโทรศัพท์กันจนหมด ปัญหาที่ตามมาก็คือบางครั้งเราพิมพ์ข้อความคุยกัน จนลืมวิธีการและศิลปะในการที่จะพูดคุยกันต่อหน้าให้ดูดี ให้มีสไตล์ที่น่าสนใจและน่าดึงดูดใจ อาจส่งผลให้การเข้าสังคมทำได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว วันนี้จึงอยากจะขอเสนอเทคนิคดีๆ ที่จะช่วยเตือนให้คุณรู้ว่าโลกนี้ช่างกว้างใหญ่และเราควรฝึกฝนที่จะชวนคนอื่นพูดคุยแบบต่อหน้าให้น่าสนใจและน่าดึงดูดใจมากขึ้น อย่าให้ตัวเองถูกดูดไปกับเทคโนโลยีจนกลับมาสู่โลกความเป็นจริงไม่ได้อย่างมีคุณภาพนะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@matheusferrero

1. กล่าวคำชมอย่างชาญฉลาด
ผู้ชายที่มีความน่าเคารพนับถือ และได้รับการเกรงใจจากผู้อื่น มักเป็นผู้ชายที่ให้เกียรติ และหยิบยื่นความเคารพนับถือให้ผู้อื่นก่อนเสมอ การกล่าวคำชมจึงเป็นสิ่งที่สร้างเสน่ห์และบารมีให้คุณได้อย่างง่าย ๆ โดยที่คุณไม่ต้องวาดมาดหรือ “เก๊ก” ให้มากเกินไปแต่อย่างใด ข้อสำคัญที่คุณควรจำคือควรจะกล่าวคำชมอย่างชาญฉลาดโดยมุ่งเน้นในเรื่องของความสามารถของคู่สนทนา มากกว่าการกล่าวชมรูปลักษณ์ภายนอก ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เช่น แทนที่จะบอกว่าเธอยิ้มสวย หรือคุณหุ่นดีมากๆ เปลี่ยนเป็นการชมว่า “คุณพูดถูกนะ ผมเห็นด้วยเลย” หรือ “คุณนี่มีความคิดที่สร้างสรรค์จริง ๆ” หรือ “ผมชอบที่คุณมีอารมณ์ขันน่ารักๆแบบนี้” คำชมแบบนี้จะสร้างความประทับใจได้มากกว่า และทำให้คนอื่นๆอยากคุยกับคุณมากขึ้น

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/stocksnap-894430/

2. หลีกเลี่ยงหัวข้อสนทนาที่ “สุ่มเสี่ยง” กับความขัดแย้ง
อันดับหนึ่งเลยคือเรื่อง “การเมือง” ยิ่งในบางสภาวะที่ความคิดเห็นทางการเมืองของสังคมกำลังแบ่งแยกแตกออกจากกันอย่างชัดเจน ประเด็นเรื่องการเมืองควรจะเป็นประเด็นที่เราต้องหลีกเลี่ยงให้ไกลที่สุดเท่าที่จะไกลได้ ความกระอักกระอ่วนจะเกิดขึ้นถ้าในใจของอีกฝ่ายเขาคิดไม่เหมือนกับคุณ และความเคารพนับถือในตัวคุณก็จะค่อย ๆ ลดลงเป็นลำดับ ประเด็นอื่น ๆ เช่นในเรื่องของศาสนา รวมถึงบุคคลสำคัญต่าง ๆ ที่สุ่มเสี่ยงกับความขัดแย้งก็ควรจะละไว้ไม่เอามาพูดถึงนะครับ ความจริงมีประเด็นและหัวข้อสนทนาอื่นให้เลือกพูดเลือกถามมากมาย

3. แซว, อำ, หยอกล้อ อย่างเป็นกันเอง และต้องสุภาพ
ไม่มีใครอยากคุยกับคนที่เอาจริงเอาจังและเคร่งเครียดตลอดเวลา ดังนั้นบทสนทนาที่ดีเยี่ยมจึงควรที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายยิ้มและหัวเราะได้เป็นระยะ ๆ ระหว่างที่พูดคุยกัน ยิ่งในเวลาที่เราคุยกับผู้หญิงที่เพิ่งทำความรู้จักกัน การทำให้เธอยิ้มหรือหัวเราะได้นั้นจะเป็นแต้มต่อที่แสนสำคัญสำหรับการพูดคุยกันในครั้งต่อ ๆ ไป

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@priscilladupreez

4. ทำให้คู่สนทนารู้ว่าคุณสนใจในเรื่องของเขาจริง ๆ
พยายามเป็นฝ่ายถามคำถาม และแสดงออกให้เขารู้ว่าคุณกระตือรือร้นที่จะรู้จักเขาให้มากกว่าเดิมด้วยการถามคำถามที่ “ต่อยอด” ในเรื่องเดิมไปเรื่อย ๆ เพื่อให้อีกฝ่ายเป็นฝ่ายที่พูดและออกความเห็นมากกว่าตัวคุณเอง คล้ายกับการสมมติตัวเองเป็นพิธีกรรายการทอล์คโชว์ จากนั้นก็พยักหน้ารับเป็นระยะตามอย่างที่เราแนะนำไปแล้ว ซึ่งโดยปกติแล้วเมื่อถึงจุดหนึ่งคู่สนทนามักจะถามเรากลับบ้าง เช่น “แล้วคุณล่ะคิดยังไง?” เป็นต้น คุณก็สามารถใช้เทคนิคคล้ายๆกับการอำเรื่องอาชีพการงานที่เรายกตัวอย่างไป มาอำในเรื่องความเห็นของคุณต่อได้ เช่น ลองตอบคำถามด้วยความคิดเห็นที่ประหลาดๆ ด้วยสีหน้าที่จริงจัง ให้ประหลาดถึงขั้นที่ยังไง ๆ อีกฝ่ายต้องรู้ว่าคุณอำแน่นอน จากนั้นค่อยเฉลยทีหลัง การทำซ้ำ ๆไปเรื่อยแบบนี้อย่างเป็นธรรมชาติ จะทำให้คุณเป็นผู้ชายดูน่าสนใจ และดูเป็นผู้ชายที่ Cool ด้วยความสบาย ๆ และเป็นกันเองในสายตาของคู่สนทนาได้อีกด้วย

ที่ DooDiDo นำมาฝากนี้ เป็นเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการพูดคุยกับผู้อื่น เพื่อให้เราเป็นที่น่าสนใจ เป็นการสร้างเสน่ห์ในตัวเองอีกด้วย ใครที่พูดไม่ค่อยเก่ง หรือยังไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไรเพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกอึดอัดที่ต้องคุยกับเรา ลองนำเอาเทคนิคเหล่านี้ไปใช้กันดูนะคะ รับรองว่าจะต้องเป็นที่สนใจของคู่สนทนา ใคร ๆ ก็อยากคุยกับเราอย่างแน่นอนเลยค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.mendetails.com