พัฒนาการเด็ก ที่พ่อแม่ควรสนับสนุนให้เหมาะสมกับช่วงวัย

พัฒนาการเด็ก

พัฒนาการเด็ก มีความแตกต่างตามช่วงอายุตั้งแต่วัยทารกไปจนถึงวัยเด็กโต เด็กมีการพัฒนาทั้งด้านกายภาพ, สติปัญญา, สังคม และอารมณ์ ในทุกช่วงวัยของเด็กเป็นช่วงเวลาที่สำคัญต่อพัฒนาการมากที่สุด พ่อแม่ที่สนับสนุนพัฒนาการเด็กอย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงวัยจะทำให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพและประสบความสำเร็จในชีวิต อย่างไรก็ตามในการสนับสนุนด้านพัฒนาการเด็กนั้นควรทำด้วยความรักและอบอุ่น โดยสามารถใช้แนวทางการปฎิบัติได้ในบทความนี้

พัฒนาการเด็ก
รูปประกอบจาก pexels.com

พัฒนาการเด็ก มีด้านไหนบ้าง

พัฒนาการของเด็กมีหลายด้านที่ครอบคลุมทั้งทางกายภาพ, สติปัญญา, สังคม, อารมณ์ และทางวิชาชีพ การสนับสนุนในทุกด้านของพัฒนาการเด็กเป็นสิ่งสำคัญในการให้โอกาสและสภาพแวดล้อมที่สร้างสรรค์ เพื่อให้เด็กมีโอกาสที่จะพัฒนาไปสู่บุคลิกภาพที่สมบูรณ์อย่างทั่วถึง ครอบคลุมทุกรายละเอียดทางทักษะและบุคลิกภาพ นี่คือด้านหลักๆ ของพัฒนาการเด็ก

  1. พัฒนาการเด็กด้านกายภาพ
    • การเคลื่อนไหว: พัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวและกายภาพทั้งทางลำตัวและส่วนของร่างกายอื่นๆ
    • พัฒนาสมรรถภาพทางกาย: สมรรถภาพทางกายที่ดีมีผลในการทำกิจกรรมทั่วไป
  2. พัฒนาการเด็กด้านสติปัญญา
    • การเรียนรู้และการคิด: การพัฒนาทักษะการอ่าน, เขียน, คำนวณ, ทักษะวิทยาศาสตร์
    • ความสามารถในการแก้ปัญหา: การพัฒนาทักษะในการแก้ปัญหาและการคิดเชิงวิเคราะห์
  3. พัฒนาการเด็กด้านสังคม
    • การสร้างความสัมพันธ์: พัฒนาความสามารถในการสื่อสาร, การสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น, การทำงานร่วมกับกลุ่ม
    • ความรับผิดชอบ: การเรียนรู้และพัฒนาความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม
  4. พัฒนาการเด็กด้านอารมณ์
    • การรับรู้และจัดการอารมณ์: การเรียนรู้ทักษะการจัดการอารมณ์ การรับรู้ถึงอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น
    • ความเข้าใจต่อตนเอง: การพัฒนาความเข้าใจและยอมรับต่อตนเอง
  5. พัฒนาการเด็กด้านทางวิชาชีพ
    • การสนใจและความเชี่ยวชาญ: การพัฒนาความสนใจในสายงานหรือกิจกรรมที่ตนเองชื่นชอบ การพัฒนาทักษะทางอาชีพ
  6. พัฒนาการเด็กด้านสุขภาพและการเติบโต
    • การดูแลสุขภาพ: การเรียนรู้และพัฒนาการดูแลสุขภาพทั้งทางกายและทางจิต
    • การเติบโตทางร่างกายและจิต: การเติบโตเป็นบุคคลทั้งทางร่างกายและจิต

พัฒนาการเด็ก 0-2 ปี

ช่วงอายุ 0-2 ปี เป็นช่วงเวลาที่สำคัญในพัฒนาการเด็ก ควรให้โอกาสเด็กได้มีประสบการณ์และกิจกรรมที่ส่งเสริมการพัฒนาทั้งทางกายภาพและสติปัญญา พ่อและแม่ควรมีการสื่อสาร, การเล่นเกม, การร้องเพลง และกิจกรรมที่เหมาะสม เพื่อสร้างพื้นที่ในการเรียนรู้และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกของคุณ เด็กในช่วงนี้จะประสบกับการเรียนรู้และพัฒนาการเด็กทั้งด้านกายภาพ, สติปัญญา, สังคม และอารมณ์ ดังนี้

  1. พัฒนาการเด็กทางกายภาพ
    • การเคลื่อนไหว: เด็กจะเริ่มฝึกทักษะการเคลื่อนไหวเบื้องต้น เช่น การพลิกตัว, การก้ม, การนั่ง, การคลาน
    • การพัฒนากล้ามเนื้อ: กล้ามเนื้อของเด็กจะเริ่มพัฒนาเพื่อให้สามารถทำกิจกรรมทางกายพื้นฐานได้
  2. พัฒนาการเด็กทางสติปัญญา
    • การมองเห็นและได้ยิน: เด็กจะพัฒนาการมองเห็นและได้ยินที่เพิ่มขึ้น สามารถจับตามวัตถุและเสียงได้
    • การเรียนรู้จากสิ่งรอบตัว: เด็กจะสังเกตและเรียนรู้จากสิ่งที่อยู่รอบตัว เช่น การสังเกตหน้าคน, การมองหาแม่ และการสังเกตสิ่งของต่างๆ
  3. พัฒนาการเด็กทางสังคมและอารมณ์
    • การสร้างความสัมพันธ์: เด็กจะเริ่มสร้างความสัมพันธ์กับผู้ดูแล และรู้จักแสดงอารมณ์อย่างง่าย
    • การตอบสนองต่อสิ่งรอบตัว: เด็กจะเริ่มทำตัวต่อสิ่งรอบตัว เช่น การมองตาม, การยิ้ม, การใช้ท่าทาง
  4. พัฒนาการเด็กทางประสาท
    • การพัฒนาสมอง: สมองของเด็กจะเริ่มพัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็ว มีการสร้างการเชื่อมต่อทางประสาทที่สำคัญ
    • การพัฒนาการได้ยินและมองเห็น: เด็กจะเริ่มต้นให้ความสำคัญกับการได้ยินและมองเห็น การเรียนรู้จากสิ่งรอบตัวเป็นส่วนสำคัญ

พัฒนาการเด็ก 2-6 ปี

ช่วงอายุ 2-6 ปี เป็นช่วงเวลาที่สำคัญในพัฒนาการเด็กทั้งทางกายภาพ, สติปัญญา, สังคม และอารมณ์ การสนับสนุนและสร้างสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้เด็กมีโอกาสในการพัฒนาทุกรายละเอียดของการเรียนรู้และการเติบโต เช่น การให้โอกาสในกิจกรรมทางศิลปะ, การอ่าน, การเล่นกลางแจ้ง จะช่วยสนับสนุนพัฒนาการเด็กในช่วงนี้ได้ดีที่สุด นี่คือภาพรวมของพัฒนาการในช่วงนี้

  1. พัฒนาการเด็กทางกายภาพ
    • การเคลื่อนไหว: เด็กจะพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวมากขึ้น เช่น การวิ่ง, กระโดด, การใช้จักรยาน
    • การพัฒนาทักษะมือ: การใช้ปีกมือเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การวาด, การตัดและติด, การประพันธ์
  2. พัฒนาการเด็กทางสติปัญญา
    • พัฒนาภาษา: เด็กจะพัฒนาทักษะการสื่อสารทางภาษา โดยการเรียนรู้คำศัพท์, การสื่อสารในประโยค และการเรียนรู้ภาษาที่ทันสมัย
    • การแก้ปัญหาและความคิด: เริ่มพัฒนาการแก้ปัญหาพื้นฐาน, การจำแนก, การคิดทางบวก
  3. พัฒนาการเด็กทางสังคมและอารมณ์
    • การสร้างความสัมพันธ์: เด็กจะเริ่มสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อน, การติดต่อสังคม และการแบ่งปัน
    • การเรียนรู้ทางสังคม: เริ่มเรียนรู้ทักษะทางสังคม, เช่น การแบ่งปัน, การรับฟัง และการรับศรัทธา
  4. พัฒนาการเด็กทางอารมณ์
    • การรับรู้และแสดงอารมณ์: เด็กจะเริ่มรับรู้ถึงอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น มีการแสดงอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม
    • การจัดการอารมณ์: เริ่มพัฒนาทักษะในการจัดการอารมณ์ การทนต่อความรู้สึกที่เกิดขึ้น
  5. พัฒนาการเด็กทางจิตวิทยา
    • การสร้างเสริมความเข้าใจต่อสัญชาตญาณ: เริ่มเข้าใจและให้ความสำคัญกับสัญชาตญาณต่างๆ เช่น สี, เสียง, กลิ่น, รส
    • การแสดงความสนใจในการเรียนรู้: เด็กจะพัฒนาความสนใจในการทดลอง, การสังเกต, การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์

พัฒนาการเด็ก 6-12 ปี

ช่วงอายุ 6-12 ปี เรียกว่าช่วงเด็กประถมศึกษา เป็นช่วงเวลาที่สำคัญในพัฒนาการเด็กทั้งทางกายภาพ, สติปัญญา, สังคม, และอารมณ์ การสนับสนุนในช่วงนี้ควรเน้นการพัฒนาทักษะทางวิชาการ, การสังคมสังสรรค์, การพัฒนาทางศิลปะและกีฬา เพื่อเสริมสร้างพื้นที่ในการเรียนรู้และการเติบโตของเด็กในทุกๆ ด้านของพัฒนาการ นี่คือภาพรวมของพัฒนาการในช่วงนี้

  1. พัฒนาการเด็กทางกายภาพ
    • การพัฒนาทักษะทางกีฬา: เด็กจะมีโอกาสในการเรียนรู้และปฏิบัติทักษะทางกีฬาต่างๆ และเริ่มสนใจในกิจกรรมทางกาย
    • การเรียนรู้ทางทัศนศึกษา: เด็กจะเริ่มทำความรู้จักโลกรอบตัวมากขึ้น มีความสนใจในวิทยาศาสตร์, สังคม, ประวัติศาสตร์
  2. พัฒนาการเด็กทางสติปัญญา
    • การพัฒนาทักษะทางการอ่านและเขียน: เด็กจะมีการเป็นลำดับทางการอ่านและเขียนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
    • การพัฒนาทักษะคำนวณ: เริ่มทำความเข้าใจและใช้ทักษะคำนวณทางคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน
  3. พัฒนาการเด็กทางสังคมและอารมณ์
    • การสร้างความสัมพันธ์สังคม: เด็กจะมีความสนใจในการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อน การทำงานร่วมกับผู้อื่นและการเรียนรู้จากการจัดการความขัดแย้ง
    • การพัฒนาทักษะการสื่อสาร: เด็กจะพัฒนาทักษะการพูด, การฟัง, การเขียนที่เพื่อให้สื่อสารได้เข้าใจ
  4. พัฒนาการเด็กทางอารมณ์
    • การรับรู้และจัดการอารมณ์: เด็กจะเริ่มรับรู้ถึงอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น รวมถึงการเรียนรู้ทักษะการจัดการอารมณ์
    • การพัฒนาสมาธิและการจัดการสมอง: เด็กจะมีความสนใจในการทดลองและพัฒนาทักษะสมองเพื่อทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  5. พัฒนาการเด็กทางศิลปะและกีฬา
    • การทดลองทำศิลปะ: เด็กจะมีโอกาสทดลองการทำศิลปะและแสดงความคิดสร้างสรรค์
    • การเรียนรู้ทางดนตรีและการแสดง: เริ่มมีความสนใจในการเรียนดนตรี, การเล่นเครื่องดนตรี, การแสดง

พัฒนาการเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป

ช่วงอายุ 12 ปีขึ้นไปเรียกว่าช่วงวัยรุ่นหรือวัยหนุ่มสาว นี่เป็นช่วงที่เด็กเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นและมีการพัฒนาทั้งทางกายภาพ, สติปัญญา, สังคม และอารมณ์ การสนับสนุนในช่วงนี้ควรเน้นการส่งเสริมทักษะการวิเคราะห์, การตัดสินใจ, การสร้างความรับผิดชอบ และการสนับสนุนในการทดลองกิจกรรมที่สร้างสรรค์และทำความรู้จักตนเองได้มากขึ้น การสร้างพื้นที่ให้เด็กมีโอกาสที่จะทดลองและพัฒนาทักษะต่างๆ จะช่วยให้พัฒนาการของพวกเขาเติบโตไปในทางที่ดีที่สุด นี่คือภาพรวมของพัฒนาการเด็กในช่วงนี้

  1. พัฒนาการเด็กทางกายภาพ
    • การเจริญเติบโตทางร่างกาย: เด็กจะเริ่มประสบกับการเจริญเติบโตทางร่างกาย มีการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนและมีพัสดุวิเศษเพศที่ปรากฏ
    • การพัฒนาทักษะทางกีฬา: มีการสนใจในกีฬาและกิจกรรมทางกายอื่นๆ สนับสนุนการทำกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ
  2. พัฒนาการเด็กทางสติปัญญา
    • การเรียนรู้และการศึกษา: มีการเน้นในการเรียนรู้ทางวิชาการ, การสอบและการเลือกเรียนต่อ
    • การสนใจในสาขาทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และวิชาศิลปะ: เด็กมีความสนใจและติดตามความรู้ในสาขาที่สนใจ
  3. พัฒนาการเด็กทางสังคมและอารมณ์
    • การสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเพื่อน: เด็กจะมีความสนใจในการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อน และการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม
    • การพัฒนาทักษะการสื่อสาร: การพัฒนาทักษะการสนทนา การใช้สื่อสารในสังคมและการเรียนรู้จากประสบการณ์ทางสังคม
  4. พัฒนาการเด็กทางอารมณ์
    • การรับรู้และจัดการอารมณ์: เด็กจะต้องจัดการกับอารมณ์ที่ซับซ้อน และเรียนรู้ทักษะในการจัดการความเครียดและความกดดัน
    • การพัฒนาความรับผิดชอบ: การเรียนรู้ความรับผิดชอบต่อตนเองและการรับผิดชอบต่อสังคม
  5. พัฒนาการเด็กทางสังคมและการส่งเสริมสุขภาพจิต
    • การทดลองและการค้นหาตนเอง: เด็กจะมีความสนใจในการทดลองและค้นหาตนเอง ทั้งในเรื่องอาชีพและความชอบ
  6. พัฒนาการเด็กทางอาชีพ
    • การทดลองอาชีพ: เริ่มมีการสนใจในการทดลองอาชีพหรือสายงานที่สนใจ
    • การกำหนดเป้าหมายอาชีพ: การเริ่มต้นกำหนดเป้าหมายและการวางแผนสำหรับอนาคต

บทสรุป

พัฒนาการเด็กแต่ละวัยมีลักษณะเฉพาะในแต่ละคน พ่อแม่ควรให้โอกาสเด็กได้มีประสบการณ์และทำกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อสนับสนุนพัฒนาการเด็กทั้งทางกายภาพและสติปัญญา รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการเรียนรู้และการเจริญเติบโตของเด็กตามที่เหมาะสม เพื่อให้เด็กๆ เติบโตเป็นคนที่มีคุณภาพในทุกด้าน

ขอบคุณแหล่งอ้างอิง : choc.org/twinkl.co.th/cpdonline.co.uk

ติดตามเรื่องราวอื่นๆ และเกมส์ที่น่าสนใจได้ที่ : doodido.com