ออทิสติกเทียม มักพบในเด็กอายุน้อยกว่า 3 ปีที่ถูกเลี้ยงดูอย่างปล่อยปละละเลยด้วยการให้ดูการ์ตูนหรือการให้เล่นมือถือและแท็บเล็ต ทำให้เด็กขาดการถูกกระตุ้นให้สื่อสาร ไม่มีปฏิสัมพันธ์หรือไม่ได้ทำกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการเท่าที่ควร ส่งผลให้เด็กมีพฤติกรรมออทิสติกเทียมคล้ายเป็นโรคออทิสติก เช่น ไม่ยอมสบตา ไม่ชอบมองหน้าคนอื่น มีปัญหาในการสื่อสารและมีพัฒนาการช้า หากไม่ปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงดูและคอยสังเกตลูก อาจส่งผลให้เกิดอาการออทิสติกเทียมได้
ออทิสติกเทียม คืออะไร
ภาวะออทิสติกเทียม (Autistic Spectrum) หรือที่เรียกว่า สเปกตรัมออทิสติก (Autism Spectrum) เป็นภาวะทางจิตใจที่มีลักษณะพฤติกรรมที่หลากหลาย โดยมีความแตกต่างในการปรากฏตัวระหว่างบุคคลที่มีอาการออทิสติก ไม่มีลักษณะที่คงที่ซึ่งทำให้เรียกว่า “สเปกตรัม” หรือ “สเปกตรัมออทิสติก” เพื่อแสดงถึงการแตกต่างความรุนแรงของอาการต่างๆ ที่แต่ละคนแสดงออกมาได้ บุคคลที่มีออทิสติกเทียมมักจะแสดงพฤติกรรมทางสังคมและการสื่อสารที่มีความแตกต่างจากปกติ รวมถึงอาการ repetitive behaviors ที่มีการทำซ้ำๆ หรือเคลื่อนไหวที่ไม่ปกติ เช่น การกระทำที่ซ้ำๆ การโน้มน้าวต่อวัตถุบางอย่าง เป็นต้น
ออทิสติกเทียมมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกันไปตามบุคคล บางคนอาจมีอาการเล็กน้อยและสามารถทำกิจกรรมปกติได้ ในขณะที่บางคนก็อาจมีความรุนแรงมากขึ้นและต้องการการสนับสนุนทางการแพทย์และการศึกษาที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น การตรวจวินิจฉัยและการประเมินเป็นสิ่งที่สำคัญในการจัดการและสนับสนุนบุคคลที่มีออทิสติกเทียม
อาการของเด็กที่เป็นออทิสติกเทียม
ภาวะออทิสติกเทียมเป็นลักษณะพฤติกรรมทางสังคมและการสื่อสารที่แตกต่างจากพัฒนาการปกติ อาการของเด็กที่เป็นออทิสติกเทียมมีความหลากหลายและมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกันไป การวินิจฉัยออทิสติกเทียมมักจะเป็นไปพร้อมกับการประเมินจากทีมที่ประกอบด้วยแพทย์, นักจิตวิทยา และผู้เชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาเด็ก การสนับสนุนและการศึกษาที่เฉพาะเจาะจงสามารถช่วยเด็กที่เป็นออทิสติกเทียม ในการพัฒนาทักษะและเตรียมความพร้อมในชีวิตประจำวัน ซึ่งบางอาการที่อาจปรากฏบ่อยมากในกลุ่มนี้ได้แก่
- ข้อจำกัดทางสังคมและการสื่อสาร
- เด็กที่มีภาวะออทิสติกเทียมไม่สามารถเข้าใจและตอบสนองต่อทัศนคติทางสังคม
- ขาดทักษะในการสื่อสารทั้งในด้านการใช้ภาษาและภาษามือ
- เล่นแบบไม่มีเพื่อนหรือความสนใจทางสังคมที่จำกัด
- ท่าทางและการเคลื่อนไหว
- เด็กที่มีภาวะออทิสติกเทียมมีท่าทางที่ไม่ปกติ เคลื่อนไหวที่ไม่สม่ำเสมอหรือท่าทางที่ซ้ำๆ
- จะสนใจและมุ่งมั่นในการทำกิจกรรมที่ซ้ำๆ
- ข้อจำกัดทางอารมณ์
- เด็กที่มีภาวะออทิสติกเทียมมีปัญหาในการจัดการอารมณ์
- ไม่สามารถทำความเข้าใจและแสดงอารมณ์ของผู้อื่น
- มีความสนใจทางอารมณ์ที่ไม่เหมือนกับคนปกติ
- การเรียนรู้และทักษะพิเศษ
- เด็กที่มีภาวะออทิสติกเทียมมีทักษะพิเศษที่พัฒนาได้เป็นพิเศษ เช่น ทักษะทางด้านการวาด, คณิตศาสตร์ หรือดนตรี
- เด็กที่มีภาวะออทิสติกเทียมมีความสามารถในการเรียนรู้ที่โดดเด่นในบางเรื่อง
ไม่มีวิธีรักษาที่สามารถทำให้ภาวะออทิสติกเทียมนี้หายไปได้แบบสมบูรณ์ แต่มีการสนับสนุนและการปรับปรุงทักษะทางสังคมและการสื่อสารที่สามารถช่วยลดอาการและเพิ่มความสามารถในชีวิตประจำวันของผู้ที่เป็นออทิสติกเทียมได้มาก นอกจากนี้การให้การรักษาออทิสติกเทียมมักจะเน้นที่การทำงานร่วมกับครอบครัวและการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม นักจิตวิทยา, นักการศึกษาพิเศษ, แพทย์ และผู้เชี่ยวชาญในด้านพัฒนาเด็กอาจให้การประเมินและตรวจวินิจฉัยเพื่อทราบถึงความต้องการของบุคคลนั้นๆ และกำหนดแผนการรักษาที่เหมาะสม บางครั้งการรักษาอาจประกอบด้วย
- การฝึกทักษะทางสังคมและการสื่อสาร
- ฝึกทักษะการสื่อสารภาษาพูดและการใช้ภาษามือให้เด็กที่มีภาวะออทิสติกเทียม
- การเรียนรู้ทักษะการสื่อสารทางอารมณ์
- การทำงานร่วมกับครอบครัว
- การให้คำปรึกษาและการฝึกทักษะให้เด็กที่มีภาวะออทิสติกเทียมสามารถนำไปใช้ในบ้าน
- การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเรียนรู้และพัฒนาสำหรับเด็กที่มีภาวะออทิสติกเทียม
- การสนับสนุนการเรียนรู้
- การใช้เทคนิคการสอนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีภาวะออทิสติกเทียม
- การให้การสนับสนุนการเรียนรู้ที่เฉพาะเจาะจง
- การจัดการพฤติกรรม
- การใช้เทคนิคการจัดการพฤติกรรมเด็กที่มีภาวะออทิสติกเทียมที่มีประสิทธิภาพ
- การสนับสนุนการพัฒนาทักษะสมาธิและการปรับตัว
- การให้บริการทางการแพทย์:
- การตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคที่สามารถทำให้เกิดอาการทางร่างกายที่มีผลกระทบต่อพฤติกรรมออทิสติกเทียม
ความแตกต่างของออทิสติกเทียมและออทิสแท้
ออทิสติกเทียมและออทิสแท้ เป็นคำที่ใช้บ่งบอกถึงความแตกต่างในรูปแบบของออทิสติก การแบ่งแยกเพื่อที่จะนำเสนอความหลากหลายที่มีอยู่ในกลุ่มของออทิสติก และเข้าใจว่าทุกรายนั้นมีลักษณะที่เป็นพิเศษและมีความแตกต่างในการแสดงพฤติกรรม และความสามารถทางสังคม เนื่องจากออทิสติกเทียมอาจมีลักษณะที่แตกต่างจากออทิสแท้ในบางประการ ดังนี้
- การแสดงอาการ
- ออทิสติกเทียม: บางครั้งอาจมีลักษณะที่ไม่ชัดเจนหรือไม่ตรงกับลักษณะที่ได้รับการระบุไว้ในเกณฑ์ออทิสติกแบบพิเศษ
- ออทิสแท้: มีลักษณะทางการพฤติกรรมที่ตรงกับเกณฑ์ที่ถูกระบุไว้และมักมีความรุนแรงมากขึ้น
- ระดับความรุนแรง
- ออทิสติกเทียม: มีความแตกต่างในระดับความรุนแรงของอาการ
- ออทิสแท้: มีลักษณะที่มักมีความรุนแรงมากขึ้นและมีผลกระทบต่อการทำกิจกรรมประจำวันที่สูง
- การพัฒนาทักษะ
- ออทิสติกเทียม: บางครั้งสามารถพัฒนาทักษะที่มีประสิทธิภาพและอาจมีทักษะพิเศษที่เด่น
- ออทิสแท้: มีทักษะทางการเรียนรู้ที่มีความหลากหลายและบางครั้งมีความจำเป็นที่จะต้องใช้การสนับสนุนเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคมและการสื่อสาร
- การเรียนรู้และทักษะ
- ออทิสติกเทียม: บางครั้งสามารถมีทักษะทางการเรียนรู้ที่โดดเด่น
- ออทิสแท้: มักมีทักษะทางการเรียนรู้ที่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้การสนับสนุนในการศึกษา
เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เป็นออทิสติกเทียม
สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรทำเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดออทิสติกเทียม หรือสนับสนุนพัฒนาการที่เพื่อนร่วมวัยได้รับการสนับสนุนดีๆ ได้แก่
- ส่งเสริมพัฒนาการทางสังคม
- สร้างโอกาสให้ลูกได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมวัย
- ส่งเสริมทักษะการสื่อสารและสังคมเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดออทิสติกเทียม
- สนับสนุนการเรียนรู้
- ส่งเสริมการทำกิจกรรมทางความคิด เช่น การเล่นเกมที่กระตุ้นสมอง
- สร้างแวดล้อมการเรียนรู้ที่เสริมสร้างและน่าสนใจ
- การดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ
- ส่งเสริมการออกกำลังกายและการรักษาโภชนาการที่ดี
- สนับสนุนการพัฒนาทักษะในการจัดการอารมณ์
- การให้สนับสนุนตั้งแต่เด็กน้อย
- การติดตามพัฒนาการของลูก
- การตรวจสุขภาพประจำปี
- การสร้างสภาพแวดล้อมที่มีส่วนร่วม
- สร้างระบบการสนับสนุนที่ทำงานร่วมกับครอบครัว
- สร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะทางสังคม
- การตอบสนองต่อความต้องการของลูก
- การสนับสนุนความสนใจทางการเรียนรู้ที่ลูกมี
- การเสริมสร้างทักษะทางสังคมที่ต้องการ
- การประสานงานกับทีมที่ดูแลสุขภาพ
- การติดต่อกับแพทย์, พยาบาล, ผู้เชี่ยวชาญทางการพัฒนาเด็ก
- การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
บทสรุป
การรักษาออทิสติกเทียมควรถูกปรับให้เหมาะสมกับความต้องการและความแตกต่างของแต่ละบุคคล การทำงานร่วมกับทีมที่มีความเชี่ยวชาญทางต่างๆ สามารถช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การสนับสนุนและการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับพัฒนาการของลูกเป็นสิ่งที่สำคัญ การเลี้ยงลูกอย่างดีและสนับสนุนพัฒนาการอย่างเต็มที่ สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นออทิสติกเทียมและให้ลูกมีพื้นที่ในการเติบโตและมีพัฒนาการที่ดีที่สุด
ขอบคุณแหล่งอ้างอิง : drakeinstitute.com/ncbi.nlm.nih.gov/ptsduk.org
ติดตามเรื่องราวอื่นๆ และเกมส์ที่น่าสนใจได้ที่ : doodido.com