“ปัญหาท้องผูกระหว่างตั้งครรภ์” ที่คุณแม่อาจเจอในขณะที่ท้อง

WM

คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแปรรูป เพราะทำให้มีความเสี่ยงท้องผูกมากขึ้น

ปัญหาท้องผูกระหว่างตั้งครรภ์ เป็นอีกหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในคุณแม่ตั้งครรภ์ เป็นเรื่องปกติที่พบได้ถึง 50% ของหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งอาการนี้อาจเกิดขึ้นในช่วงหนึ่งของการตั้งครรภ์ก็ได้ ทำให้ว่าที่คุณแม่ต้องรู้สึกไม่สบายตัว และปัญหาท้องผูกนี้ยังส่งผลถึงอารมณ์และความรู้สึกของคุณแม่อีกด้วย  เราจะพามาดูเคล็ดลับที่ช่วยทำให้อาการท้องผูกทุเลาลงได้มาฝากค่ะ

ต้องบอกว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์เกิดอาการท้องผูกค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสูง ซึ่งทำให้เอ็นและกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการคลอดลูกหย่อนตัว เพื่อจะได้คลอดลูกง่าย แต่ก็มีผลข้างเคียงคือทำให้กล้ามเนื้อระบบทางเดินอาหารหย่อนตัวลงไปด้วย และขับไล่เศษอาหารออกจากร่างกายได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก การเปลี่ยนแปลงเรื่องอาหาร การคลื่นไส้อาเจียน และระบบการไหลเวียนเลือดในร่างกายช่วงตั้งครรภ์แย่ลง สามารถส่งผลกระทบต่อการทำงานของลำไส้ได้ด้วยเช่นกัน

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/cparks-1593059/

เพราะเหตุใดคุณแม่ตั้งครรภ์จึงท้องผูกบ่อยๆ ?
ต้องบอกว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์เกิดอาการท้องผูกค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสูง ซึ่งทำให้เอ็นและกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการคลอดลูกหย่อนตัว เพื่อจะได้คลอดลูกง่าย แต่ก็มีผลข้างเคียงคือทำให้กล้ามเนื้อระบบทางเดินอาหารหย่อนตัวลงไปด้วย และขับไล่เศษอาหารออกจากร่างกายได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก

  • การเปลี่ยนแปลงเรื่องอาหาร การคลื่นไส้อาเจียน และระบบการไหลเวียนเลือดในร่างกายช่วงตั้งครรภ์แย่ลง สามารถส่งผลกระทบต่อการทำงานของลำไส้ได้ด้วยเช่นกัน
  • น้ำหนักของลูกน้อยที่เพิ่มมากขึ้นภายในมดลูกจะไปกดทับลำไส้ ทำให้มีพื้นที่ในระบบทางเดินอาหารน้อยลง จึงลดการบีบตัวของลำไส้ โดยการที่ลำไส้บีบตัวน้อยลงเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยในช่วงตั้งครรภ์
  • คุณแม่บางคนมีแนวโน้มเกิดท้องผูกได้มากเมื่อได้รับอาหารบางอย่าง เช่น นม ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ชีส โปรตีนเนื้อแดง เนื่องจากโปรตีนย่อยยากกว่าไฟเบอร์จากผักและผลไม้ รวมถึงธัญพืช นอกจากนี้ คุณแม่หลายคนเปลี่ยนอาหารระหว่างตั้งครรภ์จึงอาจท้องผูกง่ายขึ้น รวมถึงการรับประทานธาตุเหล็ก ซึ่งทำให้เกิดอาการท้องผูกอันเป็นอาการข้างเคียง ไม่เพียงเท่านั้น การรับประทานธาตุเหล็ก ยังทำให้อุจจาระมีสีดำด้วย
  • คุณแม่ตั้งครรภ์บางคนไม่สามารถรับประทานธาตุเหล็กได้ เพราะมีอาการท้องผูกขั้นรุนแรง โดยอาจเลี่ยงไปรับประทานอาหารชนิดอื่นแทน เช่น ผักใบเขียว เนื้อสัตว์ ไข่ ถั่วที่เป็นฝัก และธัญพืช
  • อาการท้องผูกนับว่าเป็นเรื่องปกติที่พบในผู้หญิงที่ใช้ยาระบายเป็นประจำหรือใช้ยาระบายเกินขนาด เช่น คนที่ใช้ยาระบายเพื่อลดน้ำหนัก ซึ่งทำให้ระบบลำไส้เสียสมดุล นอกจากนี้ การใช้ยาระบายเป็นประจำจะทำให้ลำไส้ดื้อต่อสัญญาณร่างกาย และจะขับถ่ายเมื่อได้ยาเข้าไปกระตุ้นเท่านั้น
WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/wowwandee-2293492/

วิธีแก้ปัญหาท้องผูกระหว่างการตั้งครรภ์
– รับประทานอาหารที่มีเส้นใยไฟเบอร์ โดยจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ แบบละลายน้ำได้ และแบบละลายน้ำไม่ได้ ซึ่งแบบที่ละลายน้ำได้จะละลายอยู่ในระบบทางเดินอาหาร ถูกล้อมรอบด้วยโมเลกุลน้ำ และฟอร์มตัวเป็นเจลแบบนุ่มนิ่มทำให้เคลื่อนผ่านระบบทางเดินอาหารได้ดี ตัวอย่างเส้นใยที่ละลายน้ำได้ เช่น มันฝรั่ง ฟักทอง สำหรับเส้นใยที่ไม่ละลายน้ำ จะช่วยสร้างเนื้ออุจจาระในการขับถ่าย เช่น ข้าวโพด แครอท เป็นต้น
– ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว จะช่วยป้องกันและลดอาการท้องผูกได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/stocksnap-894430/

-การออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น ว่ายน้ำ เดิน โยคะหรือออกกำลังกายในยิมที่สามารถทำได้ระหว่างตั้งครรภ์
-คุณแม่บางคนต้องการใช้ยา เพื่อให้อุจจาระนุ่มและขับออกจากลำไส้ได้ดี ซึ่งคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกร ก่อนเลือกใช้ยา เพื่อความปลอดภัยระหว่างการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะยาบางชนิดที่เป็นยาระบายแบบรุนแรง
-การใช้ยาสวนทางทวารหนักหรือการใช้ยาเหน็บที่กระตุ้นให้ถ่ายท้อง หากจำเป็นต้องใช้ควรได้รับอนุญาตจากแพทย์ เพราะการใช้ยานอกเหนือคำสั่งแพทย์เป็นเรื่องสำคัญมาก และนอกจากยาแล้วยังมีโรคบางอย่างที่ทำให้ท้องผูกระหว่างตั้งครรภ์ เช่น เบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ คลื่นไส้อาเจียนระหว่างตั้งครรภ์ขั้นรุนแรง ริดสีดวงทวาร ไฮโปไทรอยด์ เป็นต้น

หากคุณแม่มีอาการท้องผูกขณะที่ตั้งครรภ์อยู่ก็อย่างกังวลใจไปนะคะ รับประทานผัก ผลไม้สดเพื่อเป็นตัวช่วยในการแก้ปัญหาท้องผูก DooDiDo อย่าลืมว่าต้องใส่ใจเรื่องความสะอาดก่อนทานเสมอนะคะ หลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่านกระบวนการการแปรรูป เพราะทำให้มีความเสี่ยงท้องผูกมากขึ้นนั่นเองค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.huggies.co.th