ข้อควรรู้!! สุนัข 4 ประเภท ที่มักประสบกับปัญหาโรคผิวหนัง

WM

ลักษณะของสุนัขบางสายพันธุ์ ทำให้เกิดปัญหาผิวหนังได้ง่าย

การดูแลสุนัขที่เราเลี้ยงนั้น หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องง่าย แต่ในความเป็นจริงมันก็ไม่ได้ง่ายอย่างคิดเลยค่ะ ยิ่งถ้าสุนัขบางสายพันธุ์แล้ว การดูแลนั้นก็ค่อนข้างเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรค่ะ และอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพที่มักจะพบในสุนัขก็คือ ปัญหาของโรคผิวหนังนั่นเองค่ะ ซึ่งมีหลายปัจจัยเลยค่ะที่ทำให้น้องเป็นโรคผิวหนังได้ ใครที่สงสัยว่าปัญหาโรคผิวหนังนี้เกิดขึ้นกับสุนัขประเภทไหน วันนี้เรามีคำตอบมาบอกค่ะ

มีน้องหมาหลากหลายสายพันธุ์ที่มีลักษณะผิวหนังที่บอบบาง แพ้ง่ายและพบปัญหาเกี่ยกับผิวหนัง อย่างเช่น โกลเด้นรีทีฟเวอร์ตัวโตแต่มีโรคประจำสายพันธุ์เกี่ยวกับผิวหนัง, เวสตี้ เทอร์เรียร์ ติดอันดับ 1 สายพันธุ์ที่มักมีปัญหาเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้มากที่สุด น้องหมาหน้าย่น อิงลิช บูลด็อก, ปั๊ก, ชาเป่ย รอยย่นของน้องหมาเป็นเหมือนจุดอับที่มักเกิดความอับชื้น ทำให้เชื้อแบคทีเรีย เชื้อยีสต์ต่างๆ เจริญเติบโตจนกลายเป็นโรคผิวหนัง และเกิดกลิ่นเหม็นได้ง่ายๆ รวมถึงน้องหมาที่มีขนเป็นลอนหนาอย่า ค็อกเกอร์ สแปเนียล และสายพันธุ์อื่นๆ ก็พบปัญหาเรื่องผิวหนังเช่นกันค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/ivanovgood-1982503/

ตำแหน่งที่มักพบปัญหาผิวหนังอักเสบในน้องหมา ได้แก่ รอยย่นบริเวณใบหน้า ริมฝีปาก คอ หาง และบริเวณรอบๆ อวัยวะเพศของสุนัขเพศเมียนอกจากนี้เรายังพบปัญหาผิวหนังอักเสบในน้องหมาที่มีลักษณะหางม้วน น้องหมาอ้วน ซึ่งในน้องหมาที่มีปัญหาผิวหนังอักเสบ ผู้เลี้ยงจะสามารถสังเกตุได้ง่ายๆ โดยน้องหมาจะแสดงอาการคัน พยายามเกาบริเวณที่เป็น ขนร่วง ผิวหนังแดง เปียกชื้น มันเยิ้ม แฉะและมีกลิ่นเหม็นฯ

ซึ่งก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า สาเหตุที่น้องหมาเป็นโรคผิวหนังนอกจากจะมาจากกรรมพันธ์ุแล้ว ส่วนใหญ่มักมาจากการที่ผู้เลี้ยงละเลยการดูแลความสะอาดของร่างกายน้องหมา ปล่อยให้น้องหมามีร่างกายสกปรกจนทำให้เกิดความหมักหมม และเมื่อผสมกับความอับชื้นทำให้เชื้อแบคทีเรียและเชื้อยีสต์เกิดการเจริญเติบโตจนพัฒนากลายเป็นโรคผิวหนังอักเสบ เป็นหนอง รวมถึงเกิดการเสียดสีกันเองของผิวหนังบริเวณรอยพับย่นในน้องหมาที่มีผิวหนังยับบ่นก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบที่บริเวณผิวหนังได้เช่นกันค่ะ สุนัขบางสายพันธุ์มีขั้นตอนการดูแลขนที่ยากกว่าปกติ รวมถึงลักษณะทางสายพันธุ์บางอย่างก็ทำให้เกิดปัญหาผิวหนังได้ง่ายด้วยเช่นกัน

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/stocksnap-894430/

1. สุนัขที่มีขนยาวต่อเนื่องไม่พลัดขน
อย่างเช่นสุนัขสายพันธุ์ชิสุหรือยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย สุนัขในกลุ่มนี้จะไม่ค่อยมีการพลัดขนและขนจะยาวขึ้นเรื่อยๆ ผู้เลี้ยงจำเป็นที่จะต้องตัดแต่งหรือแปรงขนให้อยู่เสมอ ไม่อย่างนั้นก็จะเกิดปัญหาผิวหนังได้ง่ายทั้งเส้นขนพันกัน เห็บหมัดทั้งหลายและการอับชื้น

2.สุนัขที่มีผิวหนังเป็นสีขาวอมชมพู
อย่างเช่นสุนัขบูล เทอร์เรียนี่เป็นปัญหาทางด้านสายพันธุ์ ผิวสีขาวอมชมพูจัดเป็นสีผิวที่บอบบางแพ้ง่าย ลองสังเกตดูว่าเวลาพาออกไปเดินเล่นกลางแดดนิดๆ หน่อยๆ บางครั้งก็มีริ้วแดงๆ ขึ้นแล้ว

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/pitsch-3124612/

3. สุนัขหน้าย่นผิวย่น
อย่างเช่นสุนัขพันธุ์ปั๊กหรือเชาเชา สาเหตุก็เป็นเพราะผิวหนังที่ย่นซ้อนกันเนี่ยแหละทำให้เกิดการอับชื้นหมักหมมได้ง่าย ไหนจะยังมีพวกปรสิตที่เข้าชอบไปแอบอีก

4. สุนัขสายพันธุ์ที่ไม่มีขน
อย่างเช่นสุนัขพันธุ์โซโลหรือไชนีส เครสเต็ด ด้วยความที่พวกมันไม่มีขนนั่นแหละจึงไม่มีเกราะป้องกันทางธรรมชาติทำให้ผิวถูกทำร้ายได้ง่ายนั่นเอง

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/liilxliil-118078/

วิธีการดูแลน้องหมาให้ห่างไกลโรคต่างๆ เกี่ยวกับผิวหนัง
สามารถทำได้ง่ายมากๆ ค่ะเพียงแค่ผู้เลี้ยงต้องหมั่นตรวจเช็คผิวหนังสม่ำเสมอจะได้เตรียมรับมือรักษาโรคผิวหนังที่กำลังเกิดขึ้นกับน้องหมาได้อย่างทันท่วงที รักษาความสะอาดตัวน้องหมาด้วยการอาบน้ำให้น้องหมาอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เช็ดตัวเป่าขนให้แห้ง ซับน้ำตามร่องรอยย่นในน้องหมาผิวยับย่นในน้องหมาที่มีผิวหนังยับย่น เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนที่มีคุณภาพได้มาตราฐาน ผ่านการรับรอง ปราศจาคสารระคายเคือง และอ่อนโยนกับผิวหนังบริเวณใบหน้าและดวงตาของน้องหมา ให้อาหารที่มีส่วนผสมบำรุงผิวหนัง เช่น อาหารที่มีส่วนผสมของ กรดไขมันโอเมก้า 3,6 DHA ที่จะช่วยบำรุงผิวหนังชุ่มชื้น เบต้าแคโรทีน ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง ทำให้น้องหมามีผิวหนังที่แข็งแรง

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับคำตอบที่เกี่ยวกับโรคผิวหนังในสุนัขที่หลายคนสงสัย DooDiDo ขอแนะนำให้เจ้าของควรหมั่นอาบน้ำ ทำความสะอาดและคอยสังเกตพฤติกรรมของสุนัขในบ้าน หากพบว่าสุนัขมีอาการของโรคผิวหนังควรรีบพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อการรักษาให้หายในเวลาอันรวดเร็วค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: https://chimlang.com, https://www.fit1bkk.com