ข้อควรระวัง!! เครื่องดื่มอะไรบ้างที่ต้องห้ามไม่ควรทานคู่กับยา

WM

หากใครที่รู้ตัวว่าเป็นคนที่มีโรคประจำตัว ควรจะดื่มน้ำเปล่านั้นก็จะดีที่สุดค่ะ

โดยปกติแล้วหากใครที่มักจะป่วยบ่อยๆ หรือมีโรคประจำตัวที่จำเป็นจะต้องทานยาอยู่บ่อยๆ นั้นยังไงก็จะต้องพกน้ำดื่มไปไหนมาไหนด้วยใช่มั้ยล่ะคะ เพราะเมื่อถึงเวลาทานยาหรือเกิดรู้สึกไม่สบายขึ้นก็สาได้สามารถทานยาได้ทันที แต่ทุกคนเคยสงสัยกันบ้างมั้ยล่ะคะว่า ในการทานยานั้นที่ต้องดื่มน้ำเข้าไปนั้นจำเป็นมั้ยที่จะต้องเป็นน้ำเปล่า? แน่นอนว่าถ้าหากไม่ใช่ยาน้ำในการทานยาเม็ดยังไงก็จะต้องมีน้ำ แต่ถ้าหากกรณีฉุกเฉินที่ไม่มีน้ำเปล่า แต่มีเครื่องดื่มอื่นแทนแล้วจะเป็นอะไรมั้ยนะ?

เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย ต้องกินยาตามแพทย์สั่งให้ครบ สิ่งแรกที่ต้องนึกถึง คือ น้ำ ซึ่งก็คือน้ำเปล่าเท่านั้น ไม่ควรเป็นเครื่องดื่มอื่น เพราะมีผลกระทบต่อสุขภาพ แถมยังอาจส่งผลร้ายแรงถึงชีวิตได้ มาติดตามสิว่าเครื่องดื่มต้องห้าม มีอะไรกันบ้าง

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/pezibear-526143/
  1. นม

นมเป็นเครื่องดื่มที่ดี เป็นแหล่งแคลเซียมที่ช่วยสร้างกระดูกลูกได้ แต่เมื่อใดที่แม่ๆ หรือคนทั่วไปเจ็บป่วย ต้องกินยา นมก็กลายเป็นเครื่องดื่มต้องห้ามทันที เพราะนมมีแคลเซียม โปรตีน เหล็กที่ไปจับตัวยาบางชนิด เช่น ยาฆ่าเชื้อ ยาปฏิชีวนะ ยาลดกรด ทำให้ไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ ยาก็จะหมดประสิทธิภาพ  ไม่ออกฤทธิ์ และไม่หายจากโรคค่ะ

  1. กาแฟ

ปกติกาแฟก็มีคาเฟอีนที่ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาทอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อเผลอไปกินร่วมกับยาบางชนิด เช่น ยาแก้หวัด ยาขยายหลอดลม ก็จะยิ่งเป็นอันตราย จะยิ่งทำให้เกิดอาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ เป็นมากๆ เข้าก็อาจเกิดอาการช็อกได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.pexels.com/th-th/@wdnet
  1. น้ำผลไม้

น้ำผลไม้จะต่อต้านการดูดซึมของยาที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง ความดันโลหิตสูง หัวใจล้มเหลว และโรคภูมิแพ้ต่างๆ ซึ่งน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอย่างน้ำส้ม น้ำมะนาว มีผลทำให้กรดในกระเพาะอาหารเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีปวดท้องมากขึ้น

  1. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ผู้ที่อาการแฮงก์ ห้ามกินยาแก้ปวดอย่างแอสไพริน อาจทำให้เป็นแผลในกระเพาะ ผู้ที่กินยาขยายหลอดเลือด ก็จะยิ่งทำให้หลอดเลือดขยายตัวมากไป จนทำให้มึน เป็นลม หมดสติ ผู้ที่ใช้ยาฆ่าเชื้อ ถ้ากินยาด้วยก็อาจทำให้ใจสั่นเต้นเร็วกว่าปกติ จะเวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน ผู้ที่ต้องกินยาลดน้ำตาล ก็จะไปทำลายตับ ยับยั้งการสร้างกลูโคส ทำให้หน้ามืดใจสั่น หมดสติ หรือถ้ากินยาพาราที่ออกฤทธิ์ต่อตับด้วยแล้ว ยิ่งมีโอกาสสูงที่จะเป็นโรคตับวายได้ค่ะ

  1. เครื่องดื่มน้ำอัดลม

น้ำอัดลมมีทั้งกรดต่างๆ และคาเฟอีน ที่ขัดความการทำงานของยา เช่น ยาลดกรด ทำให้ฤทธิ์ยาหมดประสิทธิภาพ กินกับยาขยายหลอดลมก็ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มมากขึ้น แก๊สที่มีมากในน้ำอัดลมก็จะกัดกระเพาะ เป็นตัวขัดขวางให้ตัวยาไม่สามารถดูดซึมได้ดี จึงไ่ม่สามารถลดกรดในกระเพาะได้เช่นกัน

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.pexels.com/th-th/@chevanon
  1. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนที่ต้องห้ามกินกับยา นอกจากกาแฟ น้ำอัดลม ยังมีน้ำชา โกโก้ รวมทั้งเครื่องดื่มชูกำลังสารพัด ที่ต้องห้ามดื่มคู่กับยา โดยเฉพาะยาขยายหลอดลม เพราะอาจส่งผลให้หัวใจเต้นเร็ว เต้นผิดจังหวะ อาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

ทำไม น้ำเปล่าถึงดีที่สุด

เพราะน้ำเปล่าไม่มีผลต่อตัวยา การดื่มน้ำเปล่าๆ สะอาดๆ ในอุณหภูมิห้องปกติ ธรรมดาๆ ไม่เย็น ไม่อุ่นจัด จะเป็นตัวนำยาเข้าไปสู่อวัยวะภายในร่างกายได้อย่างปลอดภัยที่สุด ช่วยให้ยาออกฤทธิ์ โดยซึมเข้าไปตามกระแสเลือดได้ดีที่สุดนั่นเอง

เท่านี้ทุกคนก็น่าจะรู้กันแล้วล่ะค่ะว่า ถ้าหากทานยาแล้วนั้นถ้าเป็นไปได้ก็พยายามหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มอื่นๆ ถึงแม้ว่าเรื่องดื่มเหล่านั้นจะเป็นน้ำผลไม้หรือนมที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณประโยชน์มากมายก็ตามที่ DooDiDo แนะนำว่าควรจะดื่มน้ำเปล่านั้นก็จะดีที่สุดค่ะ เพราะงั้นแล้วหากใครที่รู้ตัวว่าเป็นคนที่มีโรคประจำตัว ต้องทานยาให้เป็นเวลาหรืออาจจะเป็นคนที่ป่วยบ่อยๆ แล้วนั้นก็อาจจะต้องซื้อน้ำขวดเล็กๆ ซักขวด มาติดตัวตลอดเวลา เพื่อที่เมื่อถึงเวลาก็จะได้ไม่ต้องประสบปัญหาไม่มีน้ำดื่มตอนกินยานั่นเองค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.motherandcare.in.th