ขอแนะ 8 วิธีกินอย่างไร ช่วยให้ทุกท่านมีสุขภาพที่ดีได้!!

WM

การกินอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ควรจะต้องมีการกินอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีด้วย

หากเราจะพูดถึงการกินอาหาร (ให้พอดี) ตรงกับความต้องการของร่างกาย ที่ไม่มากเกินไปหรือน้อยจนเกินไปนั้น ก็ควรกินให้ครบ 5 หมู่ จะทำให้มีสุขภาพดีไม่อ้วน ลดโอกาสการเกิดโรคภัยหลายๆ อย่างได้อาหารจานด่วนถือเป็นอาหารหลัก ๆ ของคนยุคนี้ ซึ่งหลาย ๆ คนที่กินเป็นประจำอาจทำให้สุขภาพร่างกายเปลี่ยนแปลงในทางที่แย่ลง เช่น อ้วนขึ้น มีโรคประจำตัวมากขึ้น อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการกินอาหารที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาหารที่ดีนั้นจะต้องเป็นอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน มีวิตามินและแร่ธาตุหรือกากใยอาหารชนิดอื่น ๆ รวมอยู่ด้วย นอกจากการกินอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ควรจะต้องมีการกินอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีด้วย

การเลือกรับประทานอาหาร ถือเป็นปัจจัยหลักๆที่ส่งผลต่อสุขภาพ หากเราเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ย่อมส่งผลให้มีสุขภาพที่ดีตามมา วันนี้เรามีวิธีการเลือกรับประทานอย่างไร ให้สุขภาพดี 8 วิธี กินอย่างไร ให้ดีต่อสุขภาพ วันนี้จะขอแนะนำทุกท่านกับวิธีการ ที่ช่วยให้ทุกท่านมีสุขภาพที่ดี ด้วยวิธีการที่ง่ายและสามารถทำได้โดยการเลือกทานอาหารที่ตรงกับความต้องการของร่างการ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@lavievagabonde
  1. กินอาหารให้มีความหลากลาย ครบทั้ง 5 หมู่ และดูแลน้ำหนักตัว

นี้อาจจะเป็นข้อแนะนำหลักเลยก็ว่าได้ โดยให้ความสำคัญกับการบริโภคอาหารหลัก 5 หมู่ โดยในแต่ละวัน ในแต่ละมื้อควรบริโภค อาหารให้มีความหลากหลายไม่จำเจ โดยน้ำหนักตัวถือว่าเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงภาวะสุขภาพ ให้มีน้ำหนักที่เหมาะสม ให้รูปร่างที่ไม่อ้วนหรือผอมเกินไปและมีน้ำหนักตัวค่อนข้างคงที่ หากสังเกตเห็นว่าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากน้ำหนักปกติ แสดงให้เห็นว่าเริ่มกินอาหารมากเกินไปแล้ว ควรจะต้องหันมาควบคุมลดปริมาณให้น้อยลง หรือหากพบว่าน้ำหนักตัวลดลงเรื่อยๆ ก็ควรต้องให้ความสนใจพร้อมทั้งสังเกตว่ามีการอ่อนเพลีย ง่วง ซึม หรืออาการที่แตกต่างไปจากปกติเกิดขึ้นด้วยหรือไม่ ถ้ามีอาการมากควรพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ สำหรับเด็กร่างกายมีการเจริญเติบโต น้ำหนักตัวควรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอัตราที่เหมาะสม ดังนั้นควรหมั่นชั่งน้ำหนักตัวอย่างน้อยเดือนละครั้ง

  1. กินพืชผักให้มาก กินผลไม้เป็นประจำ

เนื่องจากประเทศไทยมีพืชผักและผลไม้อุดมสมบูรณ์ที่ผู้บริโภคสามารถเลือกบริโภคได้ตลอดปี พืชผักและผลไม้ ให้สารอาหารที่สำคัญหลายชนิด คือ วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร และให้สารอื่นที่มิใช่สารอาหาร เช่น สารแอนติออกซิแดนท์ที่ช่วยไม่ให้อนุมูลอิสระทำลายเนื้อเยื่อและผนังเซลล์ ช่วยชะลอการเสื่อมสลายของเซลล์  ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูสดใส ไม่แก่เกินวัย นอกจากนี้ยังให้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพรที่ช่วยรักษาสุขภาพ

  1. กินปลา กินเนื้อไม่ติดมัน และถั่วชนิดต่างๆ อยู่เสมอ

การกินอาหารที่ให้โปรตีน โดยเน้นปลาและอาหารประเภทถั่วชนิดต่างๆในปริมาณที่เหมาะสม เช่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ พิสตาชิโอ วอลนัท แมคคาเดเมีย เป็นต้น สำหรับเนื้อสัตว์ให้เลือกที่ไม่ติดมัน หรือที่มีมันน้อย โดยไข่ เป็นอาหารที่มีประโยชน์ ควรกินเป็นประจำ เด็กควรกินวันละฟอง ผู้ใหญ่ภาวะปกติควรกินวันเว้นวัน หรือสัปดาห์ละ 2-3 ฟอง ส่วนคนที่มีปัญหาภาวะโคเลสเตอรอลสูงในเลือดควรลดปริมาณลง

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/congerdesign-509903/
  1. ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย

นมถือว่าเป็นอาหารที่มีประโยชน์สูง เป็นแหล่งของโปรตีน แคลเซียม วิตามินบี 2 และแร่ธาตุต่าง ๆ นอกจากนี้น้ำนมเป็นอาหารที่กินง่าย ราคาไม่แพงเกินไป มีหลายชนิดหาได้ทั่วไป จึงเป็นการสะดวกที่จะใช้เป็นอาหารสำหรับคนทุกวัย

หากกังวลว่าการดื่มนมมาก ๆ อาจทำให้อ้วน ผู้บริโภคสามารถเลือกดื่มนมพร่องไขมันได้ และในเวลาเดียวกันควรควบคุมปริมาณไขมันในอาหารชนิดอื่นด้วย  เพราะเพียงไขมันจากน้ำนมอย่างเดียวไม่น่าที่จะทำให้เกิดโรคอ้วน โดยปริมาณที่แนะนำคือ เด็กควรดื่มวันละ 1-2 แก้ว ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุควรดื่มวันละ 1 แก้ว

  1. เลือกกินไขมันที่มีที่ดี มีประโยชน์ ในปริมาณที่เหมาะสม

บริโภคน้ำมันดี น้ำมันที่ส่งผลดีต่อสุขภาพคือ น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันเมล็ดไนเจอร์ น้ำมันเมล็ดงาม้อน น้ำมันมะกอก และน้ำมันคาโนล่า เป็นต้น เนื่องจากอุดมไปด้วยกรดไขมันดีอย่างไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ไม่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น เป็นแหล่งวิตามินอีและสารต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้งลดไขมันไม่ดีโดยไม่ทำให้ระดับไขมันดีลดลง ผู้ที่เสี่ยงเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองควรบริโภคน้ำมันชนิดนี้ เนื่องจากอาจช่วยลดภาวะเกล็ดเลือดเกาะตัวรวมทั้งทำให้ไม่เกิดลิ่มเลือดได้ง่าย  เลี่ยงกรดไขมันไม่ดี ไขมันทรานส์มักพบในน้ำมันพืชที่เกาะตัวเป็นไขมัน นิยมนำมาปรุงขนมต่าง ๆ เช่น คุกกี้ มันฝรั่งทอดกรอบ แครกเกอร์ หรือผลิตภัณฑ์ขนมอบ เนื่องจากช่วยยืดอายุอาหารได้ การบริโภคไขมันทรานส์จะเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลไม่ดี และอาจทำให้เสี่ยงป่วยเป็นโรคหัวใจ ที่สำคัญ ทำให้ร่างกายดูดซึมไขมันดีไม่ได้ การเลี่ยงไขมันทรานส์เป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพต่าง

  1. หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสหวานจัดและเค็มจัด

ส่วนประกอบสำคัญของอาหารรสหวานจัดและเค็มจัด  ได้แก่  น้ำตาล และเกลือแกง  ซึ่งส่วนประกอบทั้ง 2 ชนิดเมื่อบริโภคมากเกินไป พบว่าเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคอ้วน และโรคความดันโลหิตสูง นอกจากการหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวานจัดและเค็มจัดแล้ว ผู้บริโภคควรพยายามรับประทานอาหารที่มีรสธรรมดา โดยไม่ควรจะต้องเติมน้ำตาลหรือเกลือเพิ่มเติมในอาหารที่ปรุงแล้ว หรือหันมากินอาหารแบบไทยเดิม ที่มีกับข้าวหลายชนิดเพื่อให้เกิดรสชาติที่หลากหลาย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@pablomerchanm
  1. กินอาหารที่สะอาดปราศจากการปนเปื้อน

การกินอาหารที่สะอาดนับเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะช่วยลดอันตรายจากสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ซึ่งอาจเป็นเชื้อโรค พยาธิ สารพิษ สิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ผู้บริโภคควรเลือกซื้ออาหารจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ มีการผลิตที่ถูกต้อง มีการเก็บรักษาที่เหมาะสม อาหารสำเร็จรูปควรบรรจุในภาชนะที่เหมาะสม สะอาด มีฉลากที่ถูกต้อง บอกวันหมดอายุ ส่วนประกอบ ชื่ออาหาร สถานที่ผลิต นอกจากนี้ผู้บริโภคควรมีสุขนิสัยที่ดีในการรับประทานอาหาร เช่น การล้างมือก่อนรับประทานอาหาร การใช้ช้อนกลาง หรือใช้อุปกรณ์หยิบจับอาหารมากกว่าการใช้มือ

  1. งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

การดื่มแอลกอฮอล์มาก จะมีผลทำให้การทำงานของระบบสมองและประสาทช้าลง  ทำให้เกิดการขาดสติได้ง่าย ที่จะนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ เสียทรัพย์ เสียสุขภาพ ก่อให้เกิดโรคตับแข็งและการขาดสารอาหารที่สำคัญหลายชนิด ดังนั้นควรลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือควรหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด

หากเราต้องการให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บ และมีความสุขทั้งกายและใจอยู่เสมอ เราก็ควรจะต้องรู้ว่าอะไรควรกิน อะไรควรเลี่ยง เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องมาลำบากในภายหลัง

การเลือกรับประทานอาหาร DooDiDo ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น ที่เราต้องใส่ใจ เพราะมีความสำคัญ ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ในทุกๆวัน ร่างกายควรได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน เพื่อให้ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆ อย่างเต็มที่ เมื่อเราเลือกรับประทานสิ่งที่ดี มีประโยชน์ เข้าไปในร่างกาย ย่อมส่งผลดีต่อร่างกายตามมา เหมือนกับประโยคที่ว่า กินอย่างไร ได้อย่างนั้น นั่นเองค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.teaoilcenter.org