การดูแลสุขอนามัย และใส่ใจสุขภาพเพื่อให้ร่างกายห่างไกลโรค
การมีสุขภาพดีแบบองค์รวมกับเคล็ดลับดูแลสุขภาพ 8 ประการ
เคล็ดลับการดูและสุขภาพของแต่ละคนไม่เหมือนกันแต่ผลที่ต้องการเหมือนกัน นั่นก็คือต้องการให้ร่างกายแข็งแรงปราศจากโรคภัย เตรียมร่างกายและจิตใจพร้อมสำหรับหน้าฝนนี้รึยังคะ ถ้าใครยังไม่ได้เริ่มดูแลสุขภาพไม่เป็นไรคะเรามาเริ่มพร้อมกัน กับการมีสุขภาพดีแบบองค์รวมกับเคล็ดลับดูแลสุขภาพ 8 ประการดังนี้
เราเชื่อว่าวิถีชีวิตของพวกเราทุกคนเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิม เราได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ให้ความสำคัญมากขึ้นกับการดูแลสุขอนามัย และใส่ใจสุขภาพเพื่อสร้างเกราะป้องกันให้ร่างกายห่างไกลโรคและความเจ็บป่วยต่าง ๆ แต่ถึงแม้สถานการณ์ปัจจุบันจะคลี่คลายลงบ้าง การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเราทุกคน เราจึงอยากให้ทุกคนใส่ใจดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ปรับมุมมองและสร้างพฤติกรรมสุขภาพที่ดีจนเป็นนิสัย ด้วยเคล็ดลับสุขภาพง่าย ๆ ที่ทำได้
- ควรดื่มน้ำให้พอเพียงในแต่ละวัน
ร่างกายประกอบด้วยน้ำ 70 กว่าเปอร์เซ็นต์ เลือดประกอบด้วยน้ำ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ ถ้าขาดน้ำ เลือดก็จะข้น หนืด ไหลเวียนไม่สะดวก หัวใจก็จะต้องทำงานหนักเพราะต้องปั๊มเลือดที่หนืดข้นไปเลี้ยงร่างกาย ตับไตก็จะทำงานหนัก ในการขับกรองของเสียออกจากเลือดที่หนืดข้น
- อาหารเช้าคือมื้อที่สำคัญที่สุด
ตามหลักนาฬิกาชีวิต ควรรับประทานมื้อเช้าในเวลา 7-9 โมงเช้า เพราะเป็นเวลาที่พลังชีวิตเดินผ่านเส้นลมปราณกระเพาะอาหาร…การทานอาหารเวลานี้ จะทำให้ร่างกายได้รับคุณค่าจากสารอาหารอย่างมีประสิทธิภาพสูงที่สุด คนที่ไม่ชอบทานอาหารมื้อเช้า มักทำร้ายร่างกายโดยไม่ตั้งใจเพราะ
- ลดการบริโภคนม และผลิตภัณฑ์จากนม
เพราะองค์ประกอบของนมวัวกับนมคนนั้นแตกต่างกันมาก นมวัวมีแคลเซียมมากกว่านมคนประมาณ 4 เท่า มีโปรตีนมากกว่า 3 เท่า แต่มีคาร์โบไฮเดรตเพียง 2 ใน 3 ของนมคน โครงสร้างและอัตราการเจริญเติบโตที่แตกต่างกัน ระหว่างลูกวัวกับทารก ทำให้องค์ประกอบเหล่านี้ มีสัดส่วนแตกต่างกัน
- รับประทานเนื้อสัตว์ให้น้อยลง ทานผักให้มากขึ้น
โครงสร้างของมนุษย์ไม่ใช่สัตว์กินเนื้อ เป็นสัตว์ประเภท กินผัก ผลไม้ เมล็ดธัญพืชเป็นอาหาร เพราะลำไส้ยาวกว่าสัตว์กินเนื้อมาก แต่น้ำย่อยมีความเข้มข้นน้อยกว่าถึง 20 เท่า การบริโภคเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์ที่มาจากเนื้อสัตว์มากเกินไป ทำให้เส้นทางเดินอาหารอ่อนแอลง นำไปสู่ความผิดปกติของลำไส้ในแบบต่างๆ โปรตีนจากสัตว์เริ่มเน่าทันทีเมื่อสัตว์ถูกฆ่า ซึ่งผิดกับโปรตีนของพืชผักและธัญพืช จะไม่เน่าเสียก่อนที่จะกิน การแช่ตู้เย็น หรือสารกันบูดก็พอจะช่วยให้เนื้อสัตว์ไม่เน่าได้ แต่เมื่อถูกนำมาปรุงอาหารแล้วก็จะเริ่มเน่าเสียแล้ว
- ลดการบริโภคน้ำตาลลง
เราทราบกันดีว่าน้ำตาลนั้นให้พลังงานแก่ร่างกาย เมื่อเรารู้สึกเหนื่อยถ้าได้ดื่มอะไรหวานๆ เช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน เครื่องดื่มชูกำลังที่วางขายกันดาษดื่น เราก็จะรู้สึกสดชื่นมีกำลัง แต่สักพักก็จะรู้สึกเหนื่อยใหม่ ก็ดื่มกินกันใหม่ โดยไม่ได้คิดถึงโทษจาการบริโภคน้ำตาลมากเกินไป ปกติแล้วเราควรบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 7 ช้อนชาต่อวัน
- ควรเข้านอนไม่เกิน 5 ทุ่ม
ปัจจุบันเราต่างพากันขยายเวลากลางวันเข้าไปทดแทนเวลากลางคืน ไม่ยอมหลับยอมนอนกัน ดูทีวี เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ เที่ยวกลางคืน หรือไม่ก็ทำงานกันทั้งคืน แล้วก็มานอนเอาตอนรุ่งสาง โดยมีความคิดว่า มันเงียบดี ไม่มีใครมารบกวน ได้งานเยอะ เห็นมาหลายรายว่าอยู่ได้ไม่กี่น้ำ ทำอยู่ได้ไม่กี่ปี ก็จะค่อยๆ สะสมความเจ็บป่วย มีโรคสะสมเพิ่มขึ้นๆ จนกระทั่งหนักหนาสาหัสนั่นแหละถึงจะรู้สึกตัว
- เอาพิษออกจากร่างกาย
ปัจจุบันนี้เราต้องเผชิญกับ “พิษ” ที่มีอยู่รอบตัวเรา มีทั้งสารพิษ อากาศที่เป็นมลพิษ อาหารที่มีพิษ รวมทั้งพิษที่เราสร้างขึ้นเองในร่างกาย ที่เกิดจากการย่อยไม่ได้ ถ่ายไม่ดี อาหารก็คั่งค้างหมักหมมกลายเป็นสารพิษอยู่ในกระเพาะลำไส้ แล้วถูกดูดซึมเข้าไปหล่อเลี้ยงร่างกาย เข้าอยู่ในกระแสเลือด ร่างกายจึงอุดมด้วยพิษ การเอาพิษออกจากร่างกายทำให้หลากหลายวิธี
- อย่าลืม แบ่งเวลาเพื่อออกกำลังกายในแต่ละวันแต่พอดี
ไม่หักโหมหรือละเลย และหมั่นสร้างความดี ทำให้จิตใจสบาย ถ้ามีความเกลียดชังในหัวใจ โรคภัยจะมาเยือน
หากทุกคนปฏิบัติตามนี้ได้ DooDiDo คิดว่าย่อมจะมีสุขภาพแข็งแรง แม้ว่าตอนเริ่มต้นจะรู้สึกว่าทำยาก แต่จงจำไว้ว่าร่างกายเป็นเสาหลักที่ทำให้เราประสบ จึงต้องดูแลรักษาร่างกายซึ่งเปรียบเสมือนสิ่งล้ำค้าไว้ อาจจะต้องบังคับตัวเองบ้างก็มิใช่เรื่องยากเกินไป ถ้ายืนหยัดทำอย่างนี้อย่างต่อเนื่องปรับเปลี่ยนจนเกิดความเคยชิน การมีสุขภาพดีก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายและติดเป็นนิสัย ทั้งนี้เพราะร่างกายของเราจะตอบสนองต่อตัวเราเอง
ขอบคุณแหล่งที่มา: www.bigkidinoffice.com