อาการปวดหัวอาจมีผลมาจากการตั้งครรภ์ที่คุณแม่หลายคนไม่รู้ตัว!!
วิธีสังเกตว่าอาการปวดหัว เป็นส่วนหนึ่งของอาการคนท้อง
หากคุณแม่คนไหนต้องเจอกับอาการปวดหัวอยู่บ่อยครั้งแล้วล่ะก็อาการปวดหัวเป็นอาการที่พบบ่อย น้อยคนที่จะไม่เคยปวดหัว แต่ถ้าคุณท้องและปวดหัวล่ะ ธรรมดาเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วอาการปวดหัวไม่มีอันตราย หากคุณปวดหัว ไม่ว่ากอ่นท้อง กำลังท้องหรือหลังคลอดควรปรึกษาแพทย์ สังเกตตัวเองและจดไว้ว่าคุณปวดบ่อยแค่ไหน ปวดมากเพียงใด และมีอาการอื่นด้วยหรือไม่ เพื่อแพทย์จะได้ข้อมูลทีละเอียดในการวินิจฉัย
สาเหตุหลักของอาการปวดหัวของคนท้องคือ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ซึ่งเป็นอาการคนท้องที่มักพบได้ในทุกๆ ราย การขาดน้ำก็สามารถทำให้คุณแม่รู้สึกปวดหัวได้ โดยวิธีสังเกตง่ายๆ ให้ดูจากสีของปัสสาวะ หากมีสีอ่อนให้คุณแม่สงสัยได้เลยว่ากำลังตกอยู่ในสภาวะขาดน้ำ หรืออาจเกิดการจากเมื่อยล้า หากร่างกายของคุณแม่ไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอก็สามารถทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ นอกจากนี้การขาดวิตามินก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของอาการปวดหัวได้เหมือนกัน
คนท้องปวดหัวเนื่องมาจากอะไร
การปวดหัวขณะท้อง ส่วนใหญ่เป็นการเกิดเอง ไม่ได้เป็นอาการของโรคหรืออาการแทรกซ้อนใดๆ เช่น
- ปวดหัวจากความเครียด
- ไมเกรน
- ปวดหัวแบบคลัสเตอร์
การปวดหัวในขณะท้อง 26% เป็นการปวดหัวจากความเครียด แต่ควรปรึกษาแพทย์หากคุณปวดหัวเรื้อรังหรือปวดไมเกรน หากคุณมีประวัติปวดหัวไมเกรน แต่ผู้หญิงบางคนที่เคยปวดไมเกรน กลับปวดบ่อยน้อยลงในขณะท้อง ไมเกรนมักเกิดในระยะท้ายของการตั้งท้องหรือหลังคลอด ปวดหัวอีกชนิดหนึ่งคือการปวดโดยมีสาเหตุ เช่นความดันโลหิตสูง
อาการปวดหัวของคนท้องสามเดือนแรก
ที่พบมากที่สุดคือปวดหัวจากความเครียด ในช่วงตั้งท้องสามเดือนแรก อาจเป็นเพราะร่างกายคุณเปลี่ยนแปลงมาก การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้กระตุ้นให้เกิดการปวดหัว
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
- ความดันเลือดที่เพิ่มขึ้น
- น้ำหนักที่เปลี่ยนแปลง
สาเหตุอื่นๆอีกเช่น
- ขาดน้ำ
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ความเครียด
- นอนไม่พอ
- การเลิกคาเฟอีน
- กินอาหารไม่ครบหมู่
- น้ำตาลในเลือดต่ำ
- มีกิจกรรมทางร่างกายน้อย
- การไวต่อแสง
- การมองเห็นที่เปลี่ยนไป
อาหารบางชนิดอาจทำให้ปวดหัว อาหารธรรมดาก็อาจทำให้คนท้องปวดหัวได้ เช่น
- นมและผลิตภํณฑ์จากนม
- ชอคโกแลต
- ชีส
- ยีสต์(ในขนมปัง)
- มะเขือเทศ
ในช่วงสามเดือนที่สองและสามเดือนสุดท้าย
การปวดหัวในช่วงนี้อาจมีสาเหตุต่างกันไป เช่น
- น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น
- ท่าทาง (ท้องยื่น)
- นอนน้อย
- อาหาร
- กล้ามเนื้อตึงและเจ็บ
- ความดันเลือดสูง
- เบาหวาน
ความดันโลหิตสูง
การปวดหัวในช่วงสามเดือนที่สองและสามเดือนสุดท้ายอาจเป็นอาการแสดงว่าคุณมีความดันเลือดสูง ในไทยพบได้ราวร้อยละ 6 ในผู้หญิงท้อง ซึ่งไม่ดีต่อทั้งแม่และทารก อาจเพิ่มความเสี่ยงของ
- โรคหลอดเลือดในสมอง
- ครรภ์เป็นพิษ
- ออกซิเจนที่ไปสู่ทารกลดลง
- คลอดก่อนกำหนด (ก่อน 37 สัปดาห์)
- รกลอกตัวก่อนกำหนด
- ทารกคลอดน้ำหนักน้อย (น้อยกว่า 2.5 กิโลกรัม)
การรักษาความดันโลหิตสูงในขณะท้อง
แพทย์อาจสั่งยาลดความดันโลหิต คุณต้องลดอาการที่มีเกลิอและกินอาหารที่มีใยอาหารเพิ่ม การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยให้ควบคุมความดันโลหิตได้ สาเหตุอื่นที่ทำให้ปวดหัวขณะท้องเช่นการติดเชื้อและโรคร้ายแรงเช่น
- ไซนัสอักเสบ
- ความดันเลือดต่ำ
- มีลิ่มเลือด
- เลือดออกที่อวัยวะภายใน
- โรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว(ความผิดปกติของเม็ดเลือดแดงชนิดหนึ่ง)
- เนื้องอกในสมอง
- โรคเกี่ยวกับหัวใจ
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือสมองอักเสบ
การรักษาปวดอาการหัวในขณะท้อง คนท้องปวดหัวกินยาอะไร
ปรึกษาหมอของคุณก่อนจะกินยาใดๆ ในขณะที่ท้อง และไม่ควรกินแอสไพรินหรือไอบูโพรเฟน เพราะาแก้ปวดเหล่านี้อาจเป็นอันตรายต่อการเจริญของทารก โดยเฉพาะในช่วงสามเดือนแรก ผู้หญิงท้องหลายคนใช้พาราเซทตามอลแก้ปวด
หมออาจให้นาแก้ปวดอื่นๆและการดูแลตนเอง เช่น ดื่มน้ำมากๆ พัก ประคบเย็นหรือร้อน นวด ออกกำลังกาย ยืดตัว ใช้หัวน้ำมันหอมเช่นคาโมมาย เปปเปอร์มิ้นท์ และโรสแมรี่
ควรไปหาหมอเมื่อไร
เมื่อคุณปวดหัวในขณะท้อง ควรปรึกษาแพทย์ และหากมีอาการต่อไปนี้ ควรพบแพทย์โดยด่วน
- มีไข้
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ตามัว
- ปวดมาก
- ปวดหัวนานเป็นชั่วโมงๆ
- ปวดหัวบ่อย
- เป็นลม
- ชัก
อาการปวดหัวของคนท้อง
อาจมีอาการปวดแตกต่างกันไป คุณอาจมีอาการ
- ปวดตุบๆ
- ปวดตื้อๆ
- ปวดหัวมากข้างเดียว
- ปวดจี๊ดหลังกระบอกตาข้างใดข้างหนึ่งหรือสองข้าง
การปวดไมเกรนมักมีอาการดังนี้ร่วมด้วย
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- เห็นเส้นหรือแสงแวบ
- มีจุดบอดในตา
สำหรับอาการปวดหัวในขณะตั้งครรภ์เป็นเรื่องปกติ บางครั้งอาจเกิดจากความเครียดในช่วงท้องสามเดือนแรก เพราะมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายมากมาย แต่การปวดหัวในช่วงสามเดือนสุดท้าย จะแตกต่างไป และอาจมีสาเหตุร้ายแรง ความดันโลหิตสูงเป็นสาเหตุที่ทำให้ปวดหัว ในขณะตั้งท้องคุณอาจมีความดันโลหิตสูงเมื่อไรก็ได้ หรือไม่มีอาการเลย หมอจึงต้องวัดความดันทุกครั้งเมื่อผู้ป่วยไปตรวจครรภ์ตามนัด แจ้งหมอทุกครั้งเมื่อคุณปวดหัว และควรบอกแพทย์ด้วยหากคุณมีประวัติครอบครัวเป็นไมเกรน ความดันโลหิตสูง ชักหรือเบาหวาน DooDiDo แนะนำว่าผู้ป่วยควรรับประทานยาและรักษาตามคำสั่งแพทย์ แนะนำเท่านั้น
ขอบคุณแหล่งที่มา: www.nhs.uk, www.mayoclinic.org, www.webmd.com, https://ihealzy.com