6 ข้อที่ควรต้องคำนึงในการเลือกซื้ออาหารให้น้องหมา!

อาหารเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เจ้าของทุกคนควรคำนึงถึงในการเลือกซื้ออาหารที่มีคุณภาพดี

การที่น้องหมาของเราจะมีสุขภาพที่ดีนั้น นอกจากการออกกำลังกายแล้ว อาหารก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เจ้าของทุกคนควรคำนึงถึงในการเลือกซื้ออาหารที่มีคุณภาพดี เหมาะสมกับช่วงอายุ พันธุ์ และปัญหาสุขภาพของสุนัขค่ะ ซึ่งก่อนที่เราจะเลือกซื้ออาหารให้สุนัขของเรานั้น จำเป็นต้องดูรายละเอียดของอาหารชนิดนั้นให้ดี ว่ามีส่วนผสมและสารอาหารใดบ้าง เพราะถ้าหากไม่เลือกให้เหมาะกับสุนัขของเรา อาจทำให้น้องเสี่ยงต่อสุขภาพไม่ดีได้นั่นเองค่ะ

ปัจจุบันมีอาหารสุนัขหลากหลายยี่ห้อให้เราเลือกซื้อมาก เรียกได้ว่าหลากหลายลายตาไปหมด บางครั้งเราซื้อเพราะคนแนะนำมา บางครั้งเราซื้อเพราะแพคเกจสินค้าดูสะดุดตา วันนี้เราจะมี check list มาให้เจ้าของดูว่าควรซื้ออาหารประเภทไหน และอะไรที่ควรหลีกเลี่ยงกันบ้าง เพื่อให้น้องหมาของคุณมีสุขภาพที่ดีได้แบบง่ายๆ มาฝากกันค่ะ

1.อันดับแรกเลยคือ ปริมาณโปรตีน
หากพลิกดูด้านหลังของถุงอาหารสุนัข จะต้องมีบอกสัดส่วนของส่วนผสมไว้อย่างละเอียด โดยจะเรียงจากปริมาณมากสุดจะอยู่ด้านบนไล่ลงมาตามลำดับ ฉะนั้น อันดับแรกในอาหารที่ควรซื้อควรจะเป็น โปรตีนที่สามารถย่อยได้ง่าย (highly digestible proteins) เช่น ไก่ เนื้อวัว ปลาแซลมอน แกะ ไก่งวง เป็นต้น หลีกเลี่ยงหากเป็น เนื้อสัตว์ (meat) สัตว์ปีก (poultry) หรือ เนื้อสัตว์ที่เหลือจากการผลิต (meat by-products) เป็นอับดับแรกของส่วนผสม By products สามารถรวมถึง ขน เท้า ปาก ตลอดจนส่วนที่เหลือจากกระบวนการผลิตอื่นๆ เราควรจะใส่ใจกับส่วนประกอบหลัก 5 อย่างแรกในอาหาร หากมีข้าวโพดหรือแป้ง (wheat) เป็นส่วนประกอบในสามอันดับแรกก็ควรจะหลีกเลี่ยงนะ

2.เลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ มีการผลิตที่โปร่งใส
ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจะมีบอกช่องทางการติดต่อหากเกิดปัญหา บอกที่มาของวัตถุดิบพร้อมวันหมดอายุ มั่นใจได้ว่าได้อาหารน้องหมาที่มีคุณภาพดีแน่นอน

3.อัตราส่วนประกอบของอาหารมีความเหมาะสมและครบถ้วน
เราสามารถดูได้จากฉลากผลิตภัณฑ์ว่าเป็นอาหารสัตว์โดยมีการรับรองจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ หากฉลากระบุว่า “for intermittent/ for supplemental use only” นั่นหมายความว่าใช้เป็นอาหารเสริมหรือใช้กินได้ชั่วคราวเท่านั้น ไม่ใช่อาหารหลัก หากเป็นอาหารรักษาโรค จะต้องระบุไว้ว่าช่วยในการจัดการปัญหาเกี่ยวกับโรคนั้นๆ ซึ่งควรจะให้น้องหมากินต่อเมื่อสั่งจ่ายและควบคุมโดยสัตวแพทย์เท่านั้น

4.มีระบุช่วงวัยของสุนัขที่เหมาะสมกับอาหารชนิดนั้น ๆ
ฉลากควรบ่งบอกว่าอาหารสุนัขนั้นเหมาะกับน้องหมาวัยไหน เช่น growth หมายถึงลูกสุนัข adult หมายถึงสุนัขโต หรือ reproduction หมายถึงสุนัขตั้งท้องหรือให้นมลูกๆ หากมีระบุว่า ทุกช่วงอายุ (all life stages) หมายถึงสารอาหารครอบคลุมสุนัขทุกวัย

5.ไม่ควรซื้ออาหารถุงใหญ่เกินไป
คำนึงถึงปริมาณอาหารที่จะให้ต่อเดือน ไม่ควรซื้อมามากกว่านั้น หรือหากจำเป็นก็ควรแบ่งใส่ภาชนะหรือกล่องที่มีฝาปิดเพื่อป้องกันการปนเปื้อนติดเชื้อนะจ๊ะ

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
– มีคำว่า Holistic Lite All-natural คำเหล่านี้มีไว้เพื่อโฆษณาดึงดูดให้เราซื้อเท่านั้น ไม่ได้บ่งบอกถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้เลย
– Grain-free commercial diets คำนี้ไม่ได้แปลว่าไม่มีส่วนประกอบของคาร์โบไฮเดรตนะ ถึงแม้ว่าจะมีคำว่า grain-free แล้วก็ตาม แต่บางยี่ห้อจะใช้คาร์โบไฮเดรตจำพวกมันฝรั่ง หรือข้าวโพด
– ผลิตภัณฑ์สังเคราะห์ต่างๆ เช่น สี กลิ่น น้ำตาล หรือสารกันเสีย น้องหมาควรได้กินอาหารที่มีคุณภาพ สะอาด ปราศจากสารเคมีสารสังเคราะห์นะคะ

6.เลือกซื้ออาหารแบบกระป๋องแทนอาหารเม็ด
หากคุณเอาปริมาณโปรตีนมาเปรียบเทียบกันจากฉลาก แล้วพบว่าโปรตีนจากอาหารกระป๋องมากกว่าจึงเลือกแบบนี้ ขอบอกว่า คุณคิดผิด !! เราไม่สามารถเอามาเทียบกับตรงๆได้ เนื่องจากอาหารกระป๋องมีสัดส่วนของความชื้นถึง 75% เมื่อเทียบกับอาหารเม็ดที่มีแค่ 10% เท่านั้น

ในการเลือกซื้ออาหารสำหรับน้องหมาให้ได้คุณภาพที่ดีและเหมาะสมกับสุขภาพของน้องนั้น เจ้าของจะต้องเลือกอาหารที่มีอัตราส่วนประกอบของอาหารมีความเหมาะสมและครบถ้วน จะช่วยให้น้องหมาของคุณมีสุขภาพที่ดีได้ค่ะ อย่าลืมนำเอาข้อมูลข้างต้นที่ DooDiDo นำมาบอกกล่าวไปช่วยในการประกอบการซื้ออาหารให้กับน้องหมากันนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: https://www.osdco.net