5 โรคติดเชื้อที่พบบ่อยมาจากสัตว์เลี้ยงที่เรานิยมเลี้ยงกัน

WM

สัตว์เลี้ยงก็อาจนำโรคมาสู่คนได้โดยเฉพาะโรคติดเชื้อต่าง ๆ 

คุณรู้ไหมคะ ว่าสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักตัวโปรดของคุณ อาจเป็นพาหะนำเชื้อโรคมาสู่คนได้ค่ะ  คนรักสัตว์หรือคนที่มีสัตว์เลี้ยง มักจะเลี้ยงไว้ในบ้าน ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับคนเลี้ยง บางคนรักสัตว์เลี้ยงมาก ถึงขั้นเอาไปนอนด้วยกันก็มีค่ะ วันนี้เรามีโรคที่เกิดจากสัตว์เลี้ยงของคุณมานำเสนอ รวมถึงอาการต่างๆ ของโรคที่เกิดขึ้นมาฝากค่ะ

ในปัจจุบัน การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในบ้านเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสัตว์เลี้ยงสามารถอยู่เป็นเพื่อน เราได้สามารถช่วยคลายเครียด ทำให้มีความเพลิดเพลิน ช่วยเราทำงานบางชนิดได้สัตว์เลี้ยงที่เป็นที่นิยมได้แก่แมว สุนัข นกกระต่าย เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบว่าการเลี้ยงสัตว์มีส่วนช่วยในการบำบัดโรคได้ (Pet Therapy) โดยเชื่อว่าผู้ป่วยที่ได้สัมผัสสัตว์เลี้ยงในขณะที่อยู่ที่โรงพยาบาล จะทำให้ผู้ป่วยเหล่านั้นมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น มีกำลังใจในการรักษาโรคต่าง ๆ ที่เป็นอยู่ อย่างไรก็ตาม สัตว์เลี้ยงก็อาจนำโรคมาสู่คนได้โดย เฉพาะโรคติดเชื้อต่าง ๆ ซึ่งในบางครั้งสัตว์เลี้ยงก็เป็นรังโรค ของเชื้อโรคหลายชนิด โดยที่เชื้อโรคเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เกิด โรคในสัตว์แต่เมื่อเชื้อโรคเหล่านี้ติดมายังคน สามารถทำให้ เราเป็นโรคติดเชื้อที่ร้ายแรงได้ในที่นี้จะกล่าวถึงโรคติดเชื้อที่ พบบ่อยที่มาจากสัตว์เลี้ยงที่เรานิยมเลี้ยงกัน

WM
ขอบคุณภาพจาก : https://www.freepik.com/artursafronovvvv

1.โรคท้องเสียจากเชื้อแบคทีเรีย
มีเชื้อแบคทีเรียหลายชนิดสามารถติดต่อจากสุนัข หรือแมวมายังคนได้ที่พบบ่อยเช่น เชื้อ campylobacter เชื้อ salmonella การติดเชื้อเกิดจากการที่คนไปสัมผัสกับมูลของสัตว์แล้วไม่ได้ล้างมือให้สะอาดก่อนหยิบอาหารเข้าปาก อาการที่พบคืออาจมีไข้ปวดท้อง ถ่ายเหลว รวมถึง อาจถ่ายเป็นมูกเลือดได้ในผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันปกติมักจะหายเองได้การรักษาเป็นเพียงการรักษาแบบประคับประคองให้น้ำ และเกลือแร่ให้เพียงพอ ในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือในเด็กเล็ก อาจมีอาการรุนแรงได้ เช่นมีการติดเชื้อในกระแสเลือด แล้วไปมีการติดเชื้อตามอวัยวะต่าง ๆ เช่น เชื้อ salmonella อาจทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือการติด เชื้อในข้อ หรือในกระดูก

2.โรคพิษสุนัขบ้า
โรคนี้มีการระบาดในปีที่ผ่านมา โรคนี้นับเป็นโรคที่ร้ายแรงมาก เพราะถ้าคนเป็นมีโอกาสเสียชีวิตเกือบ 100% โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส rabies คนสามารถติดเชื้อโดยถูกสัตว์กัด หรือถูกสัตว์เลียที่บริเวณเยื่อเมือกหรือบริเวณแผลเปิด โดยเชื้อไวรัสนี้พบได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด ซึ่งหมายความว่า พบได้ในสุนัขแมว หนูค้างคาว ฯลฯ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อจะมีอาการกลืนไม่ได้ มีน้ำลายไหลมาก กลัวแสง กระสับกระส่าย มีพฤติกรรมก้าวร้าว แล้วซึมลงในที่สุด การป้องกันโรคนี้ทำได้โดย
1.พาสัตว์เลี้ยงที่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นประจำ
2.หากถูกสัตว์กัด ควรรีบล้างแผลด้วยน้ำสบู่อย่างน้อย 15 นาที แล้วรีบฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า รวมถึงรับอิมมูนโกลบูลิน
3.ถ้าสังเกตอาการของสุนัข หรือแมวที่กัดได้ ควรสังเกตอย่างน้อย 10 วัน ถ้าภายใน 10 วัน สัตว์เสียชีวิต ควรติดต่อทางสถานเสาวภา เพื่อนำสัตว์ไปตรวจว่าเป็นโรคพิษสุนัขบ้าหรือไม่

WM
ขอบคุณภาพจาก : https://www.freepik.com/gpointstudio

3.การติดเชื้อพยาธิของสัตว์
เชื้อพยาธิของสุนัขหรือแมวอาจมาติดคนได้โดยไข่ของพยาธิปนเปื้อนมากับมูลของสัตว์เหล่านี้ แล้วคนติดโดยการกินไข่ของพยาธิเข้าไป อาการที่พบคือตัว พยาธิจะไชไปตามที่ต่าง ๆ เช่นที่ผิวหนังก็จะทำให้เกิด อาการคัน อาจไปที่ทางเดินหายใจ ทำให้มีอาการ ไอ หอบเป็นต้น ถ้าไปที่ตา ก็จะทำให้การมองเห็นผิดปกติได้

4.การติดเชื้อราของสัตว์
เชื้อราของสัตว์ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนังและขน ซึ่งติดมายังคนได้ถ้าไปสัมผัสกับผิวหนังของสัตว์ที่ติดเชื้อทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนังที่เรียกว่าโรคกลาก ลักษณะเป็นวงแดง ๆ และคัน เชื้อรานี้อาจพบได้ในผิวของสุนัข แมว หรือกระต่าย

5.โรคฉี่หนู (Leptospirosis)
โรคนี้ตามชื่อเกิดจากการสัมผัสปัสสาวะของหนู เช่น ไปย่ำน้ำที่มีการปนเปื้อนของปัสสาวะหนู แต่พบว่าสามารถพบในปัสสาวะสุนัขได้เช่นกัน เชื้อนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรียกลุ่มเลปโตสไปรา (leptospira) อาการที่เกิดคือมีไข้สูง ปวดน่อง ตาแดง ในรายที่อาการรุนแรงอาจมีภาวะไตวาย ตับอักเสบ และไอเป็นเลือดได้

ทั้ง 5 โรคที่ DooDiDo นำมาเสนอนั้น เป็นโรคที่เกิดขึ้นโดยการที่สัตว์เลี้ยงของคุณเป็นพาหะในการนำเชื้อโรคเหล่านี้มาสู่คนค่ะ หากคุณเลี้ยงสัตว์ไว้ในบ้าน คุณจะต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาดของบ้านอยู่เสมอ เพื่อป้องกันเชื้อโรคต่างๆ ที่เกิดจากสัตว์เลี้ยงของคุณค่ะ ซึ่งโรคติดต่อจากสัตว์เลี้ยงมาสู่คน ส่วนใหญ่จะเกิดจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งความร้ายแรงของโรคติดต่อก็จะมีมากน้อยแตกต่างกันไปค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://med.mahidol.ac.th