5 เทคนิคการแบ่งเวลาเล่นเกมสำหรับผู้ชาย เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเกม!!

การเล่นเกมเป็นกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย หากเล่นมากเกินไปก็จะติดเกมได้

ไม่ว่ายุคไหนสมัยใด เกมก็คือเป็นกิจกรรมยามว่างยอดฮิตสำหรับผู้ชายอยู่เสมอ ยิ่งสมัยนี้มีเกมออนไลน์มากมายหลากหลายเกมให้เลือกเล่น แถมแต่ละเกมก็สนุกและเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชายอย่างมาก ถึงขั้นไม่ทำให้เสียการ เสียงานแถมนอนดึกเสียสุขภาพขึ้นไปอีก

การเล่นเกมเป็นกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายและให้ความบันเทิงในยามว่าง แต่ถ้าเล่นมากเกินไปก็อาจจะติดเกม หรือกลายเป็น “โรคติดเกม” ตามที่องค์การอนามัยโลกได้บรรจุให้เป็นโรคชนิดหนึ่ง ดังนั้นการแบ่งเวลาเล่นเกมให้ดีจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก เพื่อไม่ให้เสียการงานหรือเสียการเรียน และเสียสุขภาพ วันนี้เรามีวิธีที่จะเป็นตัวช่วยสำหรับคุณผู้ชายทั้งหลายที่ชอบในการเล่นเกม ว่ามีวิธีจัดการ แบ่งเวลาอย่างไรเพื่อไม่ให้ติดเกมมาฝากค่ะ

5 เทคนิคการแบ่งเวลาเล่นเกม

1. รู้จักลักษณะเกมที่จะเล่น
เกมแต่ละเกมใช้เวลาในการเล่นไม่เหมือนกัน เช่น เกมแบบ MOBA อย่าง RoV ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีต่อหนึ่งตา เกม PUZZLE เล่นได้ตามจำนวนหัวใจที่มี เช่น หัวใจ 1 ดวงเล่นได้ 1 ตา มี 5 ดวงก็เล่นได้ 5 ตา ต้องรอหัวใจมาเติมใหม่ ส่วนเกม RPG บางเกมสามารถเล่นได้เรื่อยๆ ซึ่งถ้ารู้ลักษณะของเกมแล้ว ก็อาจกำหนดว่าจะเล่นกี่ตา หรือเคลียร์ด่านผ่านกี่ด่านจะเลิกเล่น

2. มีเป้าหมายในการเล่นแต่ละวัน
การเล่นเกมย่อมมีจุดประสงค์บางอย่าง เช่น เลเวลอัพ ผ่านด่าน หรืออัพเกรดอาวุธ ดังนั้นการเล่นในแต่ละวันควรตั้งเป้าหมายระยะสั้น เมื่อทำได้แล้วควรหยุดเล่นเพื่อเก็บไปเล่นในเวลาว่างวันอื่นๆ จะทำให้จัดสรรเวลาได้ดีขึ้น

3. ตั้งเวลาเตือน
ถ้ากำหนดเป้าหมายแล้วแต่ยังชอบหยวนกับตัวเอง เช่น บรรลุเป้าหมายนี้แล้ว ขอทำให้บรรลุอีกเป้าหมายเลยแล้วกัน เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้เวลาในการเล่นเกมยืดออกไปอีกจนบางครั้งไม่เป็นอันทำอะไร ดังนั้นควรตั้งเวลาแทนการตั้งเป้าหมาย ทางที่ดีตั้งเตือนเอาไว้เลย เช่น ตั้งนาฬิกาเตือนเมื่อครบ 2 ชั่วโมง แล้วต้องเลิกเล่นทันที

4. สำรวจงานอื่นๆ ที่ต้องทำ
ก่อนจะกำหนดเวลาเล่นเกม หรือตั้งเป้าหมายในการเล่นเกม ควรสำรวจงานอื่นๆ ก่อน เช่น การบ้าน งานค้าง งานบ้าน โดยควรทำงานหลักให้เสร็จก่อนจึงจะไปเล่นเกมได้

5. สภาพร่างกายจะบอกเอง
ถ้าร่างกายมีอาการปวดหลัง ปวดคอ คล้ายออฟฟิศซินโดรม อาจเป็นสัญญาณว่านั่งเล่นเกมนานเกินไป ควรลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายหรือไปออกกำลังกายบ้าง และบางครั้งการเล่นเกมนานๆ ก็จะทำให้นิ้วล็อกได้ด้วย

5 อาการที่แสดงให้เห็นว่าคุณต้องเลิกเล่นเกมนั้นก่อนที่มันจะสายไป

1.คุณคิดถึงแต่มัน
ในโลกนี้มีน้อยเกมมากที่จะถูกเสปกของคุณโดยสมบูรณ์ ประมาณว่าเล่นมันได้ทั้งวัน คิดถึงมันได้ตลอด สามารถทิ้งเวลาเป็นวัน ๆ เพื่อเล่นมันได้ แถมคุณยังไม่เบื่อมันด้วย ซึ่งมันเป็นอะไรที่ “อันตราย” อย่างมากถ้าคุณไม่มีระเบียบวินัยในการใช้ชีวิต การเจอเกมชนิดนี้ทำได้ค่อนข้างยาก แต่เชื่อว่าหลายคนคงน่าจะมีซักเกมอยู่ในใจแหละที่ทำให้เรารู้สึกแบบนี้

2.คุณหงุดหงิดกับมัน
เกมที่ดีควรจะให้ความบันเทิง ให้ความรู้สึกสบายและได้พักผ่อน แต่หลายคนบอกว่าเกมที่ให้แค่อารมณ์แบบนั้นเป็นแค่ “เกมด้านเดียว” ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่เราจะคิดแบบนั้น เพราะเกมในสมัยนี้สื่ออารมณ์ได้หลายแบบมาก ๆ แต่อารมณ์ที่มันไม่ควรจะสื่อออกมาได้คืออารมณ์โกรธ เกมไม่เคยบังคับให้คุณโมโห ไม่เคยบังคับให้คุณทำลายข้าวของ ไม่เคยบังคับให้คุณตะโกนเสียงดัง ถ้าคุณเริ่มทำสิ่งเหล่านี้ แสดงว่าคุณกำลังอยู่ในระยะของความอันตรายโดยไม่รู้ตัว

3.คุณจ่ายหนัก จ่ายเยอะ และไม่มีความสุข
การใช้จ่ายเงินไปกับการเล่นเกมไม่ใช่เรื่องผิด ไม่ใช่เรื่องไม่ดี แต่มันจะดูแปลกทันทีถ้าคุณจ่ายเงินไปแล้ว แต่คุณไม่ได้รับความสุขกลับคืนมา มีคนหลายคนที่จ่ายเงินกับเกมไปมากกว่าสามหมื่นบาทต่อปี แต่กลับไม่มีความสุขในเกมที่พวกเขาเล่นเลย พวกเขาจ่ายเงินเพื่อสุ่มตัวละครที่ตัวเองต้องการ จ่ายซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ ถ้าคุณเข้าข่ายในลักษณะนี้ จำไว้เสมอว่าเงินของคุณมีค่าเกินกว่าจะซื้ออะไรที่ไม่ส่งผลดีใด ๆ ต่อตัวคุณเลย

4.คุณไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
การสื่อสารกับบุคคลอื่น ๆ ช่วยเพิ่มโอกาสให้ชีวิตคุณได้พบเจอกับสิ่งที่ดีกว่า แต่ทั้งหมดทั้งมวลจะไม่เกิดขึ้นหากคุณใช้เวลากับเกมของคุณมากกว่าการสื่อสาร ในความคิดของคุณมันอาจมีแว๊บนึงที่คิดว่า “ตัวเราอยู่คนเดียวในโลกได้” แต่นั่นไม่ใช่ความจริง การสื่อสารเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในชีวิตเพราะฉะนั้นถ้ามีอะไรที่ส่งผลกระทบต่อมัน คุณก็จำเป็นต้องกำจัดทิ้ง แม้ว่าจะไม่ต้องการแค่ไหนก็ตาม

5.คุณอาศัยอยู่กับวัฒนธรรมแย่ ๆ
คนแย่ ๆ เป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถหลีกหนีให้ไกลห่างได้ คนประเภทนี้มีอยู่ในทุกวงการ แม้แต่ในเกมก็ยังมี ถ้าคุณเป็นผู้เล่นเกมออนไลน์หรือเกมมัลติเพลเยอร์ ผู้เขียนเชื่อว่าต้องเคยพบเจอบุคคลประเภทนี้มาแน่นอน การที่คุณอาศัยอยู่กับพวกแย่ ๆ ในท้ายที่สุดคุณก็อาจจะกลายเป็นบุคคลเหล่านั้นไปในแบบที่คุณไม่สามารถปฏิเสธตัวเอง

ไม่น่าเชื่อเลยค่ะว่าการติดเกมนั้นจะส่งผลเสียต่อสขภาพกายและสุขภาพใจของเราได้มากขนาดนี้ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เล่นเกม ก็ขอให้แบ่งเวลาในการเล่นเกมและทำตามเทคนิคที่ DooDiDo ได้นำมาเสนอในวันนี้นะคะ เพื่อที่คุณจะได้ผ่อนคลายจากการเล่นเกมและไม่ทำให้กลายเป็นคนติดเกมได้นั่นเองค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.gamingdose.com