5 เคล็ดลับแก้ผมเสียที่เกิดจากการย้อมสีผม

การกัดสีผมเพียงครั้งเดียวก็เป็นทำลายเส้นอย่างผมมากแล้ว

ในช่วงซัมเมอร์เป็นช่วงที่คนย้อมสีผมกันมากที่สุด เป็นจะเพิ่มสีสันและความสวยงามให้ตัวเอง และสำหรับคนที่ชอบทำสีผมบ่อย ๆ จะสังเกตได้ว่ามักจะเจอกับปัญหาผมแห้งเสีย ปลายผมแตก ชี้ฟู และบางคนก็มีอาการผมร่วงตามมาได้ เนื่องจากใน้ำยาย้อมสีผมมีสารเคมีที่ทำให้ผมขาดความชุ่มชื่น วันนี้เรามีเคล็ดลับวิธีที่จะให้คุณได้บอกลาปัญหาผมเสียจากการทำสี ให้กลับมามีสุขภาพผมที่ดี ได้อย่างมั่นใจค่ะ

สาเหตุที่ผมแห้งเสียจากการทำสี เพราะ ในน้ำยาย้อมสีผมหรือน้ำยากัดสีผม มีสารเคมีเป็นส่วนประกอบซึ่งสารเคมีมีความเป็นกรดเป็นด่าง ส่งผลให้รากผมและเส้นผมอ่อนแอ ขาดหลุดร่วงได้ง่าย และผมจะมีลักษณะแห้ง กรอบ ขาดความชุ่มชื่น เงางาม หรือที่หลายคนชอบเรียกว่าผมไม้กวาด นอกจากนี้การกัดสีผมหลาย ๆ รอบ เพื่อให้ได้สีผมที่ต้องการอาจเป็นการทำร้ายหนังศีรษะและเส้นผม เพราะสารเคมีจะไปทำลายโปรตีนที่อยู่ในเส้นผม ทำให้ผมแห้งเสีย ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพผมของแต่ละคนด้วยเช่นกัน หากคนที่มีผมอ่อนแอ เปราะบาง ไม่แข็งแรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การกัดสีผมเพียงครั้งเดียวก็เป็นทำลายเส้นอย่างผมมากแล้ว ดังนั้นควรที่จะบำรุงให้เส้นผมแข็งแรงก่อนที่จะใช้เคมีกับผม

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@heftiba

1. ลดการใช้ความร้อนกับเส้นผม
ลดการใช้ความร้อนกับเส้นผมจากอุปกรณ์ทำผมต่างๆ หรือให้หลีกเลี่ยงไปเลยประมาณ 1 เดือน เพราะการฟอกสีผมจะทำลายกรดไขมันตามธรรมชาติบนแกนผม ซึ่งการใช้ความร้อนกับเส้นผมจะทำให้เส้นผมที่เปราะบางอยู่แล้วได้รับความเสียหายเพิ่มมากขึ้น หรือถ้าจำเป็นต้องทำผมจริงๆ แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยกันความร้อนเส้นผมก่อน นอกจากความร้อนจากอุปกรณ์ทำผมต่างๆ แล้ว ความร้อนจากแสงอาทิตย์ที่มีรังสียูวี ก็มีส่วนทำลายเส้นผมเช่นกัน ดังนั้นแนะนำให้ปกป้องเส้นผมจากแสงแดดด้วยการใช้ร่มกันยูวีหรือใส่หมวกเวลาออกไปข้างนอก หรือให้หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดไปเลย

อีกทั้งการสระผมด้วยน้ำที่ร้อนก็อาจทำให้ผมเสียสูญเสียความชุ่มชื้น และชี้ฟูมากขึ้นได้ ดังนั้นแนะนำให้สระด้วยอุณหภูมิที่ไม่ร้อนเกิน อุณหภูมิอุ่นๆ กำลังพอดี และปิดท้ายด้วยน้ำเย็นก็จะช่วยปิดเกล็ดผม และทำให้ผมดูนุ่มและเป็นประกายมากขึ้น

2. ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดผม
หลังจากสระผมแล้ว แนะนำให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดเส้นผม เพราะผ้าชนิดนี้มีความอ่อนโยนกว่าผ้าขนหนูโดยทั่วไป เช็ดแล้วจะช่วยลดแรงเสียดทานได้ หรือแนะนำให้เลือกผ้าขนหนูที่นุ่มขึ้นก็จะช่วยให้ผมของเราไม่ชี้ฟู รวมถึงจัดทรงง่ายขึ้น หรือการปล่อยให้ผมแห้งเองตามธรรมชาติก็ช่วยรักษาสุขภาพเส้นผมได้เช่นกัน

3. ใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยบำรุงและปกป้องผม
ผมเสียก็ต้องได้รับการบำรุงไม่ต่างจากผิวหน้าของเรา โดยเฉพาะการทำสีผม ฟอกสีผมต่างๆ ที่ทำให้หนังศีรษะของเราได้รับความเสียหายและส่งผลให้ผมเสีย เพราะถ้าหากหนังศีรษะของเรามีสุขภาพที่ดี เส้นผมของเราก็จะดีตามไปด้วย ดังนั้นแนะนำให้ใช้ทรีตเมนต์หนังศีรษะที่มีน้ำมันธรรมชาติ เพื่อคืนความชุ่มชื้นที่สูญเสียไป พร้อมกับการนวดหนังศีรษะไปด้วยก็จะช่วยได้ดีขึ้น

นอกจากบำรุงด้วยออยล์แล้ว ยังแนะนำให้มาส์กผมหรือหมักผมทุกๆ สัปดาห์เสริมไปด้วย โดยเฉพาะปลายผมที่แห้งเสียจากการทำสี เราสามารถบำรุงต่อด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ เซรั่ม หรือออยล์ได้ รวมถึงเรายังสามารถใช้ครีมนวดผมไม่ต้องล้างออก (Leave-In) สำหรับปกป้องเส้นผมจากมลภาวะตลอดทั้งวันได้อีกด้วย เพราะการใช้ทรีทเมนต์แบบไม่ต้องล้างออกหลังจากสระผมนี้ จะช่วยปรับสภาพเส้นผม แถมช่วยฟื้นคืนความงามให้กับเส้นผมของเราได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@primipil

4. งดทำสีหรือฟอกซ้ำ
หลังจากฟอกสีผมและทำสีผมมาแล้ว ไม่ควรรีบฟอกเพิ่มหรือทำสีใหม่ในเวลาใกล้เคียงกัน เพราะจะยิ่งเป็นการทำลายเส้นผมเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งเรายังควรงดทำเคมีต่างๆ กับเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นการดัดผมหรือยืดผมในช่วงหลังจากทำสีมาใหม่ๆ เช่นกัน ควรปล่อยให้เวลาผ่านไปก่อน ให้เส้นผมของเราได้รับการฟื้นฟูใหม่อีกครั้ง

5. เล็มผมเป็นประจำ
การทำสี ฟอกสีผม ส่งผลทำให้ผมแห้ง รวมถึงผมแตกปลาย ซึ่งการเล็มผมจะช่วยกำจัดผมแตกปลาย และทำให้ผมใหม่ที่สุขภาพดีกว่ายาวขึ้นได้ โดยแนะนำให้เล็มทุกๆ 6-12 สัปดาห์ หรืออาจจะทุกๆ 3-4 เดือนก็ได้เช่นกัน ซึ่งการเล็มผมเป็นประจำนั้นจะช่วยรักษาสุขภาพเส้นผมให้ดีอยู่เสมอ หรือใครที่กำลังจะเริ่มทำสีผม การเล็มผมก่อนทำสีจะสามารถกำจัดผมแตกปลายที่อ่อนแอไม่ให้ทวีความเสียหายเพิ่มมากขึ้นได้

สำหรับสาว ๆ คนใดที่ชอบการย้อมสีผมเป็นชีวิตจิตใจ ก็อย่าลืมที่จะบำรุงให้เส้นผมแข็งแรงก่อนที่จะใช้เคมีกับผมนะคะ เพราะการย้อมสีผมเพียงครั้งเดียวก็เป็นทำลายเส้นอย่างผมมากเลยค่ะ อย่าลืมทำตามวิธีที่ DooDiDo นำมาฝากนะคะ  และสาว ๆ จำเป็นอย่างมากที่จะต้อง ทำแฮร์มาร์กอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง เพื่อบำรุงเส้นผม และเพิ่มสารอาหาร วิตามินให้เส้นผมแข็งแรง รวมไปถึงกู้ผมเสียให้กลับมามีชีวิตชีวามากขึ้นนั่นเอง

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://women.trueid.net, https://oem.thaimedicos.com