5 เคล็ดลับตัวช่วยเอาชนะ “ภาวะซึมเศร้า” ให้กับคุณแม่หลังคลอด

WM

ร่างกายที่อ่อนเพลียจะทำให้อาการซึมเศร้าที่คุณแม่เป็นอยู่เลวร้ายลง

เป็นเรื่องปกติของคุณแม่หลังคลอดต้องเจอกับอารมณืเศร้าโยไม่รู้ตัวที่เรียกว่า ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด อาการของภาวะนี้จะส่งผลกระทบต่อการดูแลลูกน้อยและการใช้ชีวิตประจำวันของคุณแม่ หากไม่ได้รับการเยียวยาหรือหากปล่อยไว้นาน อาจทำให้เกิดอันตรายต่อตัวแม่และลูกน้อยได้ค่ะ ดังนั้นคนรอบข้างไม่ควรละเลย ต้องช่วยกันสังเกตพฤติกรรมและอารมณ์ของคุณแม่ด้วยนะคะ

ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด หรือที่เราเรียกกันว่า Maternity Blues นั้นเป็นกลุ่มที่พบได้บ่อยที่สุดนั่นคือ 50 – 70 เปอร์เซ็นต์!! ซึ่งอาการนั้นจะเริ่มต้นจาก อาการซึมเศร้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน และมักจะปรากฎให้เห็นในช่วง 2-5 วันหลังคลอด โดยคุณแม่บางท่านก็มีภาวะดังกล่าวในช่วงเวลาแค่ 2-5 วันหลังคลอด แต่สำหรับบางท่านเป็นนานเป็นเดือนก็มีเช่นกัน เนื่องจากไม่ได้รับการเยียวยาหรือรักษาได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที พอเป็นนานเข้าอาการดังกล่าวก็ทรุดหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็นสาเหตุของการจบชีวิตตัวเองในที่สุด

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/marcisim-595307/

1.หาคนพูดคุยและรับฟัง
การที่เราจะสามารถเอาชนะภาวะซึมเศร้าหลังคลอดได้นั้นก็คือ การหาคนที่จะมาคอยพูดคุยและรับฟังความรู้สึกของเราได้ ซึ่งคนที่เหมาะสมที่สุดก็คือ คนใกล้ตัว ยกตัวอย่างเช่น สามี และถ้าหากสามีรับฟังแล้ว และก็ยังไม่เข้าใจ ให้คุณแม่หันกลับไปพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ ญาติพี่น้องหรือแม้แต่เพื่อนสนิทค่ะ เปิดใจให้เขาได้รับฟัง และคนที่รับฟัง ก็ควรที่จะเข้าใจด้วยว่า ในบางครั้งการที่คุณภรรยา หรือแม้แต่เพื่อนของคุณมาพูดคุยมาระบายกับคุณนั้น บางทีเขาก็ไม่ได้ต้องการรับฟังความคิดเห็นอะไร เพียงแต่อยากหาใครสักคนรับฟัง คนที่เขาสามารถพูดคุยได้อย่างสบายใจนั่นเอง

2.รับประทานแต่อาหารที่ดีและมีประโยชน์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผักและผลไม้สด รวมทั้งน้ำผลไม้คั้นสดนั้นเป็นแหล่งของวิตามินที่ช่วยให้คุณแม่รู้สึกสดชื่นและช่วยให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนอาหารจำพวกขนมหวานหรือของกินจุบจิบนั้นควรหลีกเลี่ยง แล้วหันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์บ่อย ๆ ในปริมาณน้อย และยังไม่ต้องคิดอดอาหารหรือลดน้ำหนักในตอนนี้นะคะ เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายขาดสารอาหารได้ แล้วลูกจะเอาสารอาหารที่ไหนไปบำรุงสมองและช่วยพัฒนาร่างกายของลูกๆ ละคะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/publicdomainpictures-14/

3.พักผ่อนให้เพียงพอ
ในช่วงกลางวันให้คุณแม่ควรพยายามงีบหลับบ้าง และหาคนช่วยดูแลลูกในตอนกลางคืน เพื่อที่จะได้มีเวลาพักผ่อนให้มากขึ้น ทำให้รู้สึกสดชื่น เพราะร่างกายที่อ่อนเพลียนั้นจะทำให้อาการซึมเศร้าที่เป็นอยู่เลวร้ายลง คุณแม่ต้องระวังอย่าทำอะไรเกินกำลังตนเอง อย่าฝืนทำในสิ่งที่ทำไม่ไหว เมื่อเหนื่อยนักก็ควรเอนหลังนั่งหรือนอนสบาย ๆ ยกขาสูง ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย ฟังเพลงโปรด อ่านหนังสือสักเล่ม ก็จะช่วยให้สดชื่นขึ้นได้

4.ดูแลและเอาใจใส่ตัวเอง
คุณแม่อย่าเป็นกังวลในสิ่งที่ไม่ควรกังวล ถ้าบ้านจะสกปรกหรือรกไปบ้างก็ให้ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ทำไปทีละเล็กละน้อย รู้จักปล่อยวางบ้าง อย่าทำให้ตัวเองต้องเครียดไปเสียทุกเรื่อง และควรคิดถึงตนเองในแง่ดีและให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอ ส่วนคุณพ่อก็อย่าเพิ่งเรียกร้องหรือคาดหวังว่าบ้านจะต้องสะอาด กลับมาแล้วอาหารจะต้องพร้อมเหมือนเช่นตอนที่ยังไม่มีลูก เพราะจะยิ่งทำให้คุณแม่วิตกกังวลและว้าวุ่นกับงานบ้านจนเกินไป

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/yogabelloso-17210573/

5.ออกกำลังกายเบาๆ
พยายามอย่ามัวแต่อุดอู้อยู่แต่ในบ้านและหมกมุ่นอยู่กับการเลี้ยงลูกมากจนเกินไป ควรปลีกเวลาออกไปเดินเล่นกับลูกหรือออกกำลังกายเบา ๆ บ้าง หรือจะเล่นโยคะ ก็สามารถทำได้เช่นกัน การออกกำลังกายจะช่วยให้คุณแม่รู้สึกกระปรี้กระเปร่า และสดชื่นขึ้น
ภาวะซึมเศร้าภาวะที่ไม่มีใครอยากเป็น แต่หากเป็นแล้วก็สามารถผ่านพ้นไปได้ ตราบใดที่ตัวคุณเองและคนรอบข้างเข้าใจ

ไม่มีคุณแม่คนไหนที่อยากจะให้ตัวเองเกิดอาการซึมเศร้าหลังคลอดหรอกนะคะ DooDiDo คุณพ่อและคนรอบข้างต้องทำความเข้าใจ และพยายามช่วยเหลือ ประคับประคองสภาวะจิตใจ ช่วยซัพพอร์ตจิตใจคุณแม่ให้มีกำลังใจด้วยนะคะ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้คุณแม่มีอาการดีขึ้น กลับมาเป็นสภาวะปกติได้อย่างรวดเร็วเลยค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.amarinbabyandkids.com