5 สาเหตุที่ทำให้น้องหมามีอาการ “หอบ” ผิดปกติ

หากน้องหอบถี่ขึ้นหรือหายใจดังอาจเป็นสัญญาณบอกถึงความผิดปกติ

เจ้าของสุนัขคงจะรู้กันดีว่าน้องหมาของเรานั้นหายใจแรง ซึ่งอาการหายใจแรงนั้นนับเป็นอาการปกติหากเกิดระหว่างและหลังจากการเล่นของสุนัขค่ะ แต่หากน้องหมาของคุณมีอาการหายใจแรงหรือหายใจหอบระหว่างที่กำลังพักผ่อนอยู่นั้น แสดงว่าน้องกำลังมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับสุขภาพค่ะ เจ้าของจึงต้องคอยสังเกตอาการหอบปกติของสุนัขและเปรียบเทียบกับอาการหอบที่เกิดขึ้นว่าแตกต่างไปจากปกติหรือไม่

อาการหอบในสุนัขเกิดได้ทั้งจากที่เป็นโรคและไม่เป็นโรค กล่าวคือ เมื่อร่างกายถูกใช้งานหนักจนเกิดอาการเหนื่อย ทั้งการวิ่งออกกำลังกายก็ดี ร่างกายจะตอบสนองด้วยการหายใจเร็ว ตื้น และถี่ขึ้น เพื่อเติมออกซิเจนให้เข้าสู่ปอด และ ยังเป็นช่องทางระบายความร้อนที่สำคัญของสุนัขด้วย ซึ่งหากเราได้ให้สุนัขหยุดพักผ่อนสักครู่ สุนัขก็จะกลับมาหายใจได้ในจังหวะที่ปกติตามเดิม ดังนั้นอาการหอบของสุนัขจึงแบ่งได้ทั้งการหอบที่ปกติและการหอบที่ผิดปกติ อาการหอบที่มากและยาวนานเกินไป หรือเกิดในภาวะที่ร่างกายพักผ่อน ล้วนบ่งบอกถึงความผิดปกติ ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงอาการหอบที่ผิดปกติกัน ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้างครับ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@jamie452

1.โรคหัวใจและปอด
สุนัขที่มีภาวะหัวใจวายมักจะแสดงอาการหอบ เหนื่อยง่าย และหายใจลำบาก แม้จะเป็นในขณะพักผ่อนที่ไม่ได้ออกกำลังกาย อีกทั้งยังมีอาการไอแห้งและอ่อนแรงได้ด้วย มักพบได้ในเวลากลางคืนหรือขณะที่นอนราบ ทั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่หัวใจทำงานผิดปกติ ทำให้การสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงตามเนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ ทำได้ไม่ดี อีกทั้งการเกิดภาวะน้ำท่วมปอด ทำให้การแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนทำได้ไม่ดี ร่างกายจึงต้องปรับตัว โดยการเพิ่มความถี่ของการหายใจมากขึ้น สุนัขจึงแสดงอาการหอบให้เราได้เห็น

2.ความเครียด ความกลัว และความวิตกกังวล
สุนัขที่เกิดความเครียดส่วนใหญ่ได้รับแรงกระตุ้นมาจากสิ่งแวดล้อม จนทำให้รู้สึกไม่สบายใจและไม่สบายตัว และมักจะตอบสนองด้วยการหายใจเร็วและถี่ขึ้นหรือหอบ เราเรียกว่า Behavioral panting อาจเกิดได้เมื่อต้องเจอกับสิ่งที่กลัว หรือมีประสบการณ์ที่ไม่ดีมาก่อน เช่น เสียงพลุ การพาไปในบางสถานที่ ฯลฯ สุนัขจะมีอาการสั่นกลัว หลบซ่อน ทำตัวแข็ง แลบลิ้นออกมาบ่อยๆ หายใจหอบ เลียเท้าตัวเอง น้ำลายไหลยืด บางตัวอาจถึงขั้นมีอุจจาระและปัสสาวะราดเลยทีเดียว

3.ความเจ็บปวด
เมื่อสุนัขเจ็บปวดหรือเกิดความไม่สบายตัว ก็มักจะแสดงอาการหอบให้เราได้เห็นได้ เรื่องเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในขณะที่นอนพักผ่อนปกติ แม้ไม่ได้ออกกำลังกาย เวลาที่น้องหมาเจ็บปวดร่างกายจะเร่งการทำงานของระบบประสาทซิมพาเธติกให้หลั่งอิพิเนฟรินเพิ่มขึ้น มีผลทำให้มีการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและอัตราการหายใจเพิ่มขึ้น เจ้าของจึงสามารถสังเกตเห็นว่าน้องหมาจะหายใจเร็วขึ้นผิดปกติ บางตัวถึงกับหอบ มีรูม่านตาขยาย หากเอามือไปจับโดนบริเวณที่เจ็บปวดอยู่ สุนัขก็อาจจะร้องปวด และอาจหันกลับมางับเราได้ บางตัวจะซึมนอนมากขึ้นไม่ยอมเคลื่อนไหวร่างกาย หรือมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เช่น ก้าวร้าวขึ้น ขู่ แยกเขี้ยวใส่

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@stefyaich

4.ภาวะฮีทสโตรก
ภาวะฮีทสโตรกเป็นปัญหาที่พบบ่อยในบ้านเรา เกิดได้ตลอดทั้งปีและพบได้ในสุนัขทุกพันธุ์ โดยเฉพาะสุนัขพันธุ์หน้าสั้น สุนัขที่อ้วนมากๆ หรือมีปัญหาโรคประจำตัวบางอย่างที่ส่งผลต่อการระบายความร้อนของร่างกาย เมื่อสุนัขต้องอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง หรือไม่สามารถระบายความร้อนได้ตามปกติ ก็จะทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นมาก จนเกิดภาวะฮีทสโตรกขึ้นได้ สุนัขจะตอบสนองและระบายความร้อนออกมาด้วยการหอบ โดยจะการหายใจเร็วและถี่มากขึ้น มีน้ำลายไหลยืดมากผิดปกติ อาจถึงขั้นหมดสติ หรืออาเจียนและถ่ายออกมาเป็นเลือด

5.ภาวะโลหิตจาง
เมื่อน้องหมามีภาวะโลหิตจาง จำนวนเม็ดเลือดแดงจะลดลง ทำให้การขนส่งออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายลดลงด้วย น้องจะมีอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น หายใจถี่ขึ้น เกิดอาการอ่อนแรง ซึม สีเยื่อเมือกซีด กินอาหารน้อยลง อาจถึงขึ้นเป็นลมหมดสติ และในกรณีที่สุนัขมีภาวะเสียเลือดภายในอวัยวะทางเดินอาหารจะพบอุจจาระเป็นสีดำ

หากเจ้าของสุนัขพบว่าน้องแสดงอาการหายใจแรงในตอนกำลังนั่ง ๆ นอน ๆ และมากกว่า 35 ครั้งต่อนาที อาจแสดงถึงอาการป่วยที่รุนแรง หากเจ้าสุนัขของเห็นถึงความผิดปกติของการหอบตามที่ DooDiDo ได้นำมาบอกกล่าวข้างต้นนี้ ให้รีบพาน้องหมามาพบสัตวแพทย์ได้ทันท่วงทีนะคะ เพราะถ้าหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้น้องเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ค่ะ อย่าลืมใส่ใจสุขภาพของสุนัขเพื่อให้น้องมีสุขภาพที่ดี อยู่กับเจ้าของไปนาน ๆ นะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.talingchanpet.net, www.dogilike.com