5 วิธีดูแลขนให้น้องเหมียว ช่วยป้องกันอาการขนร่วงได้

WM

ไม่อาบน้ำแมวบ่อยจนเกินไป อาจเป็นการทำร้ายผิวหนังและขนแมวทางอ้อม

สำหรับบ้านไหนที่มีแมวเป็นสัตว์เลี้ยง จะสังเกตได้ว่าตามเสื้อผ้าหรือตามเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ภายในบ้านจะมีขนแมวที่ร่วงติดเต็มไปหมด ถือเป็นเรื่องปกติค่ะถ้าน้องแมวที่บ้านจะผลัดขน แต่สำหรับแมวบางตัวอาจเจอปัญหาขนร่วงเป็นหย่อม ๆ และร่วงมากจนผิดปกติ ซึ่งอาการขนร่วงของน้องแมวเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น ปัญหาโรคผิวหนังหรือการแพ้ แร่ธาตุสารอาหารที่ได้รับไม่สมดุล และการผลัดขนตามฤดูกาล วันนี้เราจะพาทาสแมวทั้งหลายมาดูวิธีดูแลขนให้น้องเหมียว ช่วยป้องกันอาการขนร่วงกันค่ะ

หนึ่งในปัญหาที่มาคู่กับการเลี้ยงแมว ที่ไม่ว่าเจ้าของแมวคนไหนก็หนีไม่พ้นก็คือปัญหาแมวขนร่วง น้องแมวบางตัวขนร่วงจนเจ้าของแมวถึงกับกังวลว่านี่เป็นเรื่องธรรมดาของแมว หรือแมวกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังกันแน่ เรื่องขนแมวจึงไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ แต่เป็นปัญหาชวนปวดขมับ และอาจตามมาด้วยปัญหาอื่นๆ มากมายหากเราไม่รู้ว่านี่คือการผลัดขนตามปกติ หรือขนร่วงจากสาเหตุอื่น มารู้ให้ทันเรื่องการผลัดขน และจัดการปัญหาเรื่องน้องแมวขนร่วงกันตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้เจ้าของสบายใจ และน้องแมวสบายตัวกันดีกว่า

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/freepik

1.ให้อาหารที่มีโภชนาการครบถ้วน
ถ้าหากเป็นอาหารสำเร็จรูป ลองเลือกสูตรที่บำรุงขนและผิวหนัง จะช่วยทำให้ขนแมวนุ่มน่าสัมผัสเป็นพิเศษ แต่ถ้าให้อาหารปรุงเอง (อาหารสด) ลองใส่วิตามินบำรุงขนสำหรับแมว ผสมกับอาหารก็ได้ ไม่ควรให้อาหารซ้ำๆ เดิมๆ เป็นระยะเวลานาน เพราะอาจทำให้ได้รับสารอาหารที่บำรุงขนได้ไม่ครบถ้วน และยังทำให้แมวเบื่อ จำเจ และติดกับอาหารเก่ามากเกินไป จนเปลี่ยนอาหารได้ยาก ควรหมุนเวียนสับเปลี่ยนอาหารบ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้แมวเลือกกินได้อีกด้วย

2.ป้องกันและกำจัดเห็บหมัด เห็บ ไร และหมัด
เป็นปรสิตภายนอกที่ทำให้แมวของคุณมีปัญหาเรื่องขนและผิวหนังมากที่สุด ถ้าแมวโดนเห็บหรือหมัดกัด จะเกิดอาการคันตามมา ถ้าหากแมวแพ้เห็บหมัดมากๆ ก็จะเกาจนขนหลุดร่วงและผิวหนังเป็นแผลได้เลย ซึ่งนับว่าเห็บหมัดเป็นตัวการที่ทำให้ขนและผิวหนังแมวอ่อนแอ จึงควรป้องกันเห็บหมัดในแมวด้วยยาหยอด ซึ่งมีวางจำหน่ายตามโรงพยาบาลสัตว์และเพ็ตช็อปทั่วไป และหลีกเลี่ยงพาแมวไปในที่สุ่มเสี่ยง เช่นในที่สกปรก และเลี้ยงแมวในระบบปิด ก็จะช่วยลดการแพร่กระจายของเห็บหมัดได้ ถ้าหากพบว่าแมวที่เลี้ยงไว้มีเห็บหรือหมัดควรแยกออกจากตัวอื่นโดยเร็ว เพื่อป้องกันเห็บหมัดไปติดแมวตัวอื่นนั่นเอง

3.ไม่อาบน้ำแมวบ่อยจนเกินไป
ทุกครั้งที่อาบน้ำแมว เหมือนกับเป็นการทำร้ายผิวหนังและขนแมวทางอ้อม เพราะทำให้ขนแมวหลุดร่วงเป็นจำนวนมาก และผิวหนังจะแห้งมากขึ้น ทำให้เกิดรังแค ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของอาการคัน และขนร่วงตามมาได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/freepik

4.การกำจัดขนที่หลุดร่วง
อุปกรณ์ในการดูแลประกอบไปด้วย หวี แปรง ที่มีลักษณะเป็นซี่ยาว (ซี่สั้นเหมาะกับแมวที่มีขนสั้น) การแปรงขนจะช่วยให้ขนที่กำลังจะผลัดออกหลุดติดมากับหวี ในแต่ละวันคุณควรแปรงขนให้แมวเหมียว 1-2 ครั้ง ปริมาณขนที่หลุดกระจัดกระจายก็จะลดน้อยลง จนคุณพอใจ นอกจากนี้ อุปกรณ์ที่เป็นประโยชน์อีกอย่างหนึ่งก็คือ ถุงมือที่มีปุ่มยางบนฝ่ามือ เอาไว้ดักจับขนและช่วยดึงขึ้นมาได้

5.เสริมผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นขน
ที่ประกอบด้วยกรดไขมันชนิดโอเมก้า 3 โอเมก้า 6 ไบโอติน สังกะสี และวิตามินต่างๆ ที่จะช่วยบำรุงเส้นขนและช่วยลดอาการอักเสบของผิวหนัง โดยควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับน้องแมวของคุณ

การดูแลขนให้น้องแมวเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของต้องใส่ใจให้มาก DooDiDo พยายามอย่าให้น้องแมวเครียด ถ้าแมวอยู่ในสภาวะเครียดจะส่งผลทำให้ขนร่วงได้ เจ้าของควรแปรงขนแมวสม่ำเสมอ วันละ 1-2 ครั้ง เพื่อกระตุ้นการผลัดขนตามธรรมชาติให้น้องค่ะ สิ่งสำคัญที่จะลืมไม่ได้ คือการดูแลเรื่องอาหารของน้องแมว เพื่อเป็นการดูแลสุขภาพให้กับแมวเพียงเท่านี้ก็จบเรื่องปัญหาขนที่คอยกวนใจเจ้าของน้องแมวได้แล้วค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.purina.co.th, www.sentangsedtee.com