“แมวหางกระต่าย” มีหางที่สั้นอันเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่น

ทำความรู้จัก กับ แมวหางกระต่าย (Japanese Bobtail)

วันนี้เรามีน้องแมวสุดน่ารักที่ขโมยหัวใจของทาสแมวหลายๆ คน อย่างแน่นอนค่ะ ลองมาทำความรู้จักกับแมวสุด CUTE เจ้าแมวทางกระต่าย ถือว่าเป็นพันธุ์น้องแมวเหมียวอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมนำมาเป็นสัตว์เลี้ยง ด้วยความน่ารัก อ่อนหวาน แสนรู้ แถมเลี้ยงง่ายชอบเข้าหามนุษย์มาก แมงหางกระต่าย เป็นที่รู้จักในประเทศญี่ปุ่นมาเป็นระยะเวลานานแล้ว ราวๆ ช่วงศตวรรษที่ 6 ที่วัดโกโตกุจิ และนิกโกะ ยังคงมีแผ่นไม้แกะสลักโบราณและภาพวาดของชาวญี่ปุ่นที่แสดงความรักต่อ แมวหางกระต่าย แมวพันธุ์นี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและไม่ได้รับการพัฒนาขึ้นแต่อย่างใด แมวหางกระต่ายมีส่วนหัวจะเป็นทรงสามารเหลี่ยมด้านเท่า มีหูที่ตั้งสูงและยื่นออกมาทางด้านหน้า กระดูกแก้มเด่น ตากลมมาเกเป็นพิเศษ ใครละจะอดใจไม่ให้เลี้ยงไหว อย่ารอช้าเราไปทำความรู้จักกับแมวหางกระต่ายให้มากขึ้นกันดีกว่าค่า

แมวหางสั้นฟูเป็นพู่กลมมีให้เห็นทั่วไปในบ้านเรา แต่ในต่างประเทศเขาขึ้นทะเบียนเป็นสายพันธุ์แมวชนิดหนึ่งเลยทีเดียว โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นมีแมวชื่อ “Japanese Bobtail” ทั้งพันธุ์ขนยาวและขนสั้น แมวหางกระต่าย ของญี่ปุ่น ไม่ว่าขนยาวหรือสั้นได้ปรากฏในงานศิลปะหลายประเภทของประเทศนี้มานานกว่าสามร้อยปีแล้ว

แมวสีขาวแต้มเหลืองและดำหางพู่กลม (อย่างที่ชาวต่างประเทศเรียก “pom-pom” เหมือนพู่เชียร์ลีดเดอร์) นี้ ชาวญี่ปุ่นมีชื่อเฉพาะว่า “Mi-ke” ส่วนแมวโชคดีหรือแมวกวักที่ทำเป็นตุ๊กตาเล็กๆ พบเห็นตามร้านค้าทั่วไป ในเมืองไทยก็มีผู้นำมาใช้เช่นกัน เพราะเป็นเครื่องรางที่เขาเชื่อถือ ทั้งยังน่ารักน่าเอ็นดูสำหรับคนรักแมว รู้จักกันในนาม “Maneki-neko” (neko แปลว่า แมว) เจ้าเครื่องรางแมวนี้ก็เป็น แมวหางกระต่าย ด้วย

นอกจากแมวหางกระต่ายของญี่ปุ่นแล้ว ยังมีแมวมานซ์ (Manx) จากเกาะ Isle of Man รัฐอิสระที่อยู่ระหว่างเกาะอังกฤษกับไอร์แลนด์ แมวมานซ์นี้แปลกกว่าแมวญี่ปุ่นตรงที่หางของมันกุดชนิดไม่มีตอเลย เรียกว่า “Rumpies” แบบหางสั้นคือ “Stumpies” และแบบหางขอดงอคือ “Tailies” เฉพาะ Rumpies เท่านั้นที่ถือเป็น Manx แท้ ส่งประกวดได้ แต่อีกสองชนิดก็มีคนนิยมเลี้ยงด้วยความน่ารักและเจ้าของไม่ปรารถนาโล่รางวัลใดๆ

แมวหางพู่อีกชนิดที่จดทะเบียนสายพันธุ์ไว้ ได้แก่ “Kurile Island Bobtail” มาจากแถบรัสเซีย แม้มีหางฟูกลมคล้ายแมวของญี่ปุ่น แต่พวกมันมีขนยาวหนา เพราะต้องสู้กับอากาศเย็นเยือก

ตามตำราเขาว่าในเอเชียมีแมวหางสั้น หางกุด หางกระต่ายอยู่มากมาย แต่ก็คงไม่มีการคัดเลือกพัฒนาสายพันธุ์อย่างจริงจัง ต่างกับชาวญี่ปุ่นที่ให้ความนิยมและเลี้ยงดูแมวน่ารักนี้มาหลายร้อยปี จากที่กล่าวไว้ว่ามีภาพของพวกมันปรากฏในงานศิลปะ ทั้งยังกลายเป็นเครื่องรางแห่งความโชคดี จึงสมควรระบุไว้ในสายพันธุ์ว่าเป็นแมวหางกระต่ายญี่ปุ่นโดยแท้

ประวัติแมวหางกระต่ายต่างๆ

– “Japanese Bobtail” (ขนยาว) เกิดเมื่อปี 1700 ในประเทศญี่ปุ่น น้ำหนักประมาณ 2.5-4 กิโลกรัม

– “Japanese Bobtail” (ขนสั้น) เกิดประมาณปี 1900 ในประเทศญี่ปุ่น น้ำหนักประมาณ 2.5-4 กิโลกรัม

– “Manx” เกิดประมาณปี 1700 ที่เกาะ Isle of Man น้ำหนักประมาณ 3-4.5 กิโลกรัม

– “Kurile Island Bobtail” เกิดประมาณปี 1800 ที่เกาะ Kurile Island น้ำหนักประมาณ 3-4.5 กิโลกรัม

*** สีขนของทุกชนิดมีหลากหลาย เช่น ดำปลอด ขาวปลอด สามสี ลายริ้วต่างๆ (Tabby) ที่ปัจจุบันคนไทยเรียกว่า “ลายสลิด” สีขาวแต้ม ลายสีมากมาย ฯลฯ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับสาระความรู้ดีที่เรา DooDiDo ได้นำมาฝากให้กับสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักน้องแมวเหมียว กับเรื่อง ที่เรานำมาฝากวันนี้กับ แมวสุด CUTE แมวหางกระต่าย น่ารักมากเลยใช่มั้ยละ มีหางที่สั้นอันเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัว โดยธรรมชาติ หางนี้เป็นส่วนที่เต็มและสมบูรณ์จากกระดูกสันหลังเช่นเดียวกับที่พบในแมวหางยางปกติ ที่สำคัญที่สุดหางอันนี้สั้นกว่าแมวพันธุ์อื่น ทรงเหมือนหางกระต่าย ขนของแมวหางกระต่าย แถมยังมีนิสัยชอบเข้ามาคนด้วย น่ารักเป็นล้านเท่าใครล่ะจะอดจนไม่ให้ตกหลุมรักได้ละค่า

แหล่งที่มา : www.baanlaesuan.com