แนะ 7 วิธีฟื้นฟูผมแห้งเสียให้กลับมามีสุขภาพดี!!

ควรใช้น้ำอุ่นหรือน้ำเย็นสระผมเพื่อป้องกันการสูญเสียไขมันตามธรรมชาติของเส้นผม

ปัญหาผมแห้งเสียยังคงเป็นปัญหาที่ทำให้คุณผู้หญิงหลายคนหนักใจอยู่มาก ไม่ว่าจะดุแลเส้นผมดีขนาดไหน บำรุงอย่างเต็มที่ทุกวิถีทาง ผมก็ยังคงแห้งเสีย แตกปลายอยู่บ่อย ๆ ซึ่งการที่ผมแห้งเสียนั้นเกิดจากสาเหตุจากโครงสร้างตามธรรมชาติของเส้นผมถูกทำลาย ไม่ว่าจะเป็นความร้อน และผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับเส้นผมที่มีสารเคมีเป็นส่วนผสม การรับประทานอาหาร หรือแม้แต่อายุด้วยค่ะ

ผมแห้งเสียเกิดจากการขาดความชุ่มชื้น การได้รับการบำรุงไม่เพียงพอหรือไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ ทำให้ผมไม่มีน้ำหนัก ชี้ฟู เปราะ และขาดง่ายสาเหตุของผมแห้งเสียมีหลายประการ โดยอาจเกิดจากการดูแลเส้นผมไม่ถูกวิธี สภาพอากาศ อายุ และโรคประจำตัวบางอย่าง ต่อมไขมันบริเวณรากผมทำหน้าที่ผลิตไขมันตามธรรมชาติ (Sebum) ทำหน้าที่เคลือบเส้นผมชั้นนอกเพื่อรักษาความชุ่มชื้นไว้ภายใน ช่วยให้ผมดูเงางามและมีสุขภาพดี หากมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของต่อมไขมันบริเวณเส้นผม อาจทำให้ผมแห้งเสียได้ บทความนี้จึงได้รวบรวมเทคนิคการฟื้นบำรุงผมแห้งเสียให้กลับมามีสุขภาพดีที่คุณสามารถทำตามได้ง่าย ๆ มาฝากกัน

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/gpointstudio

1.การสระผม
แชมพูส่วนใหญ่มักประกอบด้วยสารซัลเฟต (Sulfate) ซึ่งเป็นสารลดแรงตึงผิวที่ทำให้เกิดฟอง ช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ตกค้างอยู่บริเวณหนังศีรษะและเส้นผม รวมทั้งกำจัดไขมันที่จำเป็นต่อเส้นผมและหนังศีรษะ ผู้ที่มีผมแห้งเสียจึงควรเลือกใช้แชมพูที่ไม่มีส่วนผสมของสารซัลเฟต เพื่อป้องกันเส้นผมได้รับสารเคมีและช่วยให้สุขภาพผมที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ หากสระผมด้วยน้ำร้อนเกินไป อาจยิ่งทำให้ผมแห้งมากขึ้น จึงควรใช้น้ำอุ่นหรือน้ำเย็นสระผมเพื่อป้องกันการสูญเสียไขมันตามธรรมชาติของเส้นผม

2.การเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผม
การใช้ครีมนวดผมหลังสระผมทุกครั้ง จะช่วยบำรุงเส้นผมและเติมความชุ่มชื้นที่สูญเสียไปหลังการสระผม อาจใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมชนิดไม่ต้องล้างออก (Leave-In Conditioner) หรือน้ำมันบำรุงผมหลังการสระผม เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก และน้ำมันอาร์แกน (Argan Oil) เป็นต้น โดยเน้นทาบริเวณปลายผม ซึ่งเป็นส่วนที่แห้งและชี้ฟูง่าย

3.การหวีผม
การหวีผมที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้ผมหลุดร่วง เปราะ และขาดได้ง่าย หากมีผมพันกัน ควรใช้แปรงหรือหวีซี่ห่างสางผมที่พันกันให้คลายออก ซึ่งจะช่วยป้องกันผมหักงอหรือผมร่วง หลังสระผมเสร็จ ควรใช้ผ้าขนหนูซับน้ำอย่างเบามือ ไม่ควรเช็ดหรือขยี้ผมแรง ๆ เนื่องจากจะทำให้ผมหลุดร่วงมากขึ้น และควรปล่อยให้ผมแห้งตามธรรมชาติ จากนั้นจึงค่อยหวีผม เพราะการสางผมที่พันกันขณะที่ผมแห้งจะทำได้ง่ายกว่า และลดการขาดร่วงของผมได้ดีกว่าการสางผมเปียก

4.การจัดแต่งทรงผม
การใช้ความร้อนจัดแต่งทรงผมเป็นประจำ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผมแห้งเสีย จึงไม่ควรใช้อุปกรณ์ที่ให้ความร้อน อย่างไดร์เป่าผม เครื่องหนีบผม และเครื่องม้วนผมเกิน 1 ครั้งต่อสัปดาห์ และควรใช้สเปรย์หรือเซรั่มที่ช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนก่อนเสมอ ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีรุนแรงกับเส้นผมบ่อยครั้ง เช่น การทำสี การยืด หรือการดัดผมถาวร เพราะสารเคมีเหล่านี้อาจทำให้ผมแห้งเสียและอ่อนแอ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@awcreativeut

5.การดูแลผมเพิ่มเติม
แสงแดดจัดและลมแรงอาจทำให้ผมแห้งเสียได้ จึงควรใช้สเปรย์ป้องกันแสงแดดสำหรับเส้นผมก่อนออกจากบ้าน สวมหมวกขณะทำกิจกรรมกลางแจ้ง และหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจัดเป็นเวลานาน หากพบว่าเส้นผมแห้งเสียจากการถูกทำร้ายของแสงแดด อาจใช้เจลว่านหางจระเข้ชโลมลงบนเส้นผม เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผม

– สวมหมวกว่ายน้ำทุกครั้งเพื่อป้องกันเส้นผมจากการสัมผัสคลอรีนโดยตรง ล้างผมให้เปียกก่อนลงสระว่ายน้ำ ซึ่งจะช่วยป้องกันการดูดซับของคลอรีนเข้าสู่เส้นผม และควรสระผมให้สะอาดหลังจากว่ายน้ำ โดยใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนหรือแชมพูสำหรับใช้หลังว่ายน้ำโดยเฉพาะ เพื่อล้างคลอรีนออกจากเส้นผม แล้วจึงใช้ครีมนวดผมตามปกติ

– อีกหนึ่งเคล็ดลับผมสุขภาพดีสำหรับผู้ที่มีผมแห้งคือ การเล็มปลายผมออกเล็กน้อยทุก 6–8 สัปดาห์ ซึ่งนอกจากจะช่วยตัดผมที่แตกปลายออกแล้ว ยังทำให้สภาพผมโดยรวมดูสุขภาพดีขึ้นอีกด้วย

6.การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
สารอาหารที่มีประโยชน์ในการบำรุงเส้นผมให้มีสุขภาพดี ได้แก่ โปรตีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเส้นผม ช่วยให้ผมแข็งแรงไม่เปราะขาดง่าย รวมทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม อย่างธาตุเหล็ก สังกะสี (Zinc) วิตามินเอ วิตามินบี 12 วิตามินซี วิตามินดี และไบโอติน

7.การรักษาโรคที่เป็นสาเหตุของผมแห้งเสีย
หากมีโรคประจำตัวที่มีผลต่อการเกิดอาการผมแห้งเสีย ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา แพทย์อาจให้รับประทานยาหรือรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมและตรงจุด ซึ่งอาจทำให้อาการต่าง ๆ รวมทั้งผมที่แห้งเสียดีขึ้นได้

การใช้หวีที่ผิดประเภทจะทำให้เส้นผมพันกันจนเป็นสาเหตุของผมขาด หลุดร่วงได้ ดังนั้นสาว ๆ จึงควรเลือกใช้หวีที่เหมาะกับสภาพของเส้นผมตัวเอง เพื่อลดการพันกันของเส้นผมนะคะ และถ้าไม่อยากผมห้งเสียชี้ฟูให้ใช้ครีมนวดทุกครั้งหลังสระผม DooDiDo เพราะครีมนวดจะช่วยทำให้ผมนุ่มลื่น เด้ง มีน้ำหนักขึ้นมาทันตาเห็นเลยค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.pobpad.com