เหตุใดนักวิจัยคิดว่าเข่ามัมมี่ที่พบในสุสาน เนเฟอร์ตารีเป็นของเธอ

กว่าพันปีของประวัติศาสตร์อียิปต์มีราชวงศ์และผู้ปกครองที่มีอำนาจมากมาย หนึ่งในฟาโรห์ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือฟาโรห์รามเสสที่ 2

ซึ่งครองราชย์ยาวนานที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์อียิปต์ ในขณะที่การครองราชย์ของพระองค์เองนั้นเต็มไปด้วยความสำเร็จ เช่น โครงการก่อสร้างของพระองค์ รามเสสที่ 2 ยังเป็นที่รู้จักจากเนเฟอร์ทารี พระมเหสีของพระองค์ ซึ่งได้รับการรายงานว่าเป็นบุคคลที่โดดเด่นในสิทธิของเธอเองแม้ว่าเธอจะไม่เคยปกครองในฐานะกษัตริย์ แต่เธอก็ยังเป็นหนึ่งในราชินีที่มีชื่อเสียงที่สุดของอียิปต์ เคียงข้างกับคลีโอพัตรา เนเฟอร์ติติ

และฮัตเชปซุตNefertari เป็นภรรยาคนแรกของ Ramses II และได้รับการกล่าวขานว่าสวยงามมาก โดยชื่อของเธอมีความหมายถึง “สหายที่สวยงาม”นอกจากความสวยแล้ว เธอยังมีรายงานว่าเธอมีการศึกษาสูงและมีบทบาททางการเมืองร่วมกับสามีของเธอ เธอเป็นบุคคลอันเป็นที่รักในชีวิตและได้รับเกียรติอย่างมากหลังจากเธอเสียชีวิตเช่นกันหลังจากการตายของเธอประมาณ 1,250 ปีก่อนคริสตกาล Nefertari ได้รับเกียรติจากสามีของเธออย่างงดงามรามเสสที่ 2 เป็นที่รู้จักในฐานะผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่ในยุคสมัยของเขา เขาจึงหยุดทุกอย่างเมื่อเป็นเรื่องของภรรยาคนโปรดของเขา เขาสร้างหลุมฝังศพที่หรูหราของเธอในหุบเขาราชินี และยังสร้างวิหารทั้งหลังเพื่อเป็นเกียรติแก่เธอและเทพีHathorเมื่อเธอเสียชีวิตไปเมื่อหลายพันปีก่อน

มันก็สมเหตุสมผลที่สถานที่ฝังศพของเธอจะสูญหายไปตามกาลเวลา อย่างไรก็ตาม หลุมฝังศพของเธอถูกขุดพบอีกครั้งในปี 1904 โดยนักโบราณคดีชาวอิตาลี ตามรายงานของNPR สถานที่พำนักแห่งสุดท้ายของ Nefertari นั้นไม่มีอะไรฟุ่มเฟือย เนื่องจากมีภาพวาดอันประณีตที่ตกแต่งผนังและเพดานโชคไม่ดี แม้ว่าสุสานจะดูสวยงามในบางแง่ แต่ก็เคยได้รับความเสียหายร้ายแรงจากน้ำมือของโจรปล้นสุสานเช่นกัน

เมื่อนักโบราณคดีเริ่มสำรวจหลุมฝังศพ มีสองสิ่งที่เห็นได้ชัดทันที ตามรายงานของนิตยสารสมิธโซเนียนโลงศพที่บรรจุพระบรมศพของราชินีถูกทุบทิ้ง และเหลือเพียงซากศพมนุษย์บางส่วนเท่านั้น ขามัมมี่ทำให้นักโบราณคดีสงสัยว่าเป็นของใคร นี่เป็นขาของราชินีในตำนานหรือของคนอื่น? ทีมนักโบราณคดีนานาชาติตัดสินใจที่จะพยายามค้นหาจากข้อมูลของLive Scienceการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์เมื่อเร็วๆ

นี้เกี่ยวกับชิ้นส่วนขาของมัมมี่ได้ให้คำตอบบางอย่างแล้ว ขานั้นถูกกำหนดให้เป็นของผู้หญิงวัยกลางคนขึ้นไปซึ่งสูงประมาณ 5 ฟุต 5 นิ้ว นอกจากนี้ยังพบว่าขามีสัญญาณของโรคข้ออักเสบและภาวะหลอดเลือดแข็งตัว

ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้หญิงคนนั้นน่าจะอายุระหว่าง 40 ถึง 60 ปีตอนที่เธอเสียชีวิต DooDiDo การตรวจดีเอ็นเอไม่ได้ช่วยอะไร แต่มีหลักฐานเกี่ยวกับการดองศพที่พบได้ทั่วไปในราชวงศ์ที่ 19 สิ่งเหล่านี้ทำให้นักวิจัยเชื่อว่ากระดูกขาเหล่านี้น่าจะเป็นกระดูกของราชินีเนเฟอร์ตารี

แหล่งที่มา : GRUNGE