เลี้ยงลูกเชิงบวก เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว

เลี้ยงลูกเชิงบวก เป็นการเลี้ยงดูที่เกิดจากความเข้าใจในพัฒนาการตามวัยของลูก ทำให้เป็นสิ่งที่เอื้อต่อการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ได้เติมเต็มและเอาใจใส่ลูกด้วยความรัก เลี้ยงลูกเชิงบวกทั้งยังส่งผลให้ลูกเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีศักยภาพและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นได้ แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าลูกเริ่มมีทัศนคติเชิงลบ อาจจะเป็นผลมาจากทักษะการเลี้ยงดูของพ่อแม่ แต่ไม่ต้องกังวลให้ลองใช้เคล็ดลับง่ายๆ อ่านบทความ ดีๆ การเลี้ยงลูกเพื่อปลูกฝังทัศนคติเชิงบวกให้กับลูกด้วยเคล็บลับการเลี้ยงลูกเชิงบวก

เลี้ยงลูกเชิงบวกเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว

การเลี้ยงลูก คือ ความสมดุลระหว่างการเสริมพฤติกรรมที่ดีและไม่ดีโดยการเลี้ยงลูกเชิงบวก แต่หลายครอบครัวในสังคมไทยยังใช้อิทธิพลจากวัฒนธรรมการเลี้ยงลูกเชิงอำนาจ ที่ลูกต้องเชื่อฟังและให้ความเคารพต่อพ่อแม่ ทำให้เป็นการวางอำนาจเหนือลูก หรือบางครอบครัวถึงขั้นตีลูกเพื่อให้กลัวและหลาบจำ ถึงแม้จะดูเป็นเรื่องปกติของการดูแลลูกที่เราเห็นมานาน แต่สำหรับเด็กตัวเล็กๆ แล้วสิ่งนี้จะกลายเป็นภาพฝังใจ ทำให้เด็กหลายคนกลัว ไม่กล้าออกความคิดเห็น จะทำอะไรก็รู้สึกผิดไปหมด ไม่กล้าทำในสิ่งต่างๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้ส่งผลเสียระยะยาวไปจนโต ซึ่งตรงข้ามกับการเลี้ยงลูกเชิงบวกอย่างสิ้นเชิง การเลี้ยงลูกด้วยความรัก ความเข้าใจ และการชื่นชมลูก วิธีพูดกับลูกเชิงบวก วิธีการเลี้ยงลูกเชิงบวกเหล่านี้ถือเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูกได้ดีอีกด้วย

บทบาทการเลี้ยงลูกที่ดีส่งผลเชิงบวกต่อจิตใจ

การเลี้ยงลูกเชิงบวกด้วยการดูแลให้เติบโตขึ้นด้วยความรู้สึกมั่นใจและมีความสุข การแสดงพฤติกรรมเชิงบวกและทัศนคติเชิงบวกต่อชีวิต ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของบทบาทของคุณพ่อคุณแม่ สิ่งที่เด็กๆ เห็นและได้ยินจากคุณเมื่อคุณพ่อคุณแม่เมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ล้วนส่งผลต่อลูกมากกว่าสิ่งที่พยายามสอน ไม่ควรสอนลูกให้มีความคิดเชิงลบ ค่อยๆ ฝึกให้ลูกได้เรียนรู้การควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมด้วยการเลี้ยงลูกเชิงบวก เมื่อลูกเจอกับเรื่องที่ส่งผลเชิงลบต่อจิตใจ ให้พยายามช่วยอธิบายให้ลูกได้รู้ว่าเหตุการณ์เลวร้ายอาจไม่เลวร้ายเท่าที่ควรหรือไม่ได้ส่งผลเสียอย่างที่คิด หรืออาจใช้วิธีให้ลูกหันไปสนใจในสิ่งที่ชอบหรือทำได้ดีสักสองสามวัน จะได้รับประโยชน์จากการดึงความสนใจออกไปจากปัญหา การเลี้ยงลูกเชิงบวกแบบนี้จะช่วยให้ลูกผ่อนคลายและลดความสำคัญของปัญหาลงได้

เคล็ดลับง่ายๆ ให้เด็กได้พลังบวก

เคล็ดลับง่ายๆ ของการเลี้ยงลูกเชิงบวกที่จะช่วยให้เด็กๆ ได้พลังบวก และหนังสือ เลี้ยงลูกเชิงบวกได้มีการแนะนำให้พ่อแม่มอบสิทธิพิเศษสำหรับงานที่ลูกทำได้ดี เช่น ให้ลูกรับผิดชอบงานบ้าน ซึ่งความรับผิดชอบจะทำให้รู้สึกมีคุณค่า เปลี่ยนหน้าที่ให้ลูกรับผิดชอบไปเรื่อยๆ และไม่ควรคาดหวังความสมบูรณ์แบบจากลูก เลี้ยงลูกเชิงบวกด้วยการชมเชยความสำเร็จแม้จะเล็กน้อยก็ตามจะทำให้พวกเขารู้สึกภูมิใจ การปล่อยเด็กๆ ทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างอิสระจะทำให้พวกเขารู้สึกมีความสามารถและเข้มแข็ง บางครั้งให้พูดชื่นชม หรือให้รางวัลด้วยความรัก การกอด และคำชมเชย จะสามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์ได้มากกว่าการให้สิ่งของ การเลี้ยงลูกเชิงบวกจะทำให้เห็นว่าลูกกำลังเติบโตในแบบที่เราอยากเห็น

เทคนิคการเลี้ยงลูกเชิงบวก

จิตวิทยา การเลี้ยงลูก หรือเลี้ยงลูกเชิงบวก เป็นการเลี้ยงดูที่เกิดจากความเข้าใจในพัฒนาการตามวัย เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครอบครัว โดยมีวิธีการและเทคนิคการเลี้ยงลูกเชิงบวก ดังต่อไปนี้

• พ่อแม่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก : พฤติกรรมและทัศนคติของพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกเชิงบวกเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งไปถึงลูกโดยตรง พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเสมอ และในบางเรื่องอาจจะใช้การตั้งกฎระเบียบภายในบ้าน ซึ่งทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกเกิดแนวโน้มทำตามด้วยเช่นกัน
• ใช้คำพูดเชิงบวกและให้กำลังใจลูก : เมื่อลูกแสดงพฤติกรรมที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการพูดเพราะ แบ่งปันของให้เพื่อน หรือช่วยงานบ้านเพียงเล็กน้อย พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกเชิงบวกควรพูดชื่นชม เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูก
• ใช้เวลาและใกล้ชิดลูกมากขึ้น : การที่ได้ใช้เวลาอยู่กับลูกเป็นการกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการได้นั่งทานอาหารพร้อมกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน หรือพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน การเลี้ยงลูกเชิงบวกแบบนี้จะทำให้ลูกรู้สึกว่ามีพ่อแม่คอยใส่ใจและดูแลเสมอ
• ให้ลูกได้ออกความเห็น : การเลี้ยงลูกเชิงบวกที่เปิดโอกาสให้ลูกได้เสนอความคิดเห็น พร้อมทั้งชวนให้ลูกได้คิดถึงข้อดีและข้อควรระวังจากเรื่องนั้นๆ จะทำให้ลูกกล้าแสดงความคิดเห็นพร้อมกับมีกระบวนการคิดมากขึ้น
• สอนให้ลูกเอาใจเขามาใส่ใจเรา : การเลี้ยงลูกเชิงบวกที่สอนให้ลูกเข้าใจความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ ภาษา วัฒนธรรม ถือเป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรปลูกฝังให้ลูกตั้งแต่เด็ก เพราะการสอนให้ลูกเข้าใจคนอื่น จะเอื้อให้ลูกเข้าใจว่าแต่ละคนนั้นมีความต่างกัน และพร้อมที่ยอมรับความต่างนี้ด้วย
• สอนให้ลูกกล้ายอมรับผิด : พ่อแม่ที่ต้องการเลี้ยงลูกเชิงบวกต้องเริ่มทำเป็นตัวอย่าง เมื่อทำผิดต่อลูกให้พูดขอโทษ ซึ่งจะต้องกล้าที่จะขอโทษลูกอย่างไม่เขินอาย เป็นการสอนให้ลูกรู้ว่าถึงแม้จะเป็นผู้ใหญ่ก็ทำผิดพลาดและกล้าขอโทษ จะทำให้ลูกกล้าที่ยอมรับผิดเมื่อทำสิ่งผิดและเรียนรู้ที่จะแก้ไขในสิ่งที่ผิดให้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง

ผลสะท้อนของความพยายามเลี้ยงลูกเชิงบวก

แม้ว่าวิธีการทางวิทยาศาสตร์กำหนดลักษณะเฉพาะของรูปแบบการเลี้ยงลูกเชิงบวก วิจัยออกมาแตกต่างกัน แต่ก็มีความเห็นพ้องต้องกันว่าคุณลักษณะกว้างๆ ของการเลี้ยงลูกเชิงบวกสามารถแบ่งแยกความแตกต่างที่ครอบคลุมของความอบอุ่นและการควบคุมได้ ในขณะที่การเลี้ยงลูกเชิงบวกแบบความอบอุ่นมีลักษณะเป็นตัวบ่งชี้การยอมรับของพ่อแม่ ความพร้อมและการสนับสนุนทางอารมณ์ ความอ่อนไหว และการตอบสนองต่อความต้องการของเด็ก การควบคุมสะท้อนถึงความพยายามของพ่อแม่ในการจัดการพฤติกรรมของเด็ก การตระหนักรู้ถึงลักษณะเฉพาะของมิติการเลี้ยงลูกเชิงบวกนี้ทำให้มีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับผลที่ตามมาของพฤติกรรมการเลี้ยงลูกเชิงบวก ความอบอุ่นและการควบคุมก็แสดงให้เห็นอย่างต่อเนื่องว่าเป็นตัวกำหนดผลลัพธ์ด้านพฤติกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของลูก

บทสรุป

การปรับพฤติกรรมของลูกด้วยวิถีการเลี้ยงลูกเชิงบวกไม่ใช่การจดจ้องที่จะปรับพฤติกรรมให้ได้เท่านั้น ความคิดด้านหนึ่งที่มีความคิดพ่อแม่เป็นใหญ่ ที่พ่อแม่ต้องควบคุมพฤติกรรมที่ไม่ดีของลูกให้ได้ พ่อแม่มีอำนาจเหนือลูก ตีให้จำจะได้ไม่ทำอีก หรือความคิดด้านหนึ่งที่มีความคิดว่า พ่อแม่ต้องตามใจลูก เพื่อไม่ให้ลูกเกลียดพ่อแม่ และใช้การตามใจนั้นหยุดพฤติกรรมของลูก (แบบนี้เรียกว่า การติดสินบน) ถือเป็นวิถีการเลี้ยงลูกที่ไม่ใช่การเลี้ยงลูกเชิงบวกอย่างที่ควรจะเป็น

ติดตามเรื่องราวอื่นๆ และเกมส์ที่น่าสนใจได้ที่ : doodido.com

ขอบคุณภาพประกอบจาก : pexels.com

ขอบคุณแหล่งอ้างอิงจาก :

• theschoolrun.com
• kidshealth.org
• sciencedirect.com