เมื่อลูกอยากสวยเหมือนแม่ ควรใช้เครื่องสำอางค์เด็กแบบไหน

การใช้เครื่องสำอางค์เด็กต้องพิจารณาความปลอดภัยเป็นสำคัญ เนื่องจากผิวหนังของเด็กมีลักษณะพิเศษและบางครั้งอาจมีความไวต่อสารเคมีมากน้อยต่างกันจากผิวของผู้ใหญ่ นอกจากนี้เด็กมีความรู้สึกถี่ถ้วนต่อสารเคมีที่มีกลิ่นอันเจ็บตาหรือน่ารำคาญได้มากกว่าผู้ใหญ่ ต่อไปนี้คือบางแนวทางที่สามารถใช้เพื่อให้เครื่องสำอางค์เด็กมีความปลอดภัย

• เลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก: มีบริษัทผลิตเครื่องสำอางค์เด็กที่ได้รับการทดสอบและรับรองว่าปลอดภัยสำหรับเด็ก ควรอ่านป้ายกำกับสินค้าและค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารส่วนประกอบที่ใช้ในผลิตภัณฑ์
• ลดจำนวนสารเคมี: ควรเลือกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์เด็กที่มีสารเคมีน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ลดการใช้สารกลิ่นและสารเจือจาง
• ทดสอบผลิตภัณฑ์: ทดสอบผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์เด็กในบริเวณเล็กๆ บนผิวหนังของเด็กก่อนการใช้ในพื้นที่ใหญ่ เพื่อตรวจสอบว่ามีปัญหาผิวหรือไม่
• เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสีและกลิ่น: ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์เด็กที่มีสีและกลิ่นมักจะมีสารเคมีเพิ่มเติม ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสีเจือจางและกลิ่นน้อย
• ตรวจสอบวันหมดอายุ: ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์เด็กที่หมดอายุ เนื่องจากสารสกัดอาจเปลี่ยนแปลงได้
• หลีกเลี่ยงสารตกตะกอนและโลหะหนัก: ควรเลือกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์เด็กที่ปลอดภัยจากสารตกตะกอนและโลหะหนัก เนื่องจากสารเหล่านี้อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพ
• ให้ความสำคัญกับการล้างออก: ในกรณีที่เด็กใช้เครื่องสำอางค์ ควรให้ล้างออกให้ทั้งหมดก่อนที่จะนอนหรือก่อนออกจากบ้าน

การเลือกใช้เครื่องสำอางค์เด็กแบบออแกนิคมีความหมายที่ว่าคุณต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบที่มีตัวดัดแปลงจากธรรมชาติและปลอดภัยสำหรับผิวของเด็ก ตัวอย่างของสารส่วนประกอบที่นิยมในเครื่องสำอางค์เด็กออแกนิครวมถึง

• น้ำมันพืช: น้ำมันพืช เช่น น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันอโลน
• น้ำมันผลไม้: น้ำมันจากผลไม้ เช่น น้ำมันโสม, น้ำมันแก้วมังกร, น้ำมันเมล่อน
• สารธรรมชาติที่ทำหน้าที่เป็นสี: ส่วนประกอบที่ให้สีในเครื่องสำอางค์ออแกนิคมักเป็นสารจากธรรมชาติ เช่น แก้วมังกรสำหรับสีแดง หรือชาเขียวสำหรับสีเขียว
• น้ำผลไม้หรือดอกไม้: น้ำผลไม้หรือดอกไม้สามารถใช้เป็นส่วนผสมในลิปบาล์มหรือแบลช
• สารจากธรรมชาติที่ให้กลิ่น: สารหอมระอาดมักถูกนำมาใช้ในเครื่องสำอางค์ เช่น น้ำมันจากดอกไม้, น้ำตบร้อน
• สารที่ให้ความชุ่มชื้น: น้ำมันเมล่อนหรือน้ำมันมะปรางเป็นต้นมักถูกใช้ในลิปบาล์มหรือครีมบำรุง

การเช็ดเครื่องสำอางค์เด็กควรทำอย่างอ่อนโยนและระมัดระวังเพื่อปกป้องผิวหนังของเด็ก และให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและปลอดภัยสำหรับเด็ก นี่คือขั้นตอนที่สามารถทำได้

• ล้างมือ: การล้างมือก่อนทำความสะอาดเครื่องสำอางค์เด็กเป็นขั้นตอนสำคัญ เพื่อป้องกันเชื้อโรคหรือสารสกัดที่อาจอยู่บนมือ
• ใช้ผ้าสำอางค์หรือสำลี: เลือกใช้ผ้าสำอางค์หรือสำลีที่อ่อนโยนและไม่ทำลายผิวหนังเช็ดเครื่องสำอางค์เด็ก เช่น ผ้าลายหัวใจหรือผ้าที่ทำจากวัสดุอ่อนโยน
• ใช้น้ำอุ่น: การใช้น้ำอุ่นจะช่วยในการละลายสารสกัดและเครื่องสำอางค์เด็ก
• ใช้น้ำยาล้างหน้าเด็ก: เลือกน้ำยาล้างหน้าที่อ่อนโยนและไม่มีสารเคมีที่ทำให้แพ้ง่ายในการล้างเครื่องสำอางค์เด็ก
• ทำความสะอาดเบาๆ: ใช้ผ้าสำอางค์ที่ชุบน้ำยาล้างหน้าเบาๆ ลบเครื่องสำอางค์เด็กออกจากใบหน้า ทำเบาๆ และไม่ต้องใช้แรงมาก
• ล้างให้ละเอียด: ทำความสะอาดอย่างละเอียดในพื้นที่ที่ใช้เครื่องสำอางค์เด็ก เช่น ลิป, บริเวณดวงตา, แก้ม
• ล้างหลังใช้เครื่องสำอางค์: หลังจากใช้เครื่องสำอางค์เด็กแล้ว ควรทำความสะอาดผิวหน้าอีกครั้งเพื่อล้างคราบที่เหลือ
• ใช้น้ำอุ่นและผ้าที่มีสีอ่อน: น้ำอุ่นและผ้าที่มีสีอ่อนจะช่วยลดการกระทบที่มีต่อผิวหนัง
• ใช้สูตรที่อ่อนโยน: หากมีการใช้สารละลายเครื่องสำอางค์เด็ก ควรเลือกสูตรที่ไม่มีสารเคมีที่ทำให้แพ้ง่าย
• ใช้ครีมหลังทำความสะอาด: ใส่ครีมบำรุงผิวหน้าหลังการทำความสะอาดเพื่อช่วยบำรุงและปกป้องผิว

ถ้าเด็กแสดงอาการแพ้เครื่องสำอางค์เด็กหรือมีปัญหาผิวหนังจากการใช้เครื่องสำอางค์ ควรดำเนินการดังนี้

• หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ทันที: หากพบว่าเด็กมีอาการแพ้หรือปัญหาผิวหนังหลังจากใช้เครื่องสำอางค์เด็ก ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์นั้นทันที
• ล้างออกทันที: ล้างเครื่องสำอางค์เด็กบนผิวหนังให้ละเอียดด้วยน้ำอุ่นและน้ำยาล้างหน้าที่อ่อนโยน
• ใช้ครีมบำรุงผิว: ให้ผิวหนังของเด็กได้รับการบำรุงด้วยครีมหรือโลชั่นที่ไม่มีสารเคมีและอ่อนโยนต่อผิว
• ติดต่อแพทย์: หากมีอาการแพ้หรือปัญหาผิวหนังจากการใช้เครื่องสำอางค์เด็กแล้วไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์ทันทีเพื่อการวินิจฉัยและการรักษา
• ทดสอบผลิตภัณฑ์: หากต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์เด็กใหม่ ควรทดสอบในบริเวณเล็กๆ บนผิวหนังก่อนเพื่อตรวจสอบว่ามีปัญหาหรือไม่
• เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน: เลือกใช้เครื่องสำอางค์เด็กที่ไม่มีสารเคมีที่ทำให้แพ้ง่ายและอ่อนโยนต่อผิว
• ทำการทดสอบแพทช์: ถ้ามีความจำเป็นที่จะใช้เครื่องสำอางค์เด็ก ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังเพื่อทำการทดสอบแพทย์เพื่อตรวจสอบสารสกัดที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้
• เตรียมพร้อมในกรณีฉุกเฉิน: ในกรณีที่เด็กมีอาการแพ้เครื่องสำอางค์เด็กรุนแรง ควรรีบพบแพทย์หรือไปยังหน่วยบริการด้านการแพทย์

บทสรุป