เตรียมความพร้อมก่อนจะรับเลี้ยงเจ้าแมวเหมี๊ยวเข้ามาในบ้านของเรา

WM

วิธีการเลี้ยงดูแลเจ้าเหมี๊ยวเบื้องต้นให้มีสุขภาพที่ดี ปลอดเชื้อโรค

เราต้องยอมรับว่ากระแสการเลี้ยงน้องแมวกำลังเป็นที่นิยม และกำลังเฟื่องฟูเลยที่เดียวในปัจจุบัน เกิดเหล่าคนที่รวมตัวกัน และมีการเรียกแทนตัวเองว่า “ทาสแมว” กันเลยที่เดียว ความน่ารัก ความซุกซนของน้องแมวสามารถที่จะทำให้พวกเรานั้นหลงไปกับเสน่ห์พาะตัวของพวกเขาได้อย่างไม่ยากเลยทีเดียว ทุกท่านที่เป็นทาสแมวเองก็เลยมีความต้องการที่จะรับน้องแมงมาเลี้ยงดูภายในบ้านหรือแม้ในคอนโด แต่การเลี้ยงดูน้องแมวนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องให้พื้นที่ส่วนหนึ่งสำหรับพวกเขา เพราะแมวต้องมีการเลี้ยงดูที่ต้องการความเอาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพ และพื้นที่ปลอดภัยที่ปลอดเชื้อโรค ดังนั้น มาอ่านวิธีการเลี้ยงดูเข้าเหมี๊ยวเบื้องต้นที่พวกเรานำมาแนะนำในวันนี้กันเถอะคะ

และเพื่อพัฒนาการทางร่างกายจะได้เจริญเติบโตอย่างราบรื่นไม่มีติดขัด ปัจจุบันนี้ท้องตลาดมีอาหารสำเร็จรูปนับไม่ถ้วนรอให้คุณหยิบไปให้เจ้าเหมียวตัวน้อยที่บ้าน คำแนะนำง่ายๆของเราก็คืออ่านฉลากข้างถุงให้เป็น ดูซิว่าอาหารดังกล่าวนั้นเหมาะสำหรับช่วงวัยใด สายพันธุ์ไหน ส่วนเรื่องรสชาตนั้นเจ้าเหมียวต้องเป็นฝ่ายตัดสิน ทั้งนี้หากบ้านของคุณมีเจ้าตูบอยู่ด้วย เราขอเตือนไว้เลยว่าอาหารของสุนัขไม่เหมาะสำหรับแมว หมั่นคอยสังเกตด้วยล่ะว่าเจ้าเหมียวเข้าไปมั่วกินอาหารหรือเปล่า ถ้าใช่ล่ะก็เก็บอาหารให้มิดชิด เพื่อชีวิตอันสดใสของแมวน้อย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@josefhu15

How To เลี้ยงแมวในบ้านให้ปลอดเชื้อโรค

หากจะกล่าวถึงสัตว์เลี้ยงที่ได้ชื่อว่า “แมว”แล้ว ที่จริงแมวเป็นสัตว์ที่เราไม่ควรจะนำมาไว้ในบ้านตัวเองเท่าไหร่เพราะขนที่ฟูร่วงเยอะกว่าสัตว์เลี้ยงมีขนอื่น ๆ อาจทำให้เกิดแบคทีเรียเชื้อโรคทางอากาศในบ้านของคุณได้ และอีกอย่างธรรมชาติการกำเนิดของแมวก็มาจากการเป็นสัตว์ป่าด้วยการเลี้ยงที่ดีที่สุดจึงเป็นนอกบ้านของคุณ แต่ก็อย่างที่รู้ว่าคนสมัยนี้มักจะรักแมวมากจนเปรียบเขาไม่ต่างจากเพื่อนหรือพี่น้องที่คอยอยู่เคียงข้างเลยด้วยซ้ำจนเทรนด์การนำแมวมาเลี้ยงในบ้านเกิดขึ้นอย่างแพร่หลายเป็นที่เรียบร้อยไปแล้วทั้งในแถบโลกตะวันตกและโลกตะวันออกจนกลายเป็นการเลี้ยงแมวที่ใคร ๆ ก็ทำกันซึ่งทุกคนเห็นพ้องต้องกันแล้วว่าแมวเป็นสัตว์ที่มีความสะอาดมากพอและขับถ่ายค่อนข้างเป็นที่เป็นทางมากกว่าสุนัข ฉะนั้นหากกลัวเชื้อโรคของแมวที่เกิดภายในร่างกายหรือจากขนแล้วล่ะก็ทุกคนก็ย่อมสามารถเลี้ยงได้ภายใต้มาตรการปลอดเชื้อโรค 3 อย่างที่หากทาสแมวอยากรู้ก็ตามไปดูกันเลย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@litterrobot

มีโซนเลี้ยงแมวในบ้านให้สามารถเดินได้ในพื้นที่กำหนด

ในการเลี้ยงแมวในบ้านให้ปลอดเชื้อโรค คุณจะต้องมีโซนจำกัดสำหรับให้แมวเดินไปไหนมาไหนในบ้านได้อย่างชัดเจน ควรให้เขาอยู่โซนบ้านบริเวณด้านหลัง ไม่ควรให้อยู่ในโซนห้องปรับอากาศหรือโซนที่ต้องใช้ทำกิจกรรมหลักภายในบ้านได้ เพราะนอกจากแมวจะมาทำให้ข้าวของเสียหายได้แล้วยังอาจทำให้ขนร่วงเต็มเฟอร์นิเจอร์กลายเป็นการแพร่ฝุ่นละอองและเชื้อโรคได้ ยิ่งโซนหลักของบ้านเปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศตลอดเวลาก็ยิ่งไม่ควรให้แมวเดินมาถึงมาก ต้องหารั้วจำลองของเล่นหรือสร้างประตูห้องตรงทางเชื่อมโซนห้องด้านหลักและโซนหลักที่เปิด – ปิดเฉพาะเวลาจำเป็นไม่ให้แมวออกมาเดินเล่นได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@crtvduo

มีบ้านให้อยู่ต่างหากในการเลี้ยงแมวในบ้าน

คุณต้องมีบ้านให้น้องแมวอยู่อาศัยแบบแยกต่างหากภายในห้องหรือมุมหนึ่งของบ้านคุณเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องมาหาที่นอนทำขนร่วงตามมุมต่าง ๆ ในห้องให้ทำความสะอาดกันยกใหญ่ ทั้งนี้ก็เพื่อการกั้นอาณาเขตให้บ้านของเราปลอดเชื้อโรคจากแมวด้วย โดยบ้านของแมวจะเป็นโครงบ้านคล้ายบ้านของมนุษย์ที่เป็นช่องประตูให้แมวเข้าไปนอนบนเบาะพร้อมด้วยของเล่นกับตุ๊กตาที่จะทำให้น้องเขามีพื้นที่ส่วนตัวไม่รบกวนหรือแพร่กระจายเชื้อโรคสุ่มสี่สุ่มห้าในบ้านได้

จัดห้องอาหารในจุดที่แมวไม่สามารถเข้ามาถึงได้

ห้องอาหารคือห้องสำคัญที่สุดของบ้านที่ผู้คนจะต้องได้รับประทานอาหารในพื้นที่มีอากาศบริสุทธิ์และสุขลักษณะต้องสะอาดปลอดเชื้อโรคที่สุดจึงควรตั้งมุมห้องอาหารหรือห้องครัวให้อยู่ในจุดที่แมวไม่สามารถเดินเข้ามาได้ซึ่งอาจมีที่กั้นหรืออยู่ในมุมที่แมวไม่ได้กลิ่นชัดก็ได้

มาถึงในส่วนท้ายของบทความกันแล้ว เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อนๆ ทุกท่าน จะเห็นว่าการลี้ยงแมวนั้นต้องมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของพื้นที่ใช้สอยที่จำเป็นสำหรับน้องแมวด้วย อย่าเพิ่งท้อใจที่จะเลี้ยงเจ้าก้อนเหมี๊ยวพวกนี้นะคะ DooDiDo แนะนำว่าเพื่อนๆ เพียงแค่ต้องเตรียมพร้อมในการรับเลี้ยงพวกเขาเป็นพื้นฐานอยู่แล้วนะคะ น้องแมวนั้นเป็นสัตว์ที่ต้องการพื้นที่มากและยังเป็นพื้นที่ที่สะอาดหากน้องแมวของเราอยู่ในที่ไม่สะอาดและเต็มไปด้วยเชื้อโรค เชื้อโรคบางชนิดอาจจะทำให้แมวป่วยได้ง่าย เพื่อนๆจึงต้องหมั่นที่จะตรวจเช็คร่างกายของน้องแมวอย่างสม่ำเสมอด้วยนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://muncute.com