อาการนอนกรนของลูกน้อยสัญญาณบ่งบอกความเสี่ยงภาวะหยุดหายใจ

WM

ลองมาดูสาเหตุการนอนกรนในเด็ก เกิดจากปัจจัยใดบ้าง?

สวัสดีค่ะคุณแม่มือใหม่ยุคโควิคทุกๆ ท่าน วันนี้เราได้มาพร้อมกับสาระความรู้ดีๆ เกี่ยวกับ แม่และเด็กมาฝากให้ได้รู้กันเหมือนเช่นเคยนะคะ คุณพ่อ-คุณแม่รวมทั้งผู้ปกครองควรเฝ้าดูตอนที่เด็กนอนหลับเพื่อจะได้สังเกตว่าหลับแล้วเขาหยุดหายใจหรือไม่ลูกนอนกระสับกระส่ายหรือไม่หรือหยุดหายใจจนปากเขียวหรือไม่ หรืออาจมีการหายใจทางปากตลอดเวลาจนใบหน้าผิดรูปดังที่กล่าวไว้แต่แรก วันนี้เราเรื่องราวสาระความรู้ดีๆ เกี่ยวกับ แม่และเด็ก กับ สังเกตลูกน้อยเวลานอน กับ อาการนอนกรนของเจ้าเบบี๋ เสี่ยงการหยุดหายใจ เชื่อตอนนี้คุณแม่ทุกคน คงพร้อมที่จะไปรู้วิธีป้องลูกน้อยให้ปลอดภัย หากพร้อมกันแล้วเราไปอ่านสาระความรู้ที่ใบบทความครั้งนี้กันเลยค่า

การนอนหลับอย่างมีคุณภาพมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตทางร่างกายและพัฒนาการทางสมองและอารมณ์ของเด็ก เด็กอาจมีอาการนอนกรนได้บ้างเป็นครั้งคราว เช่น ขณะเป็นหวัดหรือภูมิแพ้กำเริบ ถือว่าไม่เป็นอันตรายใดๆ หากเด็กมีอาการนอนกรนเสียงดังเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกความเสี่ยงในการมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (obstructive sleep apnea) ทำให้ปริมาณออกซิเจนในเลือดต่ำลง ส่งผลให้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ เกิดอาการหายใจไม่ออก เนื่องจากทางเดินหายใจอุดตัน จึงทำให้เด็กตื่นบ่อยและนอนหลับไม่เพียงพอ จะส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางด้านต่างๆของเด็กอีกด้วย

ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จะต้องหมั่นสังเกตอาการของลูก หากพบพฤติกรรมการนอนที่ผิดปกติแล้วยังไม่เข้ารับการรักษา อาจส่งผลต่อพฤติกรรมในเด็กระยะยาวได้ เช่น การเจริญเติบโตไม่สมวัย สมาธิสั้น ทางที่ดีควรเข้ารับการตรวจจากแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการและเข้ารับการรักษา

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@wildlittlethingsphoto

สาเหตุของการนอนกรน
การนอนกรนในเด็กเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น
1. โรคอ้วนในเด็ก แป้งและไขมันที่รับประทานเข้าไปจะไปสะสมบริเวณหลอดทางเดินหายใจ
2. จะพบต่อมทอนซิลและเหนือต่อมอะดีนอยด์โต โดยเฉพาะในเด็กที่เป็นหวัด
3. ภาวะจมูกอักเสบเรื้อรังจากภูมิแพ้ เยื่อบุภายในบวมทำให้อุดตันทางเดินหายใจ
4. โรคทางสมองและกล้ามเนื้อทำงานไม่ดี มีผลต่อระบบทางเดินหายใจ
5. โครงหน้าผิดปกติ เช่น คางสั้น

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@wildlittlethingsphoto

อาการที่สังเกตได้ว่าเกิดภาวะนอนกรน
ภาวะนอนกรนเริ่มพบได้ในเด็กวัยประมาณ 3-6 ขวบ ซึ่งอาการน่าสงสัยที่คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตเห็นได้ว่าลูกอยู่ในภาวะนอนกรน และส่งผลให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับมีดังนี้
1. นอนกรนเสียงดังเป็นประจำ หายใจสะดุดติดขัด
2. นอนดื้นหรือสะดุ้งตื่นขึ้นมาระหว่างหลับ
3. มีท่านอนที่ผิดปกติ เช่น นอนคว่ำ แหงนศีรษะ เชิดคางมากกว่าปกติ
4. บางรายอาจปัสสาวะรดที่นอน
5. ปวดหัวหรืออ่อนเพลียในตอนเช้า
6. มีปัญหาการทานอาหารหรือไม่เจริญอาหาร
7. มีปัญหาทางพฤติกรรม เช่น ก้าวร้าว สมาธิสั้น ซนผิดปกติหรือง่วงซึมผิดปกติในเวลากลางวัน

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@wildlittlethingsphoto

ภาวะแทรกซ้อน
มีชนิดที่มีการอุดกั้นของทางเดินหายใจร่วมด้วยในขณะหลับ ทำให้มีออกซิเจนในเลือดลดลง หากไม่ได้รับการรักษา หรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวอาจทำให้เด็กมีสติปัญญาต่ำ ระดับการเรียนรู้ต่ำลง มีสมาธิสั้น ง่วงนอนในเวลากลางวัน ปัสสาวะรดที่นอน ความดันโลหิตสูง ความดันเลือดในปอดสูง ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจทำงานล้มเหลวได้

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับสาระความรู้ดีๆ ที่เราได้นำมาฝากให้ได้อ่านในบทความนี้ เกี่ยวกับ แม่และเด็ก หวังว่าคุณแม่จะได้รับสาระที่เราได้นำมาฝากในบทความนี้ กับ “สังเกตลูกน้อยเวลานอน กับ อาการนอนกรนของเจ้าเบบี๋ เสี่ยงการหยุดหายใจ” DooDiDo หวังว่าเพื่อนๆ คงจะได้รับความรู้จากบทความนี้ไม่มากก็น้อยนะ โรคนอนกรนแล้วหยุดหายใจในเด็กเป็นโรคที่ใช่ว่าจะหายยากเพียงแต่ต้องอาศัยความสังเกตของพ่อแม่แล้วก็รักษาให้หายได้เพื่อมิให้เกิดภาวะนอนกรน-หยุดหายใจซึ่งมีผลต่อพัฒนาการของเด็กและส่งผลถึงอนาคตที่ไม่แค่เพียงในแง่การเรียนเท่านั้น หากแต่ยังจะไปถึงขั้นเสียชีวิตได้เช่นกัน

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.bpksamutprakan.com