ห้ามพลาด 5 น้ำดื่มสมุนไพรช่วยแก้ร้อนใน!!

แนะนำ 5 เมนูเครื่องดื่มสมุนไพรไทยที่มีฤทธิ์เย็นเหมาะกับอากาศร้อนๆ

ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูที่กำลังเข้าหน้าหนาวของไทย แต่ในช่วงเวลากลางวันที่อากาศร้อนจัดคงทำให้หลายๆ คนหงุดหงิด ไม่สบายเนื้อสบายตัวจากความเหนียวเหนอะหนะ เหงื่อไหลไคลย้อยจากความร้อนของอากาศ ซึ่งวิธีคลายร้อนก็มีหลายวิธี อย่างการอยู่ในห้องแอร์ ดื่มเครื่องดื่มคลายร้อน ทานไอศกรีม ทานน้ำแข็งใส หรือหาแป้งเย็นมาทาตามตัว ก็ช่วยคลายร้อนกันได้ดีโดยปกติแล้วร้อนใน สามารถหายได้เองตามธรรมชาติ แต่อาจจะใช้เวลานานหน่อย ซึ่งคงจะสร้างความรำคาญใจไม่น้อย เพราะเมื่อเป็นแผลร้อนในแล้ว จะพูดจะกินก็ลำบาก กินอะไรก็ไม่ค่อยอร่อย ให้ความอยากอาหารน้อยลง สำหรับการรักษาแผลร้อนในนั้น ขึ้นอยู่พฤติกรรมการดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการทายา การบ้วนน้ำเกลือ รวมไปถึงการหลีกเลี่ยงรับประทานอาหารบางประเภท แต่ก็จะมีอาหารบางอย่างที่กินได้ แถมยังช่วยให้ร้อนในหายด้วย

หากใครอยากดื่มเครื่องดื่มคลายร้อนกันในช่วงร้อนนี้เราขอแนะนำน้ำดื่มสมุนไพรไทยที่มีฤทธิ์เย็นกันดีกว่า เพราะนอกจากคลายร้อนได้ดีไม่แพ้กันแล้ว ยังมีคุณประโยชน์มากกว่าน้ำอัดลมอีกด้วย ที่สำคัญหากเราทำน้ำสมุนไพรเองยังสามารถกะปริมาณน้ำตาลหรือส่วนผสมได้ด้วยตนเอง ช่วยให้ควบคุมแคลอรี และปริมาณน้ำตาลที่จะเติมลงไปได้ดี จึงไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับน้ำตาลมากเกินไป

5 สมุนไพรฤทธิ์เย็น แก้ร้อนใน ดับกระหาย คลายร้อน

เมืองไทยเรามีพืชผักหลายชนิดที่สามารถช่วยขับลมและลดความร้อนในร่างกายได้ดี เช่น มะระขี้นก ใบบัวบก กระเจี๊ยบแดง แตงกวา ดอกแค เตยหอม แตงโม มังคุด แคนตาลูป สมอไทย มะขามป้อม สมอพิเภก เป็นต้น ซึ่งบางชนิดเรานำมาทำเครื่องดื่มคลายร้อนได้ดี วันนี้เราเลยขอแนะนำน้ำดื่มสมุนไพรไทยที่เราทำเองได้ง่ายๆ แถมมากคุณค่า เก็บไว้ดื่มคลายร้อนให้ชื่นใจ

1.น้ำใบเตย (น้ำดื่มสมุนไพร ฤทธิ์เย็น แก้ร้อนใน ช่วยคลายร้อน) มีสรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจ แก้อ่อนเพลีย และลดอาการกระหายน้ำได้ดี วิธีการทำง่ายๆ ให้นำใบเตยสดมาล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 3-4 ถ้วยตวง ต้มน้ำให้เดือดแล้วใส่ใบเตยที่เตรียมไว้ลงไป ทิ้งไว้สักพักจึงเติมน้ำตาลทรายลงไปตามชอบ คนให้ละลาย จึงยกหม้อลงจากเตา นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง เวลาดื่มเติมน้ำแข็งลงไปก็ดื่มชื่นใจ หรือถ้าใครไม่ชอบหวานก็ไม่ต้องเติมน้ำตาล เป็นน้ำกลิ่นใบเตยก็หอมชื่นใจไปอีกแบบ สามารถเทใส่ขวดแช่ตู้เย็นไว้ดื่มได้

2.น้ำเก็กฮวย (น้ำดื่มสมุนไพร ฤทธิ์เย็น แก้ร้อนใน ช่วยคลายร้อน) มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยย่อย แก้ร้อนใน กระหายน้ำ วิธีการทำน้ำเก็กฮวยให้นำดอก เก็กฮวยแห้งมาล้างน้ำให้สะอาด ใส่ลงไปในหม้อที่ต้มน้ำให้เดือดแล้ว เคี่ยวต่อไปสัก 5 นาที จึงเติมน้ำตาลทรายตามชอบ จะเสิร์ฟใส่น้ำแข็งหรือแช่เย็นดื่มก็ชื่นใจดี

3.น้ำใบบัวบก (น้ำดื่มสมุนไพร ฤทธิ์เย็น แก้ร้อนใน ช่วยคลายร้อน) เป็นยาบำรุง ช่วยขับปัสสาวะ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ วิธีทำง่ายๆ ให้นำใบบัวบกมาล้างน้ำให้สะอาด นำมาหั่นหยาบๆ แล้วใส่เครื่องปั่น ผสมน้ำต้มสุกลงไปปั่นต่อให้ละเอียด จากนั้นนำน้ำที่ปั่นได้มากรองด้วยผ้าขาวบางเติมเกลือป่นลงไปคนให้เข้ากัน แล้วนำน้ำที่กรองได้แช่เย็นเก็บไว้ เมื่อจะดื่มก็เติมน้ำเชื่อมตามชอบคนให้เข้ากัน เติมน้ำแข็ง แค่นี้ก็ดื่มเย็นชื่นใจแล้ว

4.น้ำมะตูม (น้ำดื่มสมุนไพร ฤทธิ์เย็น แก้ร้อนใน ช่วยคลายร้อน) ช่วยย่อย ขับเสมหะ บำรุงธาตุ ช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ และแก้ร้อนในได้ดี วิธีทำน้ำมะตูมให้นำมะตูมแห้งไปปิ้งไฟให้มีสีเหลืองจัด แล้วใส่มะตูมลงไปเคี่ยวในน้ำต้มเดือด เติมน้ำตาลทรายให้ได้รสที่ชอบ จึงยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง เสิร์ฟกับน้ำแข็งหรือแช่เย็นไว้ดื่มตามต้องการ

5.น้ำตะไคร้ (น้ำดื่มสมุนไพร ฤทธิ์เย็น แก้ร้อนใน ช่วยคลายร้อน) ช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยขับเหงื่อและขับพิษได้ดี วิธีการทำให้นำตะไคร้สดมาล้างให้สะอาด หั่นเป็นท่อนๆ ใส่ในหม้อต้มน้ำให้เดือด เติมน้ำตาลทรายลงไปให้มีรสตามชอบ ตักเสิร์ฟใส่น้ำแข็งหรือแช่เย็นเก็บไว้ดื่ม

นอกจากน้ำดื่มที่กล่าวไป ยังมีสมุนไพรอีกหลายชนิดที่นำมาทำน้ำสมุนไพรดื่มคลายร้อนได้ดี ชอบแบบไหนลองนำมาทำดื่มกันดูนะคะ รับรองว่านอกจากช่วยคลายร้อนได้แล้ว ยังได้ประโยชน์หลายทางจากสมุนไพรไทยๆ เหล่านี้แน่นอน…ร้อนกาย แต่อย่าร้อนใจ จิบน้ำสมุนไพรไป ชื่นใจที่สุดค่ะ

ไม่ว่าจะดื่มน้ำอะไรที่ช่วยดับกระหายก็ตาม สุดท้ายแล้วการดื่มน้ำเปล่านี่แหละที่ทำให้รู้สึกสดชื่นที่สุด หาดื่มได้ง่ายแบบไม่ต้องคิดเยอะ รู้ไหมว่าร่างกายของเรานั้นต้องการน้ำในปริมาณที่เหมาะสมของในแต่ละวัน ยิ่งถ้าในตอนเช้าเราดื่มน้ำเปล่าประมาณครึ่งลิตรจะช่วยเพิ่มระบบเมตาบอลิซึมในร่างกายได้มากถึง 24 % ซึ่งจะทำให้ร่างกายสามารถขจัดไขมันได้เพิ่มขึ้น รวมถึงกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานฟิตขึ้นอีกด้วย ถ้าใครรู้สึกมีอาการอ่อนเพลีย รู้สึกไม่สดชื่น DooDiDo ขอแนะนำว่าการดื่มน้ำเปล่าจะช่วยให้ร่างกายของคุณกลับมากระปรี้กระเปร่าได้อีกครั้ง

ขอบคุณแหล่งที่มา: https://sukkaphap-d.com