หากพ่อแม่ละเลยอาหารการกินของลูกอาจเสี่ยงเป็นโรคเด็กอ้วนได้

WM

สาเหตุโรคเด็กอ้วนเกิดจากปัจจัยใดบ้าง

สวัสดีค่ะ วันนี้มีความรู้เกี่ยวกับโรคอ้วนในเด็ก มาฝากให้กับคุณพ่อและคุณแม่ทุกวัน เชื่อว่าทุกวันนี้เรากับลูกก็รับประทานอาหารเหมือนกับคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งทุกวันนี้ภาวะเด็กอ้วน มีเพิ่มเยอะขึ้นทุกวัน เนื่องจากการรับประทานอาหารที่มากเกินไปในแต่ละวัน ที่เราปล่อยให้ลูกนั้นรับประทานเข้าไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยความรักลูกอยากลูกได้กทานอาหารที่อร่อยโดยไม่นึกถึงหลีกโภชนการในการทานอาหารในแต่ละช่วงวัยอายุ ทำให้  อ้วนจากการรับประทานอาหารมากเกินไปหรือรับประทานชนิดของอาหารที่ไม่เหมาะสม ร่วมกับมีการออกกำลังน้อยและขาดกิจกรรมที่ทำให้เกิดต้องใช้พลังงาน วันนี้เรามีเรื่องที่ พ่อแม่ควรใจ อาหารการกินของเบบี๋ ไม่ได้เป็นภาวะโรคเด็กอ้วน

โรคเด็กอ้วนเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุโดยมาจากทั้งปัยจัยที่เกิดจากภายนอกและภายใน โดยส่วนใหญ่ปัจจัยภายนอกจะเกิดจากการดำเนินชีวิตในยุคปัจจุบันที่เร่งรีบกันมากขึ้น มีพฤติกรรมการบริโภคที่เน้นความสะดวกรวดเร็วเป็นหลัก กินเยอะขึ้น และ ไม่ค่อยออกกำลังกาย ทางด้านปัจจัยภายในส่วนใหญ่จะเกิดจากเรื่องของทางด้านพันธุกรรมที่มีคนในครอบครัวอ้วน หรือเป็นโรคที่เกี่ยวกับฮอร์โมน เช่น  Growth hormone deficiency (โรคขาดฮอร์โมนเจริญเติบโต) , Hypothyroid (โรคไทรอยด์ต่ำ) , Cushing syndrome (ภาวะการหลั่งสารเสตียรอยด์ในร่างกายมากผิดปกติ) เป็นต้น

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/photos/mWpXom9Ry1s

วิธีการสังเกตได้ง่ายๆ สำหรับเด็กที่เป็นโรคอ้วน คือ ถ้าลูกน้อยกินเยอะส่วนใหญ่มักจะมีการเจริญเติบโตทางด้านร่างกายควบคู่กันไปด้วย เช่น ความสูงของเด็กจะเพิ่มขึ้นแต่ถ้าอ้วนจากเป็นโรคอย่างอื่น มักจะเตี้ย หรือมีความผิดปกติอื่นให้เห็นร่วมด้วย หากคุณพ่อคุณแม่ไม่แน่ใจว่าบุตรหลานเป็นโรคอ้วนหรือไม่ และ เกิดจากสาเหตุอะไร ลองขอรับคำปรึกษาและแนะนำจากแพทย์เพื่อให้การวินิจฉัยและแนะนำรักษาได้อย่างถูกวิธี

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/photos/5za6niH4qpw

ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนของเด็กอ้วนเกิดขึ้นได้ทุกในระบบของร่างกาย

  • ด้านระบบประสาทและสมอง ทำให้มีอาการปวดศีรษะ ความดันในสมองสูง ตาอาจพร่ามัว
  • ด้านระบบทางเดินอาหาร ทำให้มีไขมันไปเกาะตับ เกิดตับอักเสบ จนถึงตับวายได้
  • ด้านระบบทางเดินหายใจ มีอาการนอนกรน ถ้าเป็นมากอาจมีภาวะหยุดหายใจ ซึ่งอันตรายต้องรีบเข้ารับการรักษา
  • ด้านระบบหลอดเลือดทำให้เกิดความดัน และมีไขมันในเลือดสูง เสี่ยงต่อภาวะโรคหัวใจ
  • ด้านระบบต่อมไร้ท่อ ทำให้เกิดโรคเบาหวาน
  • ด้านผิวหนังพบมีการติดเชื้อราตามข้อพับต่างๆ ได้ง่ายเนื่องจากมีความชื้นสะสมในบริเวณดังกล่าว
  • ด้านปัญหาสุขภาพจิตมักไม่มั่นใจในตัวเองเวลาเข้าสังคม และอาจมีภาวะซึมเศร้า
  • ด้านกระดูก มีอาการมีปวดขาและขาอาจโก่งได้ เนื่องจากการรับน้ำหนักของร่างกาย
WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/photos/FtZL0r4DZYk

คำแนะนำเบื้องต้นในการดูแล “มื้ออาหาร” ของลูกน้อย

  1. ห้ามให้เด็กๆกินขนมตามใจชอบ เช่น ขนมกรุบกรอบ น้ำหวาน น้ำอัดลม อาหารจานด่วน ที่มีคุณค่าทางอาหารไม่มากแต่ให้พลังงานสูง ทำให้เด็กเสี่ยงเป็นโรคอ้วน ขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย
  2. ควรจัดเตรียมด้านโภชนาการและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของลูก
  3. ทำเมนูอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลด หวาน มัน เค็ม และ เพิ่มผักผลไม้ทุกมื้ออาหาร
  4. ส่งเสริมให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น วิ่ง กระโดดเชือก เต้นแอโรบิค
  5. เด็กวัยเรียน 6 -12 ปี ควรได้รับพลังงาน 1,600 กิโลแคลอรี คือ ข้าว หรือ แป้ง 8 ทัพพี ,เนื้อสัตว์ 6 ช้อนกินข้าว ,ผัก 12 ช้อนกินข้าว ,ผลไม้ 3 ส่วน เด็กวัยเรียน ต้องการอาหารเพื่อให้มีพลังงานเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโต และพัฒนาการของสมอง ปริมาณพลังงานโดยประมาณที่เด็กวัยเรียนควรได้รับใน 1 วัน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับสาระความรู้ดีๆ ที่ DooDiDo ได้นำมาฝากให้กับคุณพ่อและคุณแม่มือใหม่ กับเรื่องพ่อแม่ควรใส่ใจเรื่องของอาหารการกินของเบบี๋ ไม่ได้เป็นภาวะโรคเด็กอ้วน หากเด็กอ้วนเพราะกินมากเกินไป แพทย์จะแนะนำให้ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย การรักษาจะมีประสิทธิผลมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับความใส่ใจของพ่อแม่ในการให้เด็กกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงส่งเสริมให้เด็กออกกำลังกาย นอกจากนี้การนำเด็กมารักษาแต่เนิ่นๆตั้งแต่ยังเล็กจะได้ประสิทธิผลกว่ารักษาในช่วงวัยรุ่นนะค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.bpksamutprakan.com