วิธีเลือกใช้วิตามินซีอย่างไร ให้ผิวกระจ่างใสอย่างปลอดภัย?

WM

วิธีเลือกสกินแคร์อย่าง “Vitamin C” ให้เหมาะกับผิวที่แพ้ง่าย

ทุนเดิมสำหรับสาวๆ ที่มีผิวแพ้ง่ายคงจะเหนื่อยเพลียระเหี่ยใจมากๆ อยู่แล้วใช่มั้ยล่ะคะ ที่ไม่ว่าจะใช้อะไรที่ใครๆบอกว่าดีแค่ไหนก็แพ้ อันนั้นก็ยังแพ้ อันนี้ก็แพ้ อย่างไรก็ตามสำหรับผิวแพ้ง่ายนั้นก็มีสาเหตุและก็ปัจจัยอื่นๆ เข้ามาอีกด้วย อย่างเช่น สภาพอากาศ มลภาวะ และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่เหมาะสมกับตัวเอง แต่ว่าสาวๆ อย่าเพิ่งถอดใจไปนะคะ ถ้าหากว่าสาวๆ ต้องการที่จะมีผิวกระจ่างใสแต่เป็นคนผิวแพ้ง่ายนั้นก็ยังมีตัวช่วยที่จะตอบโจทย์นั้นอยู่ค่ะ เพราะในปัจจุบันก็มีสกินแคร์ที่มีสารสกัดต่างๆ ถูกผลิตออกมามายมายให้เราได้เลือกใช้ตามความต้องการ มีทั้งถูกและแพงปะปนกันไป

เรื่องผิวกระจ่างใสนี่เป็นเรื่องที่ไม่ว่าสีผิวแบบไหน สภาพผิวไหนๆ ก็ต้องการ ยิ่งถ้าเป็นคนที่มีผิวขาวเป็นทุนเดิมอยู่ หากไม่ได้รับการบำรุงและปกป้องผิวจากแสงแดดให้เพียงพอ ก็อาจส่งผลให้ผิวดูอ่อนล้า หย่อนคล้อยและหมองคล้ำอย่างเห็นได้ชัดได้ ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ชัดเจนว่า “ผิวของคุณกำลังอยู่ในขั้นวิกฤตแล้ว” ซึ่งวันนี้เราจะมาทำความเข้าใจสกินแคร์สามัญประจำบ้านอย่าง “Vitamin C” กันมากขึ้น พร้อมบอกวิธีเลือกวิตามินซีเซรั่มให้เหมาะกับผิวที่บอบบางแพ้ง่ายกันค่ะ หลักๆ แล้ววิตามินซีนั้นช่วยบำรุงผิวกันอยู่ 3 เรื่อง

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@kalosskin

ช่วยต้านอนุมูลอิสระ : วิตามินซีจะช่วยเข้าไปทำลายอนุมูลอิสระที่สามารถสะสมและก่อตัวในรูปแบบจุดด่างดำและริ้วรอยบนผิว ได้

ช่วยผิวกระจ่างใส: ช่วยทำให้ลดจุดด่างดำบนใบหน้าที่เกิดจากสภาวะผิวที่ไม่ปกติ ให้ผิวกลับมาดูเนียนกระจ่างใส

ช่วยกระชับผิว : วิตามินซีเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน เมื่อผิวเรามีคอลลาเจนที่เพียงพอจะทำให้ผิวกระชับ ไม่หย่อนคล้อย

โดยหลักในการเลือกวิตามินซีเซรั่มสำหรับผิวแพ้ง่ายมีด้วยกัน 4 ข้อหลัก ๆ

1. เลือกแพ็คเก็จจิ้งให้ถูกสำคัญที่สุด!

การเลือกซื้อวิตามินซีดี ๆ สักตัวข้อแรกที่ต้องดูไม่ใช่เรื่องส่วนผสมค่ะ แต่เป็นเรื่อง “แพ็คเก็จจิ้ง” เรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นสาวผิวแพ้ง่ายหรือมีสภาพผิวไหน ๆ ก็ต้องศึกษาไว้ เพราะอาจจะทำให้เราได้ไม่คุ้มกับที่จ่ายแพงไป ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าประเภทของวิตามินซีที่นิยมนำมาทำเป็นสกินแคร์ คือ L-ascorbic acid ซึ่งเป็นวิตามินซีที่มีความเสถียรต่ำ เมื่อโดนแสงและอ็อกซิเจน จะเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น วิตามินซีจะถูกลดทอนประสิทธิภาพลงให้เป็น erythrulose (สาร self-tanning) คือ สารประกอบทำให้ผิวคล้ำโดยไม่ต้องโดนแดด หมายความว่าแทนที่วิตามินซีจะช่วยทำให้ผิวเรากระจ่างใสขึ้น กลับทำให้ผิวหมองคล้ำและดูแก่ลงด้วยค่ะ ดังนั้นข้อแนะนำคือ ให้เลือกวิตามินซีเซรั่มที่มาในแพ็คเก็จจิ้งแบบทึบแสง ไม่ให้แสงลอดผ่านเข้าไปในผลิตภัณฑ์ และควรเป็นหัวปั้มเพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเข้าไปข้างใน ไม่แนะนำแพ็จเก็จจิ้งแบบหัวดรอปค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@vivalunastudios

2. ใช้ Vitamin C เข้มข้นไม่เกิน 10%

เข้าใจว่าหลาย ๆ คนพอเห็นวิตามินซีเข้มข้นสูง ๆ อย่าง 15 – 20% ก็จะตาลุกวาว ยิ่งเข้มข้นมากเท่าไหร่ยิ่งดี อันนี้เป็นความเชื่อที่ไม่ถูกเสมอไปค่ะ เพราะความเข้มข้นเพียง 10% ก็สามารถช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้ ความเข้มข้นที่สูงขึ้นจะช่วยฟื้นบำรุงผิวได้ดีขึ้นจริง แต่ความเข้มข้นสูงไม่ได้เหมาะกับทุกสภาพผิว ยิ่งความเข้มข้นสูงยิ่งเสี่ยงต่อการระคายเคืองได้ง่าย บางรายถึงกับเป็นรอยแดง เนื่องจากวิตามินซีรบกวนผิวมากเกินไป

3. หลีกเลี่ยง Vitamin C ที่มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์

น้ำหอมและแอลกอฮอล์ในสกินแคร์เป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับผิวแพ้ง่าย อย่างน้ำหอม (Fragrance) มีงานวิจัยจาก The American Contact Dermatitis Society (ACDS) ว่า สารประกอบที่ทำให้เกิดกลิ่นสังเคราะห์ในน้ำหอมก่อให้เกิดการระคายเคืองง่าย โดยทั่วไปมักจะมี 8 ตัว คือ cinnamic alcohol, cinnamic aldehyde, eugenol, geraniol, alpha amyl cinnamic alcohol และ hydroxycitronellal ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้จะยิ่งเข้าไปทำให้ผิวยิ่งระคายเคือง ซึ่งอาจก่อให้เกิดรอยแดงและสิวได้

แอลกอฮอล์ ที่มักใส่ไปใน Skincare เพื่อต้องการให้สกินแคร์ซึมเข้าสู่ผิวได้ไวขึ้น เข้าไปทำปฏิกิริยาบนชั้นผิวทำให้ผิวแมทท์ได้ไวขึ้น ไม่ทิ้งความมันไว้ ส่งผลให้หน้าแห้งได้ทันที เมื่อผิวรู้สึกว่าขาดน้ำมันมากเกินไปก็จะผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นกว่าเดิม

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/jcomp

4. เลือกใช้ Vitamin C Derivative

บางคนต่อให้ใช้วิตามินซีเข้มข้นต่ำกว่า 10% แล้ว ก็ยังคงแพ้และเกิดอาการระคายเคืองอยู่ จนถอดใจต้องเลิอกใช้วิตามินซีไปเลย แต่ในโลกนี้ไม่ได้มีวิตามินซี L-Ascorbic Acid อยู่แค่ชนิดเดียวเท่านั้น เรายังมีตัวเลือกดีๆ ที่ให้ผลลัพธ์ดีคล้ายกัน เรียกว่า Vitamin C Derivatives หรือ อนุพันธ์ของวิตามินซี เป็นวิตามินซีที่ผ่านการทดสอบแล้วว่า มีความเสถียรของผลิตภัณฑ์มากกว่าวิตามินซีแบบแอสคอร์บิก แอซิด และมีอัตราที่จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่ำกว่า เป็นมิตรกับผิวมากกว่า มีอยู่หลายชนิด เช่น Magnesium Ascorbyl-2-Phosphate, Caprylyl 2 – Glyceryl Ascorbate, Ascorbic Acid-2-Glucoside เป็นต้น

เป็นอย่างไรบ้างคะกับ “วิธีการเลือกใช้วิตามินให้ผิวกระจ่างใส สำหรับผิวแพ้ง่าย” ที่ DooDiDo นำมาฝากทุกคนในวันนี้ หลังจากอ่านจบแล้วอาจจะมีบางคนที่กำลังคิดว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและจุกจิกไป แต่สาวๆอย่าลืมนะคะว่าปัญหาผิวแพ้ง่ายที่สาวๆต้องพบเจอมาโดยตลอดนั้นก็เป็นเรื่องใหญ่พอสมควรเลย เพราะฉะนั้นแล้วหากว่าสาวๆลองหันมาใส่ใจกับเรื่องเล็กๆ น้อยเหล่านี้ นั่นก็อาจจะช่วยเรื่องปัญหาที่สะสมของสาวๆ ได้บ้างไม่มากก็น้อย

ขอบคุณแหล่งที่มา: https://gorgiusgirls.com